บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

“ยุบสภาไม่มีเลือกตั้ง” ลม เปลี่ยนทิศ”

คอลัมนิสต์ไทยรัฐ “ลม เปลี่ยนทิศ” เอือมระอาสภาไทย คะแนนไว้วางใจนายกฯ “อภิสิทธิ์” กลับแพ้ “พรทิวา-ปู่จิ้น” ทั้งที่มีเรื่องฉาวโฉ่มากที่สุด ถือตบหน้าคนไทยทั้งประเทศ ชี้ใครๆ ก็รู้ว่าฝีมือของใคร โชว์เพาเวอร์ว่าใครคุมรัฐบาลตัวจริง ผิดหวังอภิสิทธิ์ปกป้องรัฐมนตรีฉาว อยากท้าสาบานวัดพระแก้วว่าไม่มีทุจริตจริงๆ ก่อนจะเห็นด้วยกับทางออกต้อง “รีบิวด์” ประชาธิปไตย ไม่ใช่ปฏิวัติโดยทหาร แต่ใช้กลไกการเมืองเปลี่ยนผ่าน หวังให้การเมืองกลับมามีคุณธรรม จริยธรรมอีกครั้ง      
       คอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” โดยนามแฝง ลม เปลี่ยนทิศ ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับประจำวันที่ 21 มีนาคม 2554 ได้เขียนบทความในหัวข้อ “ยุบสภาไม่มีเลือกตั้ง” ซึ่งกล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยเฉพาะการลงมติไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล ที่เสร็จสิ้นไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
      
       ในบทความดังกล่าวระบุว่า ตนเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่คิดว่า “สภา...แบบนี้ อย่ามีเสียเลยดีกว่า” ซึ่งสภาแบบนี้จะนำประเทศไทยไปสู่ความหายนะในอนาคตแน่นอน เพราะเป็นได้อย่างไรรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุด กลับได้คะแนนไว้วางใจสูงสุดจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล สูงกว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เสียอีก ถือเป็นการตบหน้าคนไทยทั้งประเทศ และตบหน้าระบอบประชาธิปไตยไทย เพื่อบอกให้คนไทยทั้งประเทศรู้ว่า ระบอบประชาธิปไตยเมืองไทยอยู่ในอุ้งมือใคร และเห็นว่า ถ้าประชาธิปไตยของคนไทยทุกคนจะต้องไปอยู่ในอุ้งมือของใครสักคน ไปอยู่ใน “อุ้งมือทหาร” ของทหารที่หวังดีต่อชาติ บ้านเมือง ให้รู้แล้วรู้รอด ยังดีกว่าไปอยู่ในอุ้งมือของนักการเมืองที่ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง
      
       “ผมไม่รู้ว่า นายกฯ อภิสิทธิ์ ซึ่งได้รับการศึกษาชั้นสูง สาขาวิชาปรัชญาเศรษฐกิจการเมืองจาก “ออกซฟอร์ด” มหาวิทยาลัยชั้นนำ เมืองผู้ดีอังกฤษ ประเทศแม่แบบประชาธิปไตย ที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต คุณธรรม จริยธรรม กลับยอมรับประชาธิปไตยแบบนี้ได้อย่างไร ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ บ้างเลยหรือ หรือเพราะอยากเป็น “นายกรัฐมนตรี” อย่างที่คนเขาพูดกัน จึงทำให้ยอมทิ้ง “อุดมการณ์ประชาธิปไตยเมืองผู้ดี” ที่ร่ำเรียนมา” ลม เปลี่ยนทิศ กล่าว
      
       นอกจากนี้ คะแนนมติไว้วางใจ ที่พบว่า นายอภิสิทธิ์ ได้คะแนนไว้วางใจ 249 เสียง ไม่ไว้วางใจ 184 เสียง แพ้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีเรื่องการประมูลที่ไม่โปร่งใสมากมาย ทั้งการประมูลข้าว ประมูลมัน ล่าสุด เรื่องน้ำมันปาล์ม กลับได้คะแนนไว้วางใจสูงสุดถึง 251 เสียง ไม่ไว้วางใจ 186 เสียง และยังแพ้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้คะแนนไว้วางใจ 250 เสียง ไม่ไว้วางใจ 188 เสียง ซึ่งเห็นว่า ปรากฏการณ์คะแนนเสียงที่เกิดขึ้นนี้ คนที่สนใจการเมืองก็รู้ได้ว่าเป็นฝีมือของใคร เพื่อแสดงอำนาจให้นายอภิสิทธิ์รู้ว่าใครอุ้มใคร และใครคือผู้มีอำนาจตัวจริงในรัฐบาล
      
       “แต่ที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง ก็คือ เสียงตอบของนายกฯ อภิสิทธิ์ กับนักข่าวหลังการลงคะแนนว่า คะแนนที่ต่างกันเป็นเรื่องปกติ และยังยืนยันว่า การชี้แจงของรัฐมนตรีทุกคนสามารถแก้ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านได้ ฟังแล้วผมชักอยากสวมวิญญาณนักการเมืองในสภา ที่ คุณชัย ราชวัตร เขียนในการ์ตูนเมื่อวาน มีสุนัขวิ่งออกจากปากได้ อยากให้นายกฯ อภิสิทธิ์ ไปสาบานที่วัดพระแก้ว ว่า ท่านเชื่อจริงๆ หรือว่าไม่มีการทุจริตในรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย” ลม เปลี่ยนทิศกล่าว
      
       ในตอนท้ายของคอลัมน์ ลม เปลี่ยนทิศ เห็นว่า เมื่อบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ นักการเมืองทุกคนเป็นอย่างนี้ เลือกตั้งไปกี่ครั้งก็เป็นอย่างนี้ ทำให้คนไทยไม่มีทางเลือก เพราะไม่สามารถเลือกคนที่ดี และระบอบประชาธิปไตยที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ได้ ทำให้ตนเริ่มจะเห็นด้วยกับข้อเสนอทางหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาอนาคตที่ไร้อนาคตของประเทศไทย ไม่ให้จมอยู่กับ “ประชาธิปไตยน้ำเน่า” ที่ไร้อนาคตแบบนี้ จะต้องร่วมมือกัน “รีบิวด์” สร้างประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่ ซึ่งไม่ใช่ “การปฏิวัติ” โดยทหาร แต่ใช้กลไกการเมืองที่มีอยู่ เพื่อ “เปลี่ยนผ่าน” ไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มีคุณธรรม จริยธรรมอีกครั้ง
      
       “หลังจากนายกฯ อภิสิทธิ์ ประกาศยุบสภาเรียบร้อยแล้ว ก็ทำให้กลไกการเลือกตั้งไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และรัฐบาลเฉพาะกิจขึ้นมา “ปฏิรูป” และ “เปลี่ยนผ่าน” ไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มีคุณธรรม จริยธรรม กระบวนการนี้อาจต้องใช้เวลาบ้าง แต่นี่คือฝันอันบรรเจิดของผู้คนที่ผิดหวังกับการเมืองในยุค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี” ลม เปลี่ยนทิศ กล่าวถึงข้อเสนอดังกล่าว

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง