บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555

กต. ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา

กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา

เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๕ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีบางฝ่ายมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและอาจไม่ทราบพัฒนาการต่าง ๆ เกี่ยวกับการเข้าตรวจดูปราสาทพระวิหารของผู้เชี่ยวชาญประเทศต่าง ๆ และเหตุการณ์ทหารกัมพูชายิงเฮลิคอปเตอร์ของไทย ดังนี้

๑. การเดินทางไปปราสาทพระวิหารของผู้เชี่ยวชาญเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๔ รัฐบาลกัมพูชาเป็นผู้จัดและได้มีหนังสือเชิญผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศ รวมถึงยูเนสโกและประเทศไทย อย่างไรก็ดี โดยที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยังไม่ได้มีคำตัดสินในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี ๒๕๐๕ ฝ่ายไทยจึงไม่ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมการตรวจพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ จากการประสานกับเจ้าหน้าที่ยูเนสโกประจำประเทศไทยได้รับการยืนยันว่าการตรวจพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นการดำเนินงานภายใต้กรอบของยูเนสโก โดยเจ้าหน้าที่ของยูเนสโกประจำกัมพูชาและผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอื่น ๆ เข้าร่วมตามคำเชิญของรัฐบาลกัมพูชา และขอเรียนว่าไทยยืนยันท่าทีเดิมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งมาตรการชั่วคราวของศาลฯ โดยเห็นว่า ทั้งสองประเทศควรร่วมมือกันในการหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจขัดกับคำสั่งของศาลฯ โดยเฉพาะที่ระบุ “ให้ทั้งสองฝ่ายงดเว้นการกระทำใด ๆ ที่ทำให้ข้อพิพาทในศาลฯ ทวีความร้ายแรงหรือแก้ไขยากขึ้น” ซึ่งในเรื่องนี้ฝ่ายไทยได้มีหนังสือแจ้งกัมพูชาให้ทราบท่าทีของไทยดังกล่าวด้วยแล้วเมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๔

๒. เกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาลต่อกรณีทหารกัมพูชายิงเฮลิคอปเตอร์ของไทยเมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ โฆษกกระทรวงฯ กล่าวว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือที่ถูกกองกำลังฝ่ายกัมพูชายิงใส่อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติและไม่ได้รุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดได้มีหนังสือลงวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๔ ถึงผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ ๓ ของกัมพูชา เพื่อขอให้ฝ่ายกัมพูชาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการประสานแจ้งล่วงหน้าตามแนวปฏิบัติและกองกำลังในพื้นที่ทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด นอกจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันและฝ่ายกัมพูชารับที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว โดยฝ่ายกัมพูชาได้แสดงความเสียใจและแจ้งว่าเกิดปัญหาในการสื่อสารไปยังกองกำลังในพื้นที่ของกัมพูชาจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดและยืนยันว่าจะไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศก็ได้มีหนังสือลงวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๔ ถึงสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยยืนยันว่าเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือดังกล่าวไม่ได้รุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา พร้อมทั้งแสดงความผิดหวังที่กองกำลังของกัมพูชายิงเฮลิคอปเตอร์ของไทยและขอให้ฝ่ายกัมพูชาตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็ว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยได้หารือกันอย่างใกล้ชิดและดำเนินการในเรื่องนี้ตามแนวปฏิบัติที่ผ่านมากรณีเกิดเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทยเพื่อรักษาอธิปไตยของไทย อย่างไรก็ดี การดำเนินความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านมีความละเอียดอ่อนจึงไม่ประสงค์ที่จะให้นำไปเป็นประเด็นทางการเมืองซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในภาพรวม


************************************


๔ มกราคม ๒๕๕๕



คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง