ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งถือเป็นนัดสุดท้ายของ ครม.รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักชื่นมื่น โดยนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งต่อ ครม.ว่า ทาง กกต.ได้แจ้งมาแล้วว่า ในการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 12 ก.ค.จะยังรับรองได้ไม่ครบ 475 คน หรือ 95% ทั้งนี้นายกฯ ได้แจ้งต่อ ครม.ว่า ครั้งนี้จะเป็นการประชุม ครม.ครั้งสุดท้าย แม้ว่าในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ศาลโลกจะมีคำวินิจฉัย กรณีทางการกัมพูชาร้องขอให้พิจารณาออก "มาตรการชั่วคราว" เพื่อกดดันให้ฝ่ายไทยถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท ใกล้บริเวณปราสาทพระวิหาร แต่ก็ไม่น่าจะมีเหตุผลที่จะต้องเรียกประชุม ครม.อีก จากนั้น นายกฯ จึงมอบให้นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ชี้แจงประเมินแนวทางคำตัดสินของศาลโลกให้ ครม.ทราบ
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นายกษิต รายงานว่า แนวทางที่ศาลโลก น่าจะมีคำตัดสินออกมาแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือ 1.ศาลโลกปฏิเสธคำร้องของกัมพูชา 2.ศาลรับคำร้อง โดย 2.1 ให้มีการบังคับใช้โดยให้ถอนกำลังทหารของทั้งสองฝ่าย ออกจากพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร 2.2 บังคับใช้กับไทยฝ่ายเดียว โดยเห็นด้วยกับมูลฟ้องของฝ่ายกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ประเมินผลจากการให้ถ้อยแถลงของคณะทำงานฝ่ายกฎหมายเพื่อต่อสู้คดีของ ฝ่ายไทยบอกว่า การให้ถ้อยแถลงของฝ่ายไทยถือว่าสมบูรณ์แบบมาก จะถือเป็นบรรทัดฐานที่ดี สำหรับการตัดสินวินิจฉัย เพราะองค์คณะศาลโลก ถ้าวินิจฉัยไปตามเนื้อผ้าน่า ผลออกมาน่าจะเป็นคุณกับประเทศไทย แต่ถ้ามีเรื่องการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะไม่เป็นคุณกับฝ่ายไทย อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงการต่างประเทศคาดการณ์ว่า องค์คณะศาลโลกจำนวน 15 คน ล้วนแล้วแต่เป็นนักกฎหมายระดับโลกทั้งนั้น จึงน่าจะตัดสินไปตามเนื้อผ้า ขณะที่สุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานต่อสู้คดีประสาทพระวิหาร
"กษิต"ลัดฟ้าฟังคำสั่งศาลโลกกรณีกัมพูชาร้องคุ้มครองชั่วคราว"พระวิหาร"
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น