บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ประตูเหล็กกั้นดินแดนไทย กัมพูชาอ้างสิทธิ์ได้ว่าเป็นดินแดนของกัมพูชา


โดย Annie Handicraft เมื่อ 7 สิงหาคม 2011 เวลา 14:17 น.

คณะ อนุกรรมาธิการศึกษาและติดตามการดำเนินงาน ตามนโยบายความมั่นคงในคณะกรรมาธิการทหาร วุฒิสภา บุกตรวจประตูเหล็กทางขึ้นปราสาทพระวิหาร ลั่นอยู่ในเขตแดนไทย ต้องรื้อออกได้แล้ว พร้อมหนุนทวงคืนปราสาทพระวิหาร

       วันนี้ (6 ส.ค. ) เมื่อเวลา 11.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชา นายประสงค์ นุรักษ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและติดตามการดำเนินงานตามนโยบายความมั่นคงในคณะ กรรมาธิการทหาร วุฒิสภา พร้อมด้วย พล.อ.สุนัย สัมปัตตะวนิช ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ , พล.อ.ท.สุทธิพล ศรีกังวาน ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมิการฯ ได้นำคณะอนุกรรมาธิการฯ รวมจำนวน 12 คน เดินทางไปศึกษาดูงานเพื่อรับทราบข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ สถานการณ์ความมั่นคงปัจจุบันของพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย พร้อมตรวจเยี่ยมกำลังพลตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษ

       โดย มีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.อ.วุฒิ แสงจักร รอง ผบ.กองกำลังสุรนารี และ พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 นำคณะนายทหารให้การต้อนรับ

       จาก นั้นได้เดินทางไปตรวจสถานการณ์ที่บริเวณเขาพระวิหาร บริเวณสถูปคู่ และบริเวณประตูเหล็ก ซึ่งเป็นประตูที่ผ่านเข้าไปยังบริเวณเชิงบันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร โดยขณะที่คณะอนุกรรมาธิการฯ กำลังตรวจสอบสภาพพื้นที่อยู่นั้นได้มีทหารกัมพูชาและชาวบ้านของกัมพูชามา เฝ้าดูความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด

       นายประสงค์ นุรักษ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและติดตามการดำเนินงานตามนโยบายความมั่นคงในคณะ กรรมาธิการทหาร วุฒิสภา กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อต้องการรับทราบข้อมูลสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ เพื่อที่จะได้ร่วมกับรัฐบาลไทยและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันผลักดันใน การแก้ไขปัญหาบริเวณเขาพระวิหารอย่างเต็มที่ต่อไป

       จาก การที่ตนได้มายืนอยู่บริเวณประตูเหล็กทางขึ้นไปสู่ปราสาทพระวิหารนี้ มีความรู้สึกว่า มีความผูกพันกับปราสาทพระวิหาร และคิดว่า เราควรที่จะมีสิทธ์และมีโอกาสที่จะชื่นชมสิ่งที่เรารู้สึกว่า ควรที่จะเป็นของเรา

       ฉะนั้นเราต้องทำหน้าที่ของเราต่อ ไปในการพลิกพื้นประวัติศาสตร์ที่ดีและที่แท้จริงของเราคือ การทวงคืนปราสาทพระวิหาร และพื้นที่ 4.6 ตร.กม. บริเวณเขาพระวิหาร จะต้องเป็นพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งบริเวณที่ตนยืนอยู่นี้เป็นพื้นที่ 4.6 ตร.กม. เป็นพื้นที่ของเราอย่างชัดเจน และประตูเหล็กที่กั้นบริเวณนี้อยู่ในเขตแดนไทย

       “ดัง นั้น จึงควรที่จะถอนประตูเหล็กออกไปได้แล้ว ไม่ควรทำประตูเหล็กไปกั้นดินแดนไทยเอาไว้ เพื่อให้กัมพูชาอ้างสิทธิ์ได้ว่าเป็นดินแดนของกัมพูชา เพราะประเทศไทยมีอธิปไตยเหนือพื้นที่ 4.6 ตร.กม. อย่างถูกต้องชัดเจน”นายประสงค์ กล่าว
จากhttp://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000097890
ตำแหน่งของประตูเหล็กคร่อมห้วยตานี
นาย ประสงค์ นุรักษ์ ปธ.คณะอนุ กมธ.ศึกษาและติดตามการนโยบายความมั่นคง กมธ.ทหารวุฒิสภา และคณะ บุกตรวจประตูเหล็ก เชิงบันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร เขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ ( 6 ส.ค.)
ภาพ ถ่ายเมื่อก่อนปีพศ. 2543 โดยอ.เทพมนตรี ลิมปพยอม เป็นจุดล้อมลวดหนามที่ถูกต้อง แต่เดิมทหารไทยรักษาการณ์อยู่ฝั่งนี้.....ส่วนนอกประตูเหล็กทหารกัมพูชานั่ง อยู่ เรายังครอบครองพื้นที่ปราสาทพระวิหารไปจนถึงเป้ยตาดี นอกรั้วลวดหนามเป็นการกั้นอาณาบริเวณ ไม่ใช่พรมแดนตามที่เข้าใจกัน

อนุ กธม.มั่นคงวุฒิสภา ” บุกตรวจประตูเหล็กขึ้น“พระวิหาร​” จี้รื้อทิ้ง


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
นาย ประสงค์ นุรักษ์ ปธ.คณะอนุ กมธ.ศึกษาและติดตามการนโยบายความมั่นคง กมธ.ทหารวุฒิสภา และคณะ บุกตรวจประตูเหล็ก เชิงบันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร เขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ ( 6 ส.ค.)



ทหารกัมพูชามาเฝ้าดูความเคลื่อนไหว


ศรีสะเกษ - คณะอนุกรรมาธิการศึกษาและติดตามการดำเนินงาน ตามนโยบายความมั่นคงในคณะกรรมาธิการทหาร วุฒิสภา บุกตรวจประตูเหล็กทางขึ้นปราสาทพระวิหาร ลั่นอยู่ในเขตแดนไทย ต้องรื้อออกได้แล้ว พร้อมหนุนทวงคืนปราสาทพระวิหาร
      
       วันนี้ (6 ส.ค. ) เมื่อเวลา 11.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชา นายประสงค์ นุรักษ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและติดตามการดำเนินงานตามนโยบายความมั่นคงในคณะ กรรมาธิการทหาร วุฒิสภา พร้อมด้วย พล.อ.สุนัย สัมปัตตะวนิช ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ , พล.อ.ท.สุทธิพล ศรีกังวาน ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมิการฯ ได้นำคณะอนุกรรมาธิการฯ รวมจำนวน 12 คน เดินทางไปศึกษาดูงานเพื่อรับทราบข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ สถานการณ์ความมั่นคงปัจจุบันของพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย พร้อมตรวจเยี่ยมกำลังพลตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษ
      
       โดยมีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.อ.วุฒิ แสงจักร รอง ผบ.กองกำลังสุรนารี และ พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 นำคณะนายทหารให้การต้อนรับ
      
       จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสถานการณ์ที่บริเวณเขาพระวิหาร บริเวณสถูปคู่ และบริเวณประตูเหล็ก ซึ่งเป็นประตูที่ผ่านเข้าไปยังบริเวณเชิงบันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร โดยขณะที่คณะอนุกรรมาธิการฯ กำลังตรวจสอบสภาพพื้นที่อยู่นั้นได้มีทหารกัมพูชาและชาวบ้านของกัมพูชามา เฝ้าดูความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
      
       นายประสงค์ นุรักษ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและติดตามการดำเนินงานตามนโยบายความมั่นคงในคณะ กรรมาธิการทหาร วุฒิสภา กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อต้องการรับทราบข้อมูลสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ เพื่อที่จะได้ร่วมกับรัฐบาลไทยและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันผลักดันใน การแก้ไขปัญหาบริเวณเขาพระวิหารอย่างเต็มที่ต่อไป
      
       จากการที่ตนได้มายืนอยู่บริเวณประตูเหล็กทางขึ้นไปสู่ปราสาทพระวิหาร นี้ มีความรู้สึกว่า มีความผูกพันกับปราสาทพระวิหาร และคิดว่า เราควรที่จะมีสิทธ์และมีโอกาสที่จะชื่นชมสิ่งที่เรารู้สึกว่า ควรที่จะเป็นของเรา
      
       ฉะนั้นเราต้องทำหน้าที่ของเราต่อไปในการพลิกพื้นประวัติศาสตร์ที่ดี และที่แท้จริงของเราคือ การทวงคืนปราสาทพระวิหาร และพื้นที่ 4.6 ตร.กม. บริเวณเขาพระวิหาร จะต้องเป็นพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งบริเวณที่ตนยืนอยู่นี้เป็นพื้นที่ 4.6 ตร.กม. เป็นพื้นที่ของเราอย่างชัดเจน และประตูเหล็กที่กั้นบริเวณนี้อยู่ในเขตแดนไทย
      
       “ดังนั้น จึงควรที่จะถอนประตูเหล็กออกไปได้แล้ว ไม่ควรทำประตูเหล็กไปกั้นดินแดนไทยเอาไว้ เพื่อให้กัมพูชาอ้างสิทธิ์ได้ว่าเป็นดินแดนของกัมพูชา เพราะประเทศไทยมีอธิปไตยเหนือพื้นที่ 4.6 ตร.กม. อย่างถูกต้องชัดเจน”นายประสงค์ กล่าว

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง