
จนหลังเที่ยงคืนเมื่อวาน ก็ทวีตข่าวใหญ่ ไทยตัดสินใจถอนตัวออกจากคณะกรรมการมรดกโลกและภาคีอนุสัญญาแล้ว
เป็นครั้งแรกใน 40 ปีของ "ศูนย์มรดาโลก" ที่มีประเทศไหนตัดสินใจลาออกจากภาคีอนุสัญญานี้
ใน ฐานะหัวหน้าคณะไทย คุณสุวิทย์บอกว่าเหตุผลที่ตัดสินใจเช่นนั้นเพราะร่างมติของยูเนสโกให้ฝ่าย ไทยและกัมพูชาตัดสินใจที่จะทบทวนแผนป้องกันและอนุรักษ์ประสาทเขาพระวิหารใน การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยหน้า
แต่ร่างใหม่ที่เสนอมามีลักษณะ เหมือนกับว่าไทยยอมรับแผนบริหารจัดการของกัมพูชา ซึ่งทำให้มองได้ว่ากัมพูชาอาจใช้เอกสารชุดนี้ไปประกอบพิจารณาคดีนี้ที่ศาล โลกเพราะไทยยืนยันมาตลอดว่าจะต้องไม่ล่วงล้่ำอธิปไตยของไทยเด็ดขาด
การ ประกาศลาออกของไทยหมายความว่านับจากนี้ไปการตัดสินใจกระทำใด ๆ ของคณะกรรมการมรดกโลกในพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารจะต้องได้รับอนุญาตจากไทย ก่อน
คุณสุวิทย์บอกว่า "ถ้าเรายังอยู่ในภาคี เขามีมติใด ๆ เราก็ต้องปฏิบัติตามมตินั้น เพราะเรามีความผูกพันในฐานะสมาชิก ถ้าเราไม่ปฏิบัติตาม เขาก็อาจจะแซงชั่นเรา หรือทำกับเราอย่างใดอย่างหนึ่งที่กระทบต่ออำนาจอธิปไตยหรือเขตแดนของเรา ได้..และที่สำคัญคือหากมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา และกัมพูชานำไปใช้ในศาลโลก ก็อาจจะมีผลกระทบต่อเราเหมือนกัน.."
นัก ข่าวไทยที่ติดตามคณะไทยไปด้วยรายงานว่าคุณสุวิทย์ใช้เวลาอ่านจดหมายลาออก 5 นาที ท่ามกลางความแปลกใจและตกใจของสมาชิกภาคึ 186 ชาติและกรรมการมรดกโลก 21 ชาติ
การแลกหมัดระหว่างไทยกับกัมพูชายังดำเนินต่อไป...แม้หลังเลือกตั้งไทยก็ตาม...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น