บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คำเตือน: ไทยถอนตัวจากภาคีมรดกโลกแล้วจริงหรือ?

Pratheep Chuen-arom
 
- พี่น้องประชาชนคนไทยทุกท่านครับ ขอให้เข้าใจตรงกันว่าการรักษาอธิปไตยแผ่นดินไทยระหว่างไทย-กัมพูชานั้นต้องปฏิบัติให้ได้ทั้ง3-ข้อเสนอคือ
1.ยกเลิกMOU2543

2.ถอนตัวจากภาคีอนุสัญญามรดกโลก

3.ผลักดันทหารและประชาชน-สิ่งปลูกสร้างของกัมพูชาออกไปจากพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร/..!!!การบรรลุเพียงข้อหนึ่งข้อใดไม่สามารถรักษาอธิปไตยแผ่นดินไทยได้นะครับ..!!!!นี่เป็นเพียงก้าวแรกเหมือนvote no...!!!!

- การประกาศลาออกจากภาคีอนุสัญญามรดกโลก>ผมยังไม่ยอมรับคุณสุวิทย์เป็นHEROและไม่ไปรับคุณสุวิทย์ที่สนามบิน>ด้วยเหตุผลอะไร? หาคำตอบได้บนเวที4-เหล่าพบประชาชนเวลา18.00น. วันอาทิตย์ที่ 26 มิย. 54 ซึ่งเป็นรายการครั้งสุดท้ายครับ..!!!!

ขอบคุณภาพจากคุณ Nong Nirvana





อีกท่านที่คิดเห็นคล้ายกัน




วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ 
อดีต นักกฎหมายในคดีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ สำนักกฎหมาย Freshfields Bruckhaus Deringer (กรุงปารีส). นิติศาสตรมหาบัณฑิต (รางวัลทุนฟุลไบรท์และวิทยานิพนธ์เกียรตินิยม) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด.

ที่มา http://www.facebook.com/verapat.pariyawong

_____________________________________________________________________
อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา หนึ่งในมรดกโลก Ayutthaya World Heritage site (Fotopedia.com)


จาก ช่วงคืนที่ผ่านมา สื่อมวลชนไทยได้รายงานว่านายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ประกาศว่าไทยได้ “ลาออกจากคณะกรรมการมรดกโลก” บ้างก็ว่า “ถอนตัวจากสมาชิกมรดกโลก” บ้างก็ว่า “Thailand has withdrawn from the World Heritage Convention” ล่าสุดคุณสุวิทย์เองใช้คำว่า “คกก.มรดกโลกนำวาระเขาพระวิหารเข้าที่ประชุม จึงเป็นที่มาของการถอนตัวของไทยออกจากกรรมการและสมาชิกภาคีอนุสัญญา” (http://twitter.com/#!/SuwitKhunkitti).

ผู้ เขียนยังไม่พบหนังสือ ถ้อยแถลง หรือคำอธิบายอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลไทยว่า “การถอนตัว” ดังกล่าวมีรายละเอียดเช่นใด แต่ในยุคสมัยที่สื่อมวลชนต่างชิงเสนอข้อมูลจาก Twitter เพียงไม่กี่บรรทัด ผู้เขียนในฐานะนักกฎหมายจึงจำต้องตั้งข้อสังเกตเบื้องต้นเพิ่มเติมอีกบาง บรรทัด เพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทยผู้มีสิทธิได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนดังนี้.

ไทย จะ “ถอนตัว” (withdraw) จาก “ภาคีมรดกโลก” ได้หรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องการตัดสินใจตามอำเภอใจ แต่เป็นเรื่องการใช้สิทธิตามขั้นตอนกฎหมายระหว่างประเทศ โดยหลักก็คือ อนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ค.ศ. 1972 (“อนุสัญญามรดกโลกฯ”) ซึ่งไทยอาจ “ยังคง” เป็น หรือ “เคย” เป็น “ภาคีอนุสัญญา” (“ภาคี” ในที่นี้ก็หมายถึง “คู่สัญญา” ที่ยอมผูกพันตามกฎหมายนั่นเอง).

กฎหมายระหว่างประเทศรับรองว่าไทยมีสิทธิถอนตัวจากการเป็น "ภาคีอนุสัญญามรดกโลกฯ"  โดยการ “ประกาศไม่ยอมรับ” (denounce) ทั้งนี้ตามที่อนุสัญญามรดกโลกฯ ข้อ 35 กำหนดสิทธิไว้ ดังนี้:

Article 35

1. Each State Party to this Convention may denounce the Convention.

2. The denunciation shall be notified by an instrument in writing, deposited with the Director-General of the United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization.

3. The denunciation shall take effect twelve months after the receipt of the instrument of denunciation. It shall not affect the financial obligations of the denouncing State until the date on which the withdrawal takes effect.

(เน้นคำโดยผู้เขียน ตัวบทอนุสัญญามรดกโลกฯ อ่านได้ที่ http://whc.unesco.org/en/conventiontext)

หากการ “ถอนตัว” ที่คุณสุวิทย์ได้กระทำไปในนามรัฐบาลไทยคือการใช้สิทธิ “ประกาศไม่ยอมรับ” หรือ denounce ตามความในข้อ 35 ข้างต้น ผลทางกฎหมายที่ตามมาก็คือ “การประกาศไม่ยอมรับ” (denounce) นั้น มิได้ส่งผลเป็นการ “ถอนตัว” (withdrawal) โดยทันที แต่การถอนตัวจะเริ่มมีผลต่อเมื่อครบกำหนด 12 เดือน จากวันที่คุณสุวิทย์ได้ยื่นหนังสือไปยังยูเนสโก ซึ่งอาจหมายความว่า (ผู้เขียนย้ำว่า “อาจ”) ณ วันนี้ ไทยเองยังคงมีทั้งสิทธิและหน้าที่ในฐานะภาคีอนุสัญญามรดกโลกฯ ไปจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2555 (นอกจากไทยจะได้ตั้งข้อสงวนเรื่องนี้ไว้ แต่ผู้เขียนไม่พบข้อสงวนของไทยในบันทึกการเข้าเป็นภาคี UNTS Vol 1484 No 15511 เมื่อ ค.ศ. 1987 แต่อย่างใด).

หลักกฎหมายและเงื่อนไข ระยะเวลาที่ปรากฏอยู่ในอนุสัญญามรดกโลกฯ ข้อ 35 ที่ผูกพันไทยนี้ สอดคล้องรองรับกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่สำคัญ คือ ข้อ 56 และ ข้อ 70 แห่งอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ. 1969 (แม้ไทยจะมิได้เข้าผูกพันตามอนุสัญญากรุงเวียนนาโดยตรง แต่อาจมองในทางกฎหมายได้ว่าหลักดังกล่าวเป็นหลักทั่วไปที่ยอมรับนับถือโดย สากลกว่า 100 ประเทศทั่วโลก).

ถามต่อว่า ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนนี้ ไทยจะเสียเปรียบกัมพูชา หรือไทยจะตกอยู่ใต้อำนาจของคณะกรรมการมรดกโลก หรือ ไทยจะต้องยอมรับผูกพันตามมติ หรือ แผนบริหารจัดการบริเวณปราสาทพระวิหารอันจะกระทบต่ออธิปไตย หรือความได้เปรียบเสียเปรียบในศาลโลกหรือไม่ อย่างไร?

ผู้เขียนตอบเบื้องต้นเป็นขั้นๆ ดังนี้.

1. อนุสัญญามรดกโลกฯ เป็นกฎหมายที่มีความยืดหยุ่น

การ เป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกฯ มิได้หมายความว่าคณะกรรมการมรดกโลก หรือ ใครจะมีมติสั่งไทยซ้ายหัน ขวาหันได้ เพราะสังคมระหว่างประเทศได้ออกแบบให้อนุสัญญามรดกโลกฯ เป็นกฎหมายที่มีความยืดหยุ่นบนพื้นฐานของความร่วมมือช่วยเหลือ (co-operation and assistance) และมิใช่พันธกรณีที่บังคับควบคุมโดยเด็ดขาด เห็นได้จากการที่อนุสัญญามรดกโลกฯ ใช้ถ้อยคำทางกฎหมายที่ผูกพันไทยอย่างยืดหยุ่น เช่น

- อนุสัญญามรดกโลกฯ ข้อ 4 ใช้ถ้อยคำว่า “[ไทย]จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้” (It will do all it can to this end...).

- อนุสัญญามรดกโลกฯ ข้อ 5 ใช้ถ้อยคำว่า “[ไทย]จะพยายามอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และเหมาะสมสำหรับ[ประเทศไทย ]” (...shall endeavor, in so far as possible, and as appropriate for each country...).

- อนุสัญญามรดกโลกฯ ข้อ 7 ใช้ถ้อยคำว่า “เพื่อจัดตั้งระบบความร่วมมือระหว่างและช่วยเหลือประเทศอันที่จะสนับสนุน ภาคีอนุสัญญาฯ” (...the establishment of a system of international co-operation and assistance designed to support State Parties to the Convention…).

- อนุสัญญามรดกโลกฯ ข้อ 11 (3) ใช้ถ้อยคำสงวนสิทธิว่าการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจะไม่กระทบต่อสิทธิของไทย (...shall in no way prejudice the rights...) ที่ยังมีข้อพิพาทเรื่องเขตแดนหรืออธิปไตยกับกัมพูชา เป็นต้น.

ดัง นั้น แม้หากวันนี้ไทยยังคงเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกฯอยู่ ไทยย่อมสามารถตีความอนุสัญญาโดยสุจริตว่าไทยจะร่วมมือและช่วยเหลือเท่าที่จะ เป็นไปได้และเหมาะสมสำหรับประเทศไทย โดยไม่กระทบต่อสิทธิของไทยที่มีข้อพิพาทเรื่องเขตแดนกับกัมพูชา. ผู้เขียนย้ำว่ากฎหมายระหว่างประเทศไม่ใช่เรื่องน่ากลัวสำหรับประเทศที่ชาญ ฉลาดและแยบยล.

2. กฎหมายระหว่างประเทศให้สิทธิไทยไม่ต้องปฏิบัติตามอนุสัญญามรดกโลกฯ หากมีกรณีจำเป็น

แม้ สุดท้ายจะมีผู้ใดตีความว่าคณะกรรมการมรดกโลก หรือ ใครจะมีมติสั่งไทยซ้ายหัน ขวาหันได้ หรือไม่อย่างไร กฎหมายระหว่างประเทศก็ยังคงเปิดช่องให้ไทยมีสิทธิยกข้อต่อสู้เพื่อไม่ต้อง ปฏิบัติตามมตินั้น อาทิ หลักกฎหมายทั่วไปเรื่อง fundamental change of circumstances หรือ rebus sic stantibus เช่นที่สะท้อนอยู่ในข้อ 62 แห่งอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ. 1969 หรือ หลักกฎหมายว่าด้วยความจำเป็น (necessity) เช่นที่สะท้อนอยู่ในข้อ 25 แห่งร่างข้อกฎหมายว่าด้วยความรับผิดของรัฐ (ILC Draft Articles on State Responsibility).

ไทยสามารถอ้างสิทธิตามหลักกฎหมายเหล่านี้ เพื่อต่อสู้ว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ และกระทบถึงความมั่นคงปลอดภัยและสันติภาพระหว่างประเทศ ไทยจึงมีสิทธิตามกฎหมายระหว่างประเทศที่จะไม่ปฏิบัติตามมตินั้น อย่างไรก็ดี การยกข้อต่อสู้ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไทยมีภาระพิสูจน์ตามหลักเกณฑ์ย่อย และมิใช่อ้างได้โดยง่าย.

3. เรื่องอนุสัญญามรดกโลกฯ ทำให้ไทยกังวลเกี่ยวกับคดีในศาลโลก

ไม่ ว่านักกฎหมายจะตีความ “การถอนตัว” กันอย่างไร แต่ผู้เขียนเองในฐานะผู้เคยช่วยทำคดีในศาลโลก ก็ไม่แปลกใจหากทีมทนายความของไทยซึ่งกำลังมีคดีอยู่กับกัมพูชาในศาลโลก จะเลือกใช้ “การถอนตัว” เป็นการแสดงออกในทางพฤตินัยเป็นอย่างน้อย กล่าวคือ สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าในทางนิตินัยไทยจะยังคงเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกฯ และต้องปฏิบัติตามมติคณะกรรมการมรดกโลกหรือไม่อย่างไร อย่างน้อยไทยก็อ้างต่อศาลโลกได้เต็มปากว่า โดยพฤตินัยนั้น ไทยไม่ยอมรับการบริหารจัดการพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหารใดๆ ที่อาจมีนัยกระทบต่ออธิปไทยทางดินแดนของไทย.

จุดนี้อาจเป็น เพราะว่าแท้จริงแล้วไทยอาจกังวลกับผลจากการตีความคำพิพากษาโดยศาลโลกที่มีผล ผูกพันไทยโดยตรง มากกว่าเรื่องมติมรดกโลกที่ยืดหยุ่นและเป็นเพียงแง่ทางกฎหมายประกอบแง่หนึ่ง เท่านั้น อีกทั้งการกลับเข้าเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกฯ ย่อมไม่เป็นปัญหาเท่ากับความเสี่ยงที่กัมพูชาจะนำมติไปอ้างให้ไทยเสียเปรียบ ในศาลได้.

ข้อสังเกตเพิ่มเติม 

จาก ข่าวสารที่รวดเร็วแต่ไม่มีความชัดเจน ผู้เขียนเข้าใจว่าการถอนตัวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากคณะคุณสุวิทย์สามารถเจรจา ให้เลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารได้สำเร็จ แต่เมื่อร่างมติที่นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกยังมีถ้อยคำเกี่ยวกับ ปราสาทพระวิหารที่มีปัญหาอยู่ คุณสุวิทย์จึงยืนยันถอนตัว ในทางหนึ่งย่อมมองได้ว่าเป็นการทำหน้าที่อย่างละเอียดรอบคอบเพื่อปกป้องผล ประโยชน์ของชาติอันน่าชื่นชม.

แต่อีกทางหนึ่ง ก็อาจมีผู้โจมตีว่าไทยขาดความน่าเชื่อถือในเวทีโลก เช่น ไทยขู่ถอนตัวเพื่อตั้งแง่การเจรจาให้เลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการ (โดยทั่วไป) ออกไป และแม้สุดท้ายไทยจะได้ตามที่ต้องการ ก็ยังคงถอนตัวเพื่อประโยชน์ทางรูปคดี (เกี่ยวกับถ้อยคำบางคำ) อยู่ดี ทั้งที่ไทยจะถอนตัวแต่แรกก็ได้ หรือจะมองอย่างเสียดสีว่าเป็นเพียงการเรียกคะแนนนิยมก่อนวันเลือกตั้ง ฯลฯ.

การ มองเหล่านี้มิใช่การมองทางกฎหมาย และอาจเป็นการด่วนสรุปที่ไม่เป็นธรรม แม้ผู้เขียนจะมีความเชื่อว่าคณะคุณสุวิทย์และตัวแทนฝ่ายไทยทุกท่านย่อมยึด ประโยชน์ชาติเป็นใหญ่ แต่ผู้เขียนก็มิอาจแสดงความเห็นได้ เพียงแต่เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลการตัดสินใจและชี้แจงให้ประชาชน ทราบโดยเร็ว.

ที่สำคัญ หนังสือพิมพ์ Bangkok Post (http://bit.ly/llkquo) รายงานว่าการตัดสินใจของคุณสุวิทย์นั้น โดยหลักเป็นเพราะคุณสุวิทย์และผู้แทนกรมศิลปากรไม่สบายใจกับถ้อยคำในร่างมติ แต่กระทรวงการต่างประเทศไทยกับไม่ติดใจถ้อยคำดังกล่าว (“Mr Suwit and Fine Arts Department representatives disapproved of the wording, while the Foreign Ministry was happy with it”).

ผู้ เขียนไม่ทราบว่าข่าวนี้จริงเท็จและมีรายละเอียดเช่นใด แต่หากนักการทูตและนักกฎหมายระหว่างประเทศชั้นนำของไทยไม่มีปัญหากับร่างมติ จริง ประชาชนก็สมควรได้รับคำอธิบายอย่างชัดเจนทุกแง่มุม (เท่าที่จะไม่เสียรูปคดี) อาทิ

- ถ้อยคำในร่างมติดังกล่าวมีนัยอย่างไรในมุมมองของแต่ละหน่วยงาน?

- ปัจจุบันไทยยังคงมีสถานะเป็นภาคีหรือไม่ และไทยเคยตั้งข้อสงวนเรื่องการถอนตัวหรือไม่?

- ไทยยังใช้สิทธิผ่านกรรมการของไทยในที่ประชุมมรดกโลกได้หรือไม่?

- หากที่ประชุมมีท่าทีเปลี่ยนไปแล้วไทยจะเปลี่ยนใจยับยั้งการถอนตัวได้หรือไม่?

- แม้การถอนตัวจะไม่กระทบต่อสถานะมรดกโลกในไทย แต่หากถอนตัวไปแล้ว ไทยจะยังคงดูแลอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา สุโขทัย บ้านเชียง ทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง และผืนป่าเขาใหญ่-ดงพญาเย็น ให้สมเกียรติและศักดิ์ศรีของชาวไทยผู้ดูแลมรดกของชาวโลกหรือไม่? อนาคตของว่าที่มรดกโลกอื่นในไทยจะเป็นอย่างไร?

- ไทยได้เสียเรื่องอื่นอย่างไร เช่น เงินอุดหนุนที่ไทยต้องจ่าย (ซึ่งอนุสัญญามรดกโลกฯ ข้อ 35 บอกว่าไทยยังต้องจ่ายต่ออีก 12 เดือน) เงินสนับสนุนที่ไทยได้รับเกี่ยวกับมรดกโลก หรือ ผลกระทบต่อความร่วมมือด้านการศึกษาและวัฒนธรรมกับ UNESCO?

สุดท้าย สำหรับประชาชนคนไทยที่ห่วงใยสถานการณ์บริเวณปราสาทพระวิหาร โปรดอย่าเชื่อนักข่าวหรือคารมใครโดยง่าย แต่โปรดนำนโยบายและผลงานที่ผ่านมาของพรรคการเมืองเกี่ยวกับกรณีปราสาทพระ วิหารไปพิจารณาประกอบว่า นักการเมืองคนใดจากพรรคใด จะนำสันติภาพและความเจริญรุ่งเรื่องมาสู่ประเทศไทยอย่างแท้จริง.

ซก อาน ส่งสารแจ้งผลประชุมมรดกโลก-เนื้อหาพล่อยด่าไทยล้วน ๆ

นายซก อาน ระหว่างประชุมมรดกโลกเมื่อ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๔ 

ฟิฟทีนมูฟ – ซก อาน ส่งสารด่วนแจ้งผลการประชุมมรดกโลกครั้งที่ ๓๕ ระบุเขมรได้รับชัยชนะสมใจ ผ่านทั้งแผนบริหารจัดการ ได้รับผู้เชี่ยวชาญมาซ่อมแซมและได้เผยธาตุแท้ไทยแก่ชาวโลก โวเขมรได้ไปโกหกเขาทั่วว่าถูกไทยรุกราน กล่าวหาไทยสร้างความวุ่นวายและทำลายบรรยากาศการประชุม ไทยโกหกเรื่องความเสียหายปราสาทพระวิหาร โกหกว่ามารค์คุยโบโกว่าให้เลื่อนแต่ ปธ.ศูนย์มรดกโลกไม่ฟัง เดินหน้าบรรจุวาระ ไทยประท้วงตั้งข้อกล่าวหายูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลกพร้อมประกาศถอนตัวแล้ว เดินออกจากที่ประชุม ระบุเป็นการหยามยูเนสโก คณะกรรมการมรดกโลกและชาติสมาชิก เผยไทยไปสู้ขอขึ้นทะเบียนร่วมอีกรอบ
นายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในฐานะหัวหน้าคณะตัวแทนกัมพูชาในการประชุมมรดกโลกครั้งที่ ๓๕ เมื่อช่วงสายวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๔ ส่งสารถึงชาวกัมพูชา แจ้งผลการดำเนินงานของคณะตัวแทน โดยช่วงต้นของสารดังกล่าวระบุว่า กัมพูชาได้รับชัยชนะเป็นประวัติศาสตร์ ณ ที่ทำการยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในคราวการประชุมครั้งที่ ๓๕ ระหว่าง ๑๙-๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๔

อ

สารกล่าว ต่อว่า ในบรรดาประเทศสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก ทั้ง ๒๑ ประเทศ มีกัมพูชาเป็นรองประธานการประชุมประจำปี ๒๕๕๔ กรณีปราสาทพระวิหารได้ถูกบรรจุในระเบียบวาระพิจารณา เพื่อตรวจประเมินสถานภาพในการดูแลรักษา และการอนุรักษ์หลังจากที่ได้รับความเสียหายจากกองทัพผู้รุกรานของไทย
การปฏิบัติภารกิจของคณะตัวแทนกัมพูชา มีความตึงเครียดนับจากวันแรกจนถึงวันออกมติกรณีปราสาทพระวิหาร เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม เนื่องจากคณะผู้แทนไทยได้กล่าวโฆษณาสร้างความวุ่นวาย ทำลายบรรยากาศในการประชุม ด้วยการพบชี้แจงทำความเข้าใจกับคณะตัวแทนนานาชาติ โดยการกล่าวโกหกและขาดความจริง คณะผู้แทนไทยได้กล่าวว่าไม่มีความเสียหายอันเกิดจากกองทัพของตนยิงเข้าใส่ แต่อย่างใด หากแต่เป็นความเสียหายจากสงครามระหว่างเขมรกับเขมรในอดีต
นายซก อาน กล่าวในสารอีกว่า ไทยได้ใช้การกล่าวด้วยจิตวิทยาทุกรูปแบบ เพื่อโกหกว่าคณะกรรมการฯ ได้สนับสนุนให้เลื่อนการพิจารณา และถอนแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหาร และขู่จะถอนตัวออกจากอนุสัญญา ค.ศ.๑๙๗๒ คณะผู้แทนไทยได้พยายามอย่างหนักในการขัดขวางแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหาร ด้วยการสร้างความวุ่นวาย ทั้งในเวลาแยกหารือ และในบริเวณที่ทำการยูเนสโก โดยเฉพาะได้รุมกันเข้าไปในที่เจรจาถึง ๒๘ คน ในนั้นมีผู้สื่อข่าวที่มีกล้องวีดีโอติดตัวอีก ๗ คน ไทยยังกล่าวหาว่าการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เป็นการไม่เคารพตามหลักปฏิบัติของอนุสัญญา ค.ศ.๑๙๗๒ โดยเรียกร้องซ้ำ ๆ ว่า ควรทำการขึ้นบัญชีข้ามแดน (หมายถึงขึ้นทะเบียนร่วม) ซึ่งกรณีนี้ไทยได้เสนอทุกครั้งนับจากการประชุมที่เมืองไครสต์เชิร์ช พ.ศ.๒๕๕๑ แต่ถูกคณะกรรมการฯ ปฏิเสธ ยิ่งกว่านั้น แม้ว่าการโกหกไม่ได้ผลก็ตาม ไทยได้พยายามทำลายบรรยากาศว่า แผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารได้ละเมิดอธิปไตยของไทย
เพื่อเอาชนะสภาพการณ์ตึงเครียดแบบนี้ คณะตัวแทนกัมพูชาได้ทำงานอย่างหนัก ในการทำความเข้าใจและชี้แจงข้อเท็จจริงกับตัวแทนประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะตัวแทนของ ๑๙ ชาติสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก รวมถึงหน่วยงานสำคัญของยูเนสโก และตัวแทนของผู้อำนวยการยูเนสโก ตัวแทนกัมพูชาได้แสดงเอกสารที่ได้เตรียมอย่างครบถ้วนและจำนวนมาก เพื่อสู้กับฝ่ายไทย ภายใต้การประสานงานของตัวแทนผู้อำนวยการยูเนสโก คณะตัวแทนกัมพูชาได้เตรียมเอกสาร การชี้แจงเกี่ยวกับช่องทางกฎหมาย และข้อเท็จจริงให้กับสมาชิกคณะกรรมการฯ ทั้ง ๑๙ ประเทศ
เป็นผลให้ไทยได้รับความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง เพราะความพยายามเลื่อนการพิจารณาในสาระสำคัญระเบียบวาระเกี่ยวกับปราสาทพระ วิหาร โดยอ้างว่านายกรัฐมนตรีไทยกำลังโทรศัพท์หารือกับผู้อำนวยการยูเนสโก เพื่อเลื่อนการพิจารณาออกไปนั้น ในทันทีได้ถูกปฏิเสธจากประธานศูนย์มรดกโลกว่าไม่มีการจัดการแบบนี้
นายซก อาน กล่าวในสารอีกว่า แม้ว่าคณะตัวแทนไทยได้เดินออกจากที่ประชุมก็ตาม คณะกรรมการมรดกโลกก็ได้อนุมัติร่างมติ โดยอ้างถึงมติการประชุมครั้งที่ ๓๑ ที่เมืองไครสต์เชิร์ช มติที่ ๓๒ เมืองควิเบก มติที่ ๓๓ เมืองเซวิญา มติที่ ๓๔ ที่กรุงบราซิเลีย ที่ข้อนี้ยืนยันการได้รับแผนบริหารจัดการที่กัมพูชาส่งเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๓ นอกจากนี้ คณะกรรมการได้รับทราบความเสียหายของปราสาทที่ผ่านมา โดยกระสุนปืนใหญ่ของไทย ซึ่งมอบหมายให้มีการส่งผู้เชี่ยวชาญไปทำการซ่อมแซมและอนุรักษ์ปราสาท โดยอนุโลมตามหลักปฏิบัติของอนุสัญญาการคุ้มครองมรดก ค.ศ.๑๙๗๒
สารของนายซก อาน กล่าวหาไทยว่า โดยไม่สามารถต่อสู้กับการสนับสนุนแผนปกป้องและอนุรักษ์ปราสาทพระวิหารของ กัมพูชาได้ คณะผู้แทนไทยได้แสดงการประท้วงโดยปราศจากมูลเหตุ และได้ตั้งข้อกล่าวหาคณะกรรมการฯ ว่าไม่มีความยุติธรรม และได้ประกาศถอนตัวออกจากอนุสัญญา ค.ศ.๑๙๗๒ การประกาศนี้ทำให้ไทยเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อนานาชาติ โดยเฉพาะขณะที่ไทยเองเป็นสมาชิกในคณะกรรมการมรดกโลก

ที่นั่งว่างเปล่าของคณะผู้แทนไทยระหว่างการพิจารณาแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหาร

การ กระทำรุ่มรามของคณะตัวผู้แทนไทยที่เดินออกจากที่ประชุมหลังการแถลง เป็นการดูเบาต่อสถาบันยูเนสโก และคณะกรรมการมรดกโลก รวมถึง ๑๘๖ ประเทศภาคีสมาชิกของอนุสัญญา ค.ศ.๑๙๗๒ โดยเฉพาะเป็นการกระทบอย่างหนักต่อหน้ารัฐบาลรักษาการ และพรรคผู้นำรัฐบาลที่กรุงเทพ
ในการประชุมดังกล่าว คณะตัวแทนกัมพูชาได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับทั่วโลกอย่างชัดเจน เกี่ยวกับความเลวร้ายที่ได้ก่อขึ้นโดยกองทัพไทยเหนือปราสาทพระวิหาร ที่เป็นมรดกของกัมพูชา และเป็นมรดกของมวลมนุษยชาติ
สารของนายซก อาน กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า ผลที่ได้จากการประชุม ประกอบด้วย ๑. สกัดกั้นเป้าหมายของไทยที่ต้องการขัดขวางแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารของ กัมพูชา ๒.สกัดกั้นการขัดขวางของไทยที่ไม่ให้มีการส่งผู้เชี่ยวชาญไปซ่อมแซมปราสาท พระวิหาร และ ๓.เปิดเผยเล่ห์กลกล่าวโกหกของศูนย์กลางการรุกรานไทย

"ปลอดประสพ" สุดมั่ว !!!

“ปลอดประสพ” สุดมั่ว อ้างการถอนตัวออกจากภาคีมรดกโลกต้องขอความเห็นชอบจากสภาก่อน เหตุเกี่ยวพันกับดินแดน และบูรณภาพของประเทศ แถมให้รอรัฐบาลชุดใหม่พิจารณา  เลอะหนักบอกแม้จะลาออกจากภาคี กก.มรดกโลกก็ประชุมต่อได้ และยังตัดสินใจอะไรได้ง่ายและสะดวกขึ้น ทำให้ไทยเสียหาย
      
       วันนี้(26 มิ.ย.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก แถลงที่กรุงปารีส ว่า ประเทศไทยได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลกและกรรมการมรดก โลก หลังจากศูนย์มรดกโลกและยูเนสโกไม่ได้ฟังข้อทักท้วงของไทย ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ประชาชนชาวไทยเจ้าของประเทศไทยต้องรู้ความจริง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสถานะของประเทศไทยในเวทีโลกเกี่ยวกับดินแดน และบูรณภาพของราชอาณาจักรไทย ดังนั้น ทางพรรคเพื่อไทยขอถามไปยังนายสุวิทย์ คือ
      
       ประการที่ 1 นายกรัฐมนตรีมีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร เป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีด้วยใช่หรือไม่ เพราะนายสุวิทย์ได้อ้างว่า ได้โทรศัพท์หารือกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแล้ว
      
       ประการที่ 2 การที่รัฐบาลประกาศถอนตัวจากองค์กรระหว่างประเทศครั้งนี้ ได้ผ่านความเห็นชอบของ ครม.แล้วหรือไม่ และเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับดินแดน และบูรณภาพของประเทศ ทำไมไม่หารือ และขอความเห็นจากสภาก่อน รัฐบาลทำไปโดยพลการได้อย่างไร ประการที่ 3 ขณะนี้รัฐบาลอยู่ในฐานะของรัฐบาลรักษาการ และการเลือกตั้งก็กำลังจะเกิดขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ถัดไป เหตุใดรัฐบาลจึงรีบร้อนตัดสินใจ ทำไมไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้น นายสุวิทย์ และ นายอภิสิทธิ์ มีอะไรเป็นวาระซ่อนเร้นหรือไม่ เพราะมองดูชอบกลผิดกาลเทศะ
      
       ประการที่ 4 การแก้ปัญหาระหว่างประเทศมีหลายวิธี หลายขั้นตอน เหตุใดรัฐบาลจึงตัดสินใจใช้ความรุนแรงเข้าแก้ปัญหา การถอนตัวออกมารัฐบาล หรือประเทศไทยได้ประโยชน์อะไร เป็นซาดิสต์ไปแล้วหรือ เพราะถึงประเทศไทยไม่อยู่ ไม่เป็นสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลกก็คงจะประชุมต่อไป และก็จะตัดสินใจอะไรได้ง่าย และสะดวกกว่าเดิม เพราะไม่มีประเทศใดมาขัดขวาง จึงถามว่า การลาออกยกเว้นการสะใจแล้วได้อะไรอีกมีแต่เสียหาย
      
       ประการที่ 5 รัฐบาลเคยถามคนอยุธยา คนอุดรธานี คนสุโขทัย คนนครราชสีมา คนอุทัยธานี(ห้วยขาแข้ง) แล้วหรือยัง ในการถอนตัวจากการเป็นมรดกโลก เป็นหน้าตาของจังหวัด เข้าไปทำลายไปทำร้ายเขาทำไม แน่ใจแล้วหรือว่ามีสิทธิ์จะตัดสินใจอย่างนี้แทนเจ้าของพื้นที่
      
       ประการที่ 6 รัฐบาลรู้หรือไม่ว่าการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของคณะกรรมการมรดกโลกจะกระทบ ต่อการท่องเที่ยวอย่างยิ่ง การมาเที่ยวนั้นนักท่องเที่ยวจะดู web ว่า ประเทศใดมีมรดกโลกบ้าง แล้วก็มาดูการถอนตัวจากมรดกโลกเป็นการลดระดับมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวใน ประเทศไทย การตัดสินใจของนายสุวิทย์ กับ นายอภิสิทธิ์ ครั้งนี้ จึงเป็นการทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างยิ่ง
      
       ประการที่ 7 นายอภิสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ตลอดเวลาว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จะไม่มีการประชุมเรื่องเขาพระวิหารแน่นอน เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ได้มีการพูดเช่นนี้อีก จึงขอถามว่าทำไมต้องโกหกประชาชน ทำไมต้องหลอกลวงพูดความจริงไม่เป็นหรือ
      
       ประการที่ 8 นายสุวิทย์ เบิกเงินไป 10 ล้านบาท อ้างว่า เป็นค่าใช้จ่ายในการล็อบบี้ขอทราบรายละเอียดจากการใช้จ่ายด้วย ขอให้รู้ว่าเราติดตามมาตลอด และรู้ทันการคอร์รัปชัน การล็อบบี้นั้นควรให้เอกอัคราชทูตไทยตามประเทศที่เป็นกรรมการมรดกโลกไปเข้า พบ และขอกับผู้นำประเทศของเขา เพราะเป็นเรื่องใหญ่เป็นนโยบายระดับประเทศ ไม่ใช่มากินเลี้ยงกินกันเอง
      
       และประการที่ 9 ขณะนี้ประเทศไทยกำลังจะเตรียมเสนอพื้นที่ 21 แห่งขึ้นมรดกโลก เพราะเป็นยกฐานะประเทศไทยในเวทีโลก ซึ่งที่สำคัญสองพื้นที่เราคิดว่าจะได้ คือ การเสนอสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นมรดกโลก ดังนั้น กรุงเทพฯก็จะเป็นมรดกโลก กรุงธนบุรีก็จะเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก ขณะเดียวกัน กำลังเสนอหมู่เกาะสุรินทร์ สิมิรัน ตะรุเตา เป็นมรดกโลก ซึ่งหากได้รับการพิจารณาก็จะเป็นการเสริมสร้างเกียรติภูมิของประเทศ และจะทำให้มีนักท่องเที่ยวมาไทยมากขึ้น เมื่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ตัดสินใจถอนตัวเช่นนี้ ก็เท่ากับเป็นการทำลายโอกาสหรืออีกนัยหนึ่ง ก็คือ ของใหม่ก็ไม่ได้ของเก่าก็เจ๊ง เรื่องนี้นายอภิสิทธิ์มีคำตอบหรือไม่ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร หรือเพียงแต่คิดสั้นๆ จะเอาใจพันธมิตรฯ เพราะคิดจะใช้พันธมิตรฯหลังจากจะแพ้พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้





manager online

เบื้องหลังไทยประกาศถอนตัวออกจาก "มรดกโลก"...ศึกนี้ยืดเยื้อแน่

by สุทธิชัย หยุ่น , 37 น.  

คุณสุวิทย์ คุณกิตติสวมวิญญาณ "นักข่าวพลเมือง" ใช้ทวิตเตอร์รายงานการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ปารีสตลอด
จนหลังเที่ยงคืนเมื่อวาน ก็ทวีตข่าวใหญ่ ไทยตัดสินใจถอนตัวออกจากคณะกรรมการมรดกโลกและภาคีอนุสัญญาแล้ว
เป็นครั้งแรกใน 40 ปีของ "ศูนย์มรดาโลก" ที่มีประเทศไหนตัดสินใจลาออกจากภาคีอนุสัญญานี้
ใน ฐานะหัวหน้าคณะไทย คุณสุวิทย์บอกว่าเหตุผลที่ตัดสินใจเช่นนั้นเพราะร่างมติของยูเนสโกให้ฝ่าย ไทยและกัมพูชาตัดสินใจที่จะทบทวนแผนป้องกันและอนุรักษ์ประสาทเขาพระวิหารใน การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยหน้า
แต่ร่างใหม่ที่เสนอมามีลักษณะ เหมือนกับว่าไทยยอมรับแผนบริหารจัดการของกัมพูชา ซึ่งทำให้มองได้ว่ากัมพูชาอาจใช้เอกสารชุดนี้ไปประกอบพิจารณาคดีนี้ที่ศาล โลกเพราะไทยยืนยันมาตลอดว่าจะต้องไม่ล่วงล้่ำอธิปไตยของไทยเด็ดขาด
การ ประกาศลาออกของไทยหมายความว่านับจากนี้ไปการตัดสินใจกระทำใด ๆ ของคณะกรรมการมรดกโลกในพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารจะต้องได้รับอนุญาตจากไทย ก่อน
คุณสุวิทย์บอกว่า "ถ้าเรายังอยู่ในภาคี เขามีมติใด ๆ เราก็ต้องปฏิบัติตามมตินั้น เพราะเรามีความผูกพันในฐานะสมาชิก ถ้าเราไม่ปฏิบัติตาม เขาก็อาจจะแซงชั่นเรา หรือทำกับเราอย่างใดอย่างหนึ่งที่กระทบต่ออำนาจอธิปไตยหรือเขตแดนของเรา ได้..และที่สำคัญคือหากมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา และกัมพูชานำไปใช้ในศาลโลก ก็อาจจะมีผลกระทบต่อเราเหมือนกัน.."
นัก ข่าวไทยที่ติดตามคณะไทยไปด้วยรายงานว่าคุณสุวิทย์ใช้เวลาอ่านจดหมายลาออก 5 นาที ท่ามกลางความแปลกใจและตกใจของสมาชิกภาคึ 186 ชาติและกรรมการมรดกโลก 21 ชาติ
การแลกหมัดระหว่างไทยกับกัมพูชายังดำเนินต่อไป...แม้หลังเลือกตั้งไทยก็ตาม...

Thailand threatens to quit World Heritage group

Thailand is threatening to resign its membership of Unesco's World Heritage Convention.
It says it will resign from the body if a draft agreement on issues regarding the management plan for Preah Vihear temple, prepared by the Unesco World Heritage Centre, is forwarded for consideration to the World Heritage Committee (WHC).
The draft was suggested by centre director Kishore Rao after both Thai and Cambodian versions failed to win each other country's approval.
Suwit: ‘Authority to leave rests with me’
However, reading through the draft proposed by the centre, Natural Resources and Environment Minister Suwit Khunkitti, who is leading the Thai delegation at the WHC meeting in Paris, also found that it, like the Phnom Penh version, would put Thailand at risk of losing its territory.
Words in the draft like "restoration" and "repair" of the temple could cause problems in interpretation, he said.
Such wording may be used in the future to refer to repairs from being damaged in attacks by Thai troops.
Thailand wants the centre to remove them and use "protection" and "conservation" instead, according to talks between Mr Suwit's team and Unesco director-general Irina Bokova.
Mr Rao informed Mr Suwit that if Thailand and Cambodia could not reach a conclusion on any draft, the centre would forward its draft to the WHC meeting for consideration.
Mr Suwit was against this as it would put Thailand at risk of losing territory if the draft is approved by the WHC.
So Mr Suwit said he informed Mr Rao that if he insisted on doing so, Thailand had no choice but to withdraw from its membership of the World Heritage Convention.
He said he had told Prime Minister Abhisit Vejjajiva about the situation, and the premier gave him the authority to make a decision.
Both Bangkok and Phnom Penh earlier submitted their own versions of the draft agreement.
However, the two countries still disagreed on many points though they have been allowed to adjust their drafts four times each in the past two days.
Thailand insists the WHC should delay considering the management plan until border demarcation work is done.
Mr Abhisit said yesterday he told Mr Suwit to carefully monitor the situation.
Authority over whether to withdraw will rest with him, Mr Suwit said. The cabinet has empowered him to decide.
Meanwhile, Thai and Cambodian troops are worried about renewed border tensions after Bangkok's protest against Phnom Penh's management plan.
The Thai stance has upset Cambodia which told its soldiers to reinforce bunkers along the overlapping border near Surin's Phanom Dong Rak district.


bangkok post

Discussion 1 : 25/06/2011 at 06:27 AM1
He said he had told Prime Minister Abhisit Vejjajiva about the situation, and the premier gave him the authority to make a decision.

Sounds like the caretaker PM no longer wants to take care of the Preah Vihear issue.

drsmithThailandPost : 279
Discussion 2 : 25/06/2011 at 07:00 AM2
Minister Suwit Khunkitti should be the first to understand that Unesco World Heritage listing is what brings in all the tourists. Threatening to quit is just another childish Thailand ploy that is a total embarassment on the international level.If it was up to Thailand, all the national treasures would have trash all over them and be in disrepair. Keep Unesco the Minister is the one that needs to be removed. The arrogance of one person thinking he has the authority for an entire country is appalling.


  • bulaThailandPost : 320
    Discussion 3 : 25/06/2011 at 07:07 AM3
    UNESCO will follow all lawful procedures and will not surrender to threat.


  • viewerAustraliaPost : 23
    Discussion 4 : 25/06/2011 at 08:24 AM4
    Seems the WHC is in the cross road.

    On the one hand, the temple and 4.6 km2 area are technically belong to Cambodia, who should be awarded the ownership. On the other, Thailand has reputation in the international community far better than Cambodia, and the WHC along with other countries would hesitate to loose Thailand as a member.


    Thailand has been playing all its cards, but the confidence of winning supports from the international community remains unconvinced. So leaving the organisation is a last card remaining.


    WHC has no alternative, but it will hand the trophy to Cambodia.


  • Discussion 5 : 25/06/2011 at 08:45 AM5
    Ah, the limitless arrogance of Thai officialdom. I guess Sukothai, Ayutthaya, Thungyai-Huai Kha Khaeng, Ban Chiang, and Dong Phayayen-Khao Yai really aren't that important compared to some Cambodian temple in the middle of nowhere.

  • Discussion 6 : 25/06/2011 at 08:47 AM6
    Thailand will follow all lawful procedures and has the right to disagree.



    • yongCambodiaPost : 22
      Discussion 7 : 25/06/2011 at 08:50 AM7
      Oppp is it a treat to UNESCO while Thailand withdraw from WHC???
    • Discussion 8 : 25/06/2011 at 09:00 AM8
      Abhisit Vejjajiva can withdraw from UNESCO. I thought he need to get approval from the Cabinet or Parliament. Or from the Army.
  • Discussion 9 : 25/06/2011 at 09:01 AM9
    .....The Thai stance has upset Cambodia which told its soldiers to reinforce bunkers along the overlapping border near Surin's Phanom Dong Rak district.

    I would say the opposite to the above paragraph. There is no such upset thing at Cambodia side because they are confident that they will win at all forums. Cambodia is the only owner of the temple and its vicinity provided that the committee comply with its laws. Abhisit and his ministers backfire. Make Thai people lost face and credibility. The more they try, the more they will lose. Lost both the fight with Cambodia and the coming election. Wake up.
  • Discussion 10 : 25/06/2011 at 09:15 AM10
    The Thai delegation should have brought SOLTAIR D#6 with them. Sure you have rights to disagree with something that you are not happy with, but when you go to court and you are a wrongdoer you will be forced to comply with the laws. However I am not sure if it works in Thailand. Or it may work for some situation or some group, party.

papaThailandPost : 79
Discussion 11 : 25/06/2011 at 09:18 AM11
So what does Yingluck say we should do?
It is time for her to state some opinions on serious matters not just the price of eggs..


ivykingUS Minor Outlying IslandsPost : 690
Discussion 12 : 25/06/2011 at 09:19 AM12
"It says it will resign from the body if a draft agreement on issues regarding the management plan for Preah Vihear temple, prepared by the Unesco World Heritage Centre, is forwarded for consideration to the World Heritage Committee (WHC)."

Yes, that's my good boy.
Now roll over.


  • ricefieldThailandPost : 1396
    Discussion 13 : 25/06/2011 at 09:30 AM13
    In a week or so everything will change and these type statements will hopefully no longer be made.
  • Discussion 14 : 25/06/2011 at 09:38 AM14
    threatening the WHC!. it is no difference from threatening to the international communitee. Abhisit and his people bring shame to thailand.
    • Discussion 15 : 25/06/2011 at 09:55 AM15
      Hi,you didn't have to go all the way to Paris to make this statement !
      • Discussion 16 : 25/06/2011 at 09:58 AM16
        thailand issued an ultimatum to UNESCO threatening to quit its membership. that is hilarious. I got have my way otherwise I will quit. how sad...nice try Mr.

      fatherThailandPost : 39
      Discussion 17 : 25/06/2011 at 10:27 AM17
      Dear Mr. AV and Suwit,

      You told Thai people that you were successful in lobbying the WHC to exclude the Preah Vihear Management Plan from the WHC Meeting Agenda? you always claim that everything is favored for Thailand... and what happen now? You could not hide the truth at last... hahaha


      • DocNPost : 7
        Discussion 18 : 25/06/2011 at 10:27 AM18
        Just one question: who, the hell, do you think you are?
        This is like quitting FIFA, because it will not make Thailand Asian Cup Winners!

      Discussion 19 : 25/06/2011 at 11:00 AM19
      It sound like a childish. If you don't give me a candy I will not play with you. Thai used to be a civilized country, why this government under a leadership of AV damage the image of Thailand?
      • Discussion 20 : 25/06/2011 at 11:01 AM20
        RF #13 "In a week or so everything will change and these type statements will hopefully no longer be made."
        Dream on, forgot "the UN is not my father"? of course you forgot, too much kao niew:-)
          

      tombThailandPost : 92
      Discussion 21 : 25/06/2011 at 11:04 AM21
      So long, Thailand!

      You could as well pull out of FIFA (can't qualify), ASEAN (nobody sides with Thailand anymore), UN (No Thai was elected chairman) etc...

      • Discussion 23 : 25/06/2011 at 11:19 AM23
        Who cares. Thailand you are a miscellaneous category among the worlds population. Lets hope the next government of PT will learn that Thailand is not the centre of the universe. Hopeful thinking. It will just be more of the same with a different colored backdrop.
         
      • Discussion 24 : 25/06/2011 at 11:31 AM24
        This is a typical example of Thainess if I don’t get my way I will scream and throw my toys out of the pram they should be thrown out of the Unesco World Heritage Convention if they are unable to accept the rules and behave in this manner.
        

      fatherThailandPost : 39
      Discussion 25 : 25/06/2011 at 11:38 AM25
      But why are you trying to be in power once people do not vote in your favor? and why do you not dare to resign even from the party chairmanship once your party could not reach the previous seats?
      • Discussion 26 : 25/06/2011 at 11:39 AM26
        New Government: Meet in a spirit of cooperation with Cambodia, agree to a plan and get UNESCO World Heritage Site International visitors to enter from BOTH countries. This "ownership" boundary issue is childish (but VERY dangerous) and counter-productive to peace, security & making some (honest) money! As always, the poor people, soldiers & families of the dead suffer the most.

        It's all stemming from Thai military attitude (& Dem's must go along). It is an arrogant attitude after so many coups.


        NO MORE COUPS! No more International isolation for Thailand.

      • Discussion 27 : 25/06/2011 at 11:42 AM27
        AV has the Midas touch in reverse at the present time, he has this uncanny knack of getting everything wrong, and time is running out!
       
      • Discussion 28 : 25/06/2011 at 12:09 PM28
        World Heritage Group will not be able to work without Thailand?? What is the consequence if Thailand quit? Always bully others. Pathetic.

      • abbubThailandPost : 652
        Discussion 29 : 25/06/2011 at 12:57 PM29
        SOLTAIR #6: "Thailand will follow all lawful procedures and has the right to disagree."

        Yes of course. I disagree with some laws and other rules and regulations. But that does not mean I can ignore them. We all have to abide by some sort of civilizing standards if we want to be a part of the world community and not be seen as renegades.


        Thailand also signs up to other international agreement, like the freedom of speech. It does not though allow it.


        "The Thai Way" has some things going for it, or I would not be here. I actually agree some things from the so-called developed world are better left outside. But Thailand needs to try to figure out ways of understanding exactly what is "good" or not about the outside world. And when it decides to join a club, it has to follow the rules.


        After the elections the military must be stopped. Fast. Forever. Or the country cannot move forward in a meaningful way. To heal the wounds you have to first remove the thorn in the side that keeps festering.


        • sanghaUnited StatesPost : 54
          Discussion 30 : 25/06/2011 at 01:36 PM30
          The Thai Government dares to resign from the Body of World Heritage without approval from the Thai Parliament?
        • Discussion 31 : 25/06/2011 at 02:04 PM31
          Their bluff should be called. They will not leave - no way. As each day goes by they look more incompetent.

          • Discussion 32 : 25/06/2011 at 02:51 PM32
            It will be good that Thailand will resign from the UNESCO's membership because It has been lost face several time in the international forum and if Thailand still be the membership no benefit to UNESCO.                                                                                

                            
             
            • Discussion 33 : 25/06/2011 at 03:13 PM33
              Thailand has got to stop looking at itself through rose coloured glases, it is not Utopia or Paradise as Thia's think it is. A great marketing job has been done on Thai's, its a pity they could not do other things so well. A friend on a recent visit to the USA, was appalled at what he read about Thailand, he did not believe this was his country they are talking about, it took days to prove that the Thailand he thought he knew as his own country was in fact very different.

            • drakeAntarcticaPost : 257
              Discussion 34 : 25/06/2011 at 03:42 PM34
              Considering the fact that Thailand was coerced in to accepting the original verdict as a condition for admission in to the UN and righ now that organization is nothing more than a hideous snake pit full of corrupted autocrats this may actually be a good move.
              555
            Discussion 35 : 25/06/2011 at 04:52 PM35
            drake #34, unfortunately Thailand and Siam had many opportunities to complain concerning the (in)accuracies op "the map" and consequent verdicts but they didn't. With today's GPS technology it is overly clear where the temple is situated and that the old maps were improperly interpreted. Is there not something like in a prison sentence case, when new evidence is brought in, the Judge can overturn the previous sentence? By the way, is that not what they will try to do with Taxhim? just a thought...

            • peaceCambodiaPost : 28
              Discussion 36 : 25/06/2011 at 05:29 PM36
              Mr. Suwit. Do you think that UNESCO will collapse or come the end when you resign your membership from UNESCO. You will be more suffering when you see that tourists stop coming to visit your country but Cambodia. The international knows you and keep in their mind that you and your current government are notorious for the best liar.
            • Discussion 37 : 25/06/2011 at 05:52 PM37
              I bet AV will not withdraw membership from UNESCO, he just threaten to UNESCO for political purpose and want Thai people to vote for him.


              • kaweekaThailandPost : 132
                Discussion 38 : 25/06/2011 at 06:15 PM38
                Let these war monger ultra-nationalists paint themselves against the corner so they can eat their own words later on, as they often do. Let them fight temples they never visit, land they never lived at, people they never represent. Lip service is all they are good at.

                Discussion 39 : 25/06/2011 at 07:33 PM39
                Very good decision by Thai government, making UNESCO and Hun Sen look like fools.


                • johninbkkUnited StatesPost : 1521
                  Discussion 40 : 25/06/2011 at 08:52 PM40
                  Thailand has five world heritage sites. They want the land around the temple (not the temple itself) to be declared as part of Thailand. By leaving Unesco, the five sites will be delisted, and the land will still be disputed by Thailand. It's like cutting off your arm to stop a finger cut from bleeding. Lets hope that YS un-quits Unesco when she becomes the next PM.

                • fmaThailandPost : 104
                  Discussion 41 : 25/06/2011 at 09:48 PM41
                  Once again I get surprised by the statements from public figures here in LoS. Another winner for Abhisit!

                • wsmaUnited StatesPost : 63
                  Discussion 42 : 25/06/2011 at 10:37 PM42
                  I believe this is only threatens but not going to happen otherwise world will skip Thai land to the cube if they dare to withdraw from UNESCO membership.
                • Discussion 43 : 26/06/2011 at 12:07 AM43
                  Although I'm a supporter of the Democrat Party, I strongly disagree with the handling of the temple issue. The temple belongs to Cambodia and it's common sense that the vicinity belongs to Cambodia as well. Don't use maps but use common sense instead !!!!
                  This area is of no use for Thailand, the only use is to bullying Cambodia, that's really childish.
                  Thailand should try to exchange the disputed area for another disputed area. Because other disputed area that is not in the vicinity of a temple could be of practical use for Thailand.
                  But I would like if YS has any own idea for solving that problem ?
                • Discussion 44 : 26/06/2011 at 12:50 AM44
                  The World Heritage Committee has no authority on the territory issue. Even if the fugitive wants to give away our land for personal gain the Thai people will never accept it.

                • somchaiThailandPost : 201
                  Discussion 45 : 26/06/2011 at 12:57 AM45
                  We are lucky having a strong leader not making deals for personal benefit like the fugitive in Montenegro did. The decision to exit makes Thailand stronger and both UNESCO and Cambodia lose faces.
                • Discussion 46 : 26/06/2011 at 04:30 AM46
                  Kaweeka d38, you have summed it up perfectly. If the power drunk parasites on both sides bloated by the blood and sweat of their respective populations feel so strongly about it, let them stand on the elusive line facing each other with light artillery and fight it out, but leave everyone else alone to get on with their lives. Cross border solidarity of the people who have lived in the area for hundreds of years as friends and families after building this temple in the first place should prevail over bloody politics carried out thousands of miles away.

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง