แฟ้มภาพ: พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา
ตามรายงานของบายนทีวีของกัมพูชาเมื่อช่วงเที่ยง (๔ มิถุนายน ๒๕๕๔) ในระหว่างการเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ของเอกอัครราชทูตพม่าประจำกัมพูชา ที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตพม่าได้แสดงความสนับสนุนต่อความพยายามของกัมพูชา ที่ต้องการยุติปัญหาความขัดแย้งพรมแดนที่ต่อเนื่องยาวนานกับประเทศไทย
นายอูโช ตัน อุง (U.Cho Htun Aung) เอกอัครราชทูตพม่าประจำกัมพูชา กล่าวว่าการต่อต้านขัดขวางไม่รับผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียของฝ่ายทางการไทย เป็นท่าทีที่เป็นลบส่งผลให้เกิดการปะทะกันด้วยอาวุธกันได้อีก ที่จะทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่ดีต่อประเทศต่าง ๆ ภูมิภาค อย่างเช่นสมาคมอาเซียน และยังกล่าวต่อว่า ต่อการที่รัฐมนตรีกลาโหมของประเทศทั้งสองเห็นชอบร่วมกันให้มีทีมสำรวจเข้ามา ในพื้นที่ขัดแย้ง เป็นเรื่องที่ส่งผลดีที่จะก้าวไปสู่การหาช่องทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตพม่าประจำกัมพูชา ได้เล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งพรมแดนที่ผ่านมาระหว่างพม่ากับไทยว่า พม่าและไทยมีสถานการณ์พรมแดนกับไทยมายาวนาน แต่ความไม่ลงรอยทั้งหมดนั้นทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันแก้ปัญหา โดยการเข้าร่วมของคณะกรรมการแก้ไขความขัดแย้ง
พล.อ.เตีย บัญ ได้แสดงความชื่นชมต่อจุดยืนของพม่า และกล่าวว่า สำหรับฝ่ายกัมพูชารับประกันอย่างหนักแน่นมาโดยตลอดในการแสวงหาช่องทางแก้ ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี พร้อมทั้งพยายามป้องกันทุกอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นและทำให้เกิดการปะทะกัน ด้วยอาวุธอีก นอกจากนี้ พล.อ.เตีย บัญ กล่าวต่อว่าเป็นฝ่ายไทยที่ยืนยันความตั้งใจที่จะยึดเอาปราสาทพระวิหารและ แผ่นดินของเขมร ซึ่งเงื่อนไขนี้เป็นเรื่องที่เขมรไม่อาจรับได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น