วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เทพมนตรี ติง 3 องคาพยพเสื่อม ปิดปากเงียบคดีเขมรรุกราน
"เทพมนตรี" สงสัย "มาร์ค" มีผลประโยชน์จริง ไม่เคยพูดถึงข้อสงวนทวงตัวปราสาทเขาวิหารคืน เล็งรวบรวมรายชื่อ ยืนองค์การยูเนสโก้ หากรบ. ส่ง กต.-ทนาย ไปศาลโลก โอดองค์กรอิสระง่อยเปลี้ยเสียขาไปแล้ว ปิดปากเงียบคดี"สุวัตร-ปานเทพ" ฟ้องรบ.ทำสุ่มเสียงเสียอธิปไตย จี้ตุลาการ ศาล รธน.แสดงท่าทีตอกย้ำเหตุผลไล่ "สมัคร-นพดล"
วันที่ 16 พ.ค.2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการประวัติศาสตร์ กล่าวว่า เมื่อปี 2505 ศาลโลกวินิจฉัยปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาฟ้องขอเพียงแค่ให้ศาลวินิจฉัยเฉพาะตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา ดังนั้นศาลโลกไม่มีอำนาจพิพากษาเกินกว่าที่กัมพูชาฟ้อง อย่างไรก็ดี แม้เราจะไม่ยอมรับแต่ก็ได้ปฎิบัติตาม เพราะเห็นว่าเป็นภาคีสมาชิก แต่เราได้ตั้งข้อสงวนสิทธิ์ไว้ ว่าจะทวงคืนตัวปราสาท เพราะเราไม่ยอมรับคำพิพากษาศาลโลก เนื่องจากวินิจฉัยไม่เป็นธรรมใช้กฎหมายปิดปากประเทศไทย แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่เคยพูดถึงข้อสงวนเลย ทำให้ตนอดเชื่อไม่ได้ ว่านายอภิสิทธิ์ จะมีผลประโยชน์จริงๆ และที่ทหารไม่ไปยึดพื้นที่คืน ก็อาจเป็นไปได้ว่าทหารรู้เห็นเป็นใจด้วย
“บ้านเรา ระบบนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ มันเสื่อมหมดแล้ว ที่เราต้องมานั่งลำบากเสียเงินเสียทองเป็นเพราะเราเชื่อในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ตุลาการไม่เคยรับผิดชอบกับคำวินนิจฉัยที่ออกมา อย่างน้อยควรออกมาพูดแสดงท่าทีว่าจริงเท็จประการใด หรือตุลาการที่ไปเอานายสมัคร สุนทรเวช นายนพดล ปัทมะ ออกถือว่าเป็นเกมกับเขาด้วยใช่หรือไม่ การนิ่งของท่านชวนให้ตนคิดว่า หรือว่าที่จริงตุลาการยอมรับอยู่แล้วว่าที่เขาวิหารเป็นของเขมร เป็นเรื่องน่าแปลกมาก ท่านตัดสินเราเชื่อท่าน จึงต้องมานั่งลำบาก แต่คนที่ไม่เชื่อท่านมันอยู่อย่างสบาย”
นายเทพมนตรี กล่าวว่า เราต้องไม่ลืมเรื่องมรดกโลก หากรัฐบาลจะสู้กับประชาชนผู้รักชาติ เราต้องทำให้เขาเห็น เดี๋ยวตนจะรวบล่ารายชื่อไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เสียเวลา ขอให้พี่น้องที่เต็มใจเข้าร่วมรณรงค์ ถ่ายสำเนาบัตรประชาชนพร้อมเซ็น เขียนชื่อที่อยู่ พร้อมเบอร์โทรศักพท์ ส่งไว้ที่เต็นท์ฮาแก๊งได้ ทั้งนี้ เมื่อไรที่รัฐบาลส่งกระทรวงการต่างประเทศ และทนายไปศาลโลก เราจะไปองค์การยูเนสโก้ ที่สุขุมวิทโดยจะไปอยู่ที่นั้นสักสามคืน ไล่แจกเอกสารไปตลอดแนว ทำให้คนแถวนั้นเข้าใจว่ารัฐบาลจะทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนคิดอย่างไร เชื่อว่าหากทำสำเร็จรัฐบาลอยู่ไม่ได้ คะแนนเสียงจะตกทันที เพราะคะแนนเสียงปาตี้ลิสต์ ส่วนใหญ่ของประชาธิปัตย์ ได้จากคนกรุงเทพฯ
“บางทีเราต้องให้บทเรียน อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล กฎหมายตอนนี้ทำอะไรท่านไม่ได้ เพราะองค์กรอิสระง่อยเปลี้ยเสียขาหมดแล้ว คดีสำคัญของบ้านเมือง อย่างกรณีถูกต่างประเทศรุกราน ที่ทนายสุวัตร อภัยภักดิ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ไปฟ้อง มันเงียบอย่างเดียว เมื่อพวกท่านไม่ทำอะไรพวกเราจะทำเอง” นายเทพมนตรี กล่าว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)