อดีตเลขาฯ รมว.ต่างประเทศ เตือนรัฐบาลต้องระวังอย่าให้เรื่องการถอนทหารทำไทยเสียเปรียบกัมพูชา ขณะเดียวกันต้องขอแผนบริหารจัดการการขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลกของเขมรมาตรวจดูว่าใช้แผนที่ระวาง 1 ต่อ 200,000 ที่กินพื้นที่ประเทศไทยเข้ามาจำนวนมากหรือไม่
13 ส.ค.54 นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ว่าที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ อดีตเลขาธิการ รมว.ต่างประเทศ แถลงถึงการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ (กต.)ในรัฐบาลชุดใหม่ว่า ภาระหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีมากมาย หวังว่ารัฐมนตรีคนใหม่จะทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะคดีปราสาทพระวิหารระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ขณะนี้ยังค้างอยู่ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถึงแม้จะมีการสั่งให้ถอนทหารออกจากพื้นที่โดยรอบ แต่ในทางปฏิบัติยังไม่มีการดำเนินการของทั้งสองฝ่าย รัฐบาลควรมีความระมัดระวังในการเจรจาเรื่องใดๆ กับทางกัมพูชา อย่าให้เรื่องการถอนทหารทำให้ไทยเสียเปรียบ โดยให้ดำเนินการปรึกษากับฝ่ายความมั่นคงเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ
นายชวนนท์กล่าวว่า การขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชา แม้ขณะนี้ประเทศไทยได้ถอนตัวจากการเป็นภาคีมรดกโลกแล้ว แต่ขั้นตอนที่มีความสมบูรณ์ประเทศไทยต้องส่งจดหมายไปยังยูเนสโก จึงอยากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งตัดสินใจดำเนินการ เพราะมีกระแสระบุว่ารัฐบาลมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชา และจะมีการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศ
“ขอให้รัฐบาลไปขอแผนบริหารจัดการของกัมพูชาที่ได้ส่งไปถึงยูเนสโก จากนั้นให้เปิดเผยต่อประชาชนให้เห็นแผนที่ฉบับนั้น ว่าจะเป็นแผนที่ที่ใช้ระวาง 1 ต่อ 2 แสน และกินพื้นที่ประเทศไทยเข้ามาเป็นจำนวนมากใช่หรือไม่ เพราะสิ่งนี้คือกุญแจดอกสำคัญระหว่างความสัมพันธ์ของไทยและกัมพูชา” นายชวนนท์กล่าว
วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ฮุน เซน หวัง ปู ตกลงแบ่งแก๊สฯ-น้ำมัน 80:20
โดย ทรงฤทธิ์ โพนเงิน | ||
| ||
เผยศาลนัดไต่สวนสายลับเขมร ๑๕ ส.ค. ย้ำให้ปล่อยตัว
ฟิฟทีนมูฟ – กงสุลเขมรประจำประเทศไทยเผย ศาลฯ นัดไต่สวนคดีสายลับเขมรจารกรรม ๑๕ ส.ค. ที่จะถึง ระบุหารือทนายเตรียมยื่นเรื่องขอปล่อยตัวในวันพิจารณาคดี บอกญาติอย่าเป็นห่วงกงสุลฯ จะทำการแทนเพราะคดีนี้เป็นคดีพิเศษ ย้ำเจ้าหน้าที่ไทยไม่มีหลักฐานมัดตัว ศาลฯ ต้องปล่อยตัวกลับบ้าน
สำนักข่าวซีอีเอ็นของกัมพูชา (๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๔) รายงานว่า ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ ๑๕ สิงหาคม ที่จะถึงนี้ ศาลจังหวัดศรีสะเกษจะเปิดไต่สวนคดีสายลับชาวกัมพูชาเป็นครั้งที่สอง หลังเจ้าหน้าที่ไทยนำตัวสายลับสามคน ซึ่งประกอบด้วยชายชาวกัมพูชา ชื่อนายอึ้ง กิมไท1 ร่วมกับชาวเวียตนามและชาวไทย ขึ้นฟ้องศาลฯ ในข้อทำการจารกรรมข้อมูลที่ตั้งทางทหาร หลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ เป็นการเลื่อนมาจากกำหนดครั้งก่อนหน้า คือ เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไทยยังไม่มีหลักฐานครบถ้วนในการมัดตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง สาม โดยเฉพาะกับชายชาวกัมพูชาคนดังกล่าว
นายเนต เซรี2 กงสุลใหญ่กัมพูชาประจำประเทศไทย กล่าวว่า ศาลจังหวัดศรีสะเกษจะเปิดไต่สวนคดีกับผู้ต้องหาชาวกัมพูชาและผู้ต้องหาร่วม อีก ๒ คน โดยศาลฯ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ไทยส่งเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ให้แก่ศาลในขณะทำการไต่สวน โดยก่อนการไต่สวนตนจะหารือกับคณะทนายของนายอึ้ง กิมไท โดยฝ่ายกัมพูชารักษาจุดยืนเดิม คือ ร้องขอให้ศาลฯ ปล่อยตัวชายชาวเขมร เนื่องจาก นายอึ้ง กิมไท ไม่ได้กระทำการจารกรรมในดินแดนไทย ตามที่รัฐบาลก่อนของไทยได้ตั้งข้อกล่าวหา เป็นเพียงคนทำมาหากินและเป็นชาวเขมรที่ซื่อตรง เดินทางเข้าประเทศไทยโดยถูกกฎหมาย นอกจากนี้ ทนายความจะยื่นเอกสารต่อศาลฯ ขอให้ปล่อยตัว ในวันที่ ๑๕ สิงหาคม ที่จะถึงนี้ด้วย
นายเนต เซรี กล่าวว่า สุขภาพของนายอึ้ง กิมไท แข็งแรงเป็นปกติดี พร้อมระบุว่า กรณีผู้ต้องหาอึ้ง กิมไท เป็นกรณีพิเศษ ดังนั้น ขอให้ครอบครัวอย่าได้กังวล กงสุลกัมพูชาประจำประเทศไทยจะเป็นผู้ทำหน้าที่แทนในการสู้คดีในศาลไทย เพรา
สำนักข่าวซีอีเอ็นของกัมพูชา (๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๔) รายงานว่า ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ ๑๕ สิงหาคม ที่จะถึงนี้ ศาลจังหวัดศรีสะเกษจะเปิดไต่สวนคดีสายลับชาวกัมพูชาเป็นครั้งที่สอง หลังเจ้าหน้าที่ไทยนำตัวสายลับสามคน ซึ่งประกอบด้วยชายชาวกัมพูชา ชื่อนายอึ้ง กิมไท1 ร่วมกับชาวเวียตนามและชาวไทย ขึ้นฟ้องศาลฯ ในข้อทำการจารกรรมข้อมูลที่ตั้งทางทหาร หลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ เป็นการเลื่อนมาจากกำหนดครั้งก่อนหน้า คือ เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไทยยังไม่มีหลักฐานครบถ้วนในการมัดตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง สาม โดยเฉพาะกับชายชาวกัมพูชาคนดังกล่าว
นายเนต เซรี2 กงสุลใหญ่กัมพูชาประจำประเทศไทย กล่าวว่า ศาลจังหวัดศรีสะเกษจะเปิดไต่สวนคดีกับผู้ต้องหาชาวกัมพูชาและผู้ต้องหาร่วม อีก ๒ คน โดยศาลฯ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ไทยส่งเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ให้แก่ศาลในขณะทำการไต่สวน โดยก่อนการไต่สวนตนจะหารือกับคณะทนายของนายอึ้ง กิมไท โดยฝ่ายกัมพูชารักษาจุดยืนเดิม คือ ร้องขอให้ศาลฯ ปล่อยตัวชายชาวเขมร เนื่องจาก นายอึ้ง กิมไท ไม่ได้กระทำการจารกรรมในดินแดนไทย ตามที่รัฐบาลก่อนของไทยได้ตั้งข้อกล่าวหา เป็นเพียงคนทำมาหากินและเป็นชาวเขมรที่ซื่อตรง เดินทางเข้าประเทศไทยโดยถูกกฎหมาย นอกจากนี้ ทนายความจะยื่นเอกสารต่อศาลฯ ขอให้ปล่อยตัว ในวันที่ ๑๕ สิงหาคม ที่จะถึงนี้ด้วย
นายเนต เซรี กล่าวว่า สุขภาพของนายอึ้ง กิมไท แข็งแรงเป็นปกติดี พร้อมระบุว่า กรณีผู้ต้องหาอึ้ง กิมไท เป็นกรณีพิเศษ ดังนั้น ขอให้ครอบครัวอย่าได้กังวล กงสุลกัมพูชาประจำประเทศไทยจะเป็นผู้ทำหน้าที่แทนในการสู้คดีในศาลไทย เพรา
จัดประชุมทหารเขมรด้านพระวิหารแจ้งข่าวจุดยืนใหม่ฮวยเซง
ฟิฟทีนมูฟ — เขมรจัดประชุมผู้บัญชาการด้านพระวิหารที่ช่องตาเฒ่า แจ้งข่าวจุดยืนใหม่ของฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ต้องการสานต่อความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทยหลังรัฐบาลรัฐไทยใหม่ของ ทักษิณ ขึ้นครองอำนาจ ย้ำคำกล่าวฮุน เซน ที่ระบุเป็นศักราชใหม่ในความสัมพันธ์ไทย-เขมร
ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของกัมพูชาจัดประชุมทหารที่ประจำการในสมรภูมิชาย แดนไทย-กัมพูชา เพื่อแจ้งข่าวจุดยืนทางนโยบายใหม่ของหัวหน้ารัฐบาลกัมพูชา คือการสานต่อความสัมพันธ์อีกครั้งระหว่างกัมพูชาและไทย โดยจัดขึ้นในพื้นที่ช่องตาเฒ่า1 ต.กันต๊วต2 อ.จวมกสาน3 จ.พระวิหาร เมื่อช่วงเช้า (๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๔) ตามรายงานของสำนักข่าวซีอีเอ็นของกัมพูชา
พล.อ.กุน กีม รองผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกัมพูชา4 และเป็นผู้บัญชาการประจำพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ประธานในการประชุมแจ้งข่าวแก่ผู้บัญชาการหน่วยและนายทหารประจำพื้นที่ กล่าวว่า ด้วยการนำอันชาญฉลาดของ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทำให้กัมพูชาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ๔ ด้าน คือ นโยบาย การทหาร การทูต และในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ในการหาหนทางแก้ปัญหาพรมแดนกับประเทศไทยอย่างสันติวิธี พร้อมแจ้งคำประกาศจุดยืนใหม่ของ ฮุน เซน ที่กล่าวระหว่างพิธีมอบปริญญาบัตรที่มหาวิทยาลัยทรัพยากรมนุษย์ ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม และยกคำประกาศที่ว่า “ขณะนี้เป็นโอกาสดีที่ผมประกาศว่าเป็นศักราชใหม่ ในความร่วมมือระหว่างรัฐบาลพระราชอาณาจักรกัมพูชา กับรัฐบาลพระราชาอาณาจักรไทยที่นำโดยพรรคเพื่อไทย” ขึ้นแจ้งในที่ประชุม
ในการจัดประชุมดังกล่าวมีนายทหารกัมพูชาด้านปราสาทพระวิหารเข้าร่วมเป็น จำนวนมาก อาทิ เช่น พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาการในกองทัพแห่งชาติกัมพูชา เป็นที่สังเกตว่าการจัดประชุมครั้งนี้ นายทหารกัมพูชาเข้าร่วมในชุดลำลอง ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหารแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งผลการประชุมสันนิบาตคณะกรรมการกลาง พรรคประชาชนกัมพูชา ครั้งที่ ๓๖ สมัยที่ ๕ ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา ๒ วัน ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ด้วยเช่นกัน
ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของกัมพูชาจัดประชุมทหารที่ประจำการในสมรภูมิชาย แดนไทย-กัมพูชา เพื่อแจ้งข่าวจุดยืนทางนโยบายใหม่ของหัวหน้ารัฐบาลกัมพูชา คือการสานต่อความสัมพันธ์อีกครั้งระหว่างกัมพูชาและไทย โดยจัดขึ้นในพื้นที่ช่องตาเฒ่า1 ต.กันต๊วต2 อ.จวมกสาน3 จ.พระวิหาร เมื่อช่วงเช้า (๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๔) ตามรายงานของสำนักข่าวซีอีเอ็นของกัมพูชา
พล.อ.กุน กีม รองผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกัมพูชา4 และเป็นผู้บัญชาการประจำพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ประธานในการประชุมแจ้งข่าวแก่ผู้บัญชาการหน่วยและนายทหารประจำพื้นที่ กล่าวว่า ด้วยการนำอันชาญฉลาดของ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทำให้กัมพูชาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ๔ ด้าน คือ นโยบาย การทหาร การทูต และในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ในการหาหนทางแก้ปัญหาพรมแดนกับประเทศไทยอย่างสันติวิธี พร้อมแจ้งคำประกาศจุดยืนใหม่ของ ฮุน เซน ที่กล่าวระหว่างพิธีมอบปริญญาบัตรที่มหาวิทยาลัยทรัพยากรมนุษย์ ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม และยกคำประกาศที่ว่า “ขณะนี้เป็นโอกาสดีที่ผมประกาศว่าเป็นศักราชใหม่ ในความร่วมมือระหว่างรัฐบาลพระราชอาณาจักรกัมพูชา กับรัฐบาลพระราชาอาณาจักรไทยที่นำโดยพรรคเพื่อไทย” ขึ้นแจ้งในที่ประชุม
ในการจัดประชุมดังกล่าวมีนายทหารกัมพูชาด้านปราสาทพระวิหารเข้าร่วมเป็น จำนวนมาก อาทิ เช่น พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาการในกองทัพแห่งชาติกัมพูชา เป็นที่สังเกตว่าการจัดประชุมครั้งนี้ นายทหารกัมพูชาเข้าร่วมในชุดลำลอง ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหารแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งผลการประชุมสันนิบาตคณะกรรมการกลาง พรรคประชาชนกัมพูชา ครั้งที่ ๓๖ สมัยที่ ๕ ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา ๒ วัน ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ด้วยเช่นกัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)