กต.
ร่อนหนังสือแจง กัมพูชา ปัด ละเมิดน่านฟ้า-โจมตีเขมร มั่นใจ เปลี่ยนรัฐบาล
ไม่กระทบการสู้คดี "เขาพระวิหาร" ในศาลโลก
ฮุนเซนปฏิเสธข่าวข้อเสนอบริหารร่วม
หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์รายงานเมื่อวันจันทร์ (6 มิ.ย.) ว่า
ฝ่ายไทยจะไม่ดำเนินการตามคำสั่งของศาลระหว่างประเทศ (ไอเจซี)
โดยอ้างการรายงานของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ที่อ้างคำพูดของ พล.อ.ประวิตร
วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ว่าฝ่ายไทยจะยอมรับการตัดสินของศาลไอเจซี ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
แต่ไอซีเจ "ไม่มีอำนาจ"
สั่งการให้ฝ่ายไทยถอนทหารออกจากบริเวณชายแดนตามที่กัมพูชาร้องขอ
ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ก็รายงานด้วยว่า นายปณิธาน
วัฒนายากร โฆษกรัฐบาล ให้ความเห็นสนับสนุน รมว.กลาโหม โดยกล่าวว่า "ไอซีเจ
ไม่มีอำนาจในการบังคับให้ไทยถอนทหาร"
พนมเปญโพสต์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ความเห็นของ
รมว.กลาโหมและโฆษกรัฐบาลไทยจะทำให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหม่ในการแก้ปัญหา
ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยืดเยื้อมานาน
ทั้งสองประเทศได้ให้การต่อศาลไอซีเจ
หลังจากที่กัมพูชาร้องขอให้ศาลโลกตีความคำสั่งศาลเมื่อปี 2505
ที่ระบุให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา
ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าคำสั่งศาลดังกล่าวหมายรวมถึงพื้นที่โดยรอบปราสาทด้วย
ด้านนายฮอร์ นัมฮง
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา กล่าวว่า
ศาลไอซีเจจะใช้เวลาประมาณ 40-45 วัน ในการลุถึงคำตัดสิน
ขณะที่นายอังเดรย์ พอสคาคูกิน หัวหน้าแผนกข้อมูลแห่งไอซีเจ
กล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า
ไอซีเจไม่มีอำนาจในการบังคับใช้คำพิพากษา
เพราะโดยทั่วไปแล้วคู่ความแต่ละประเทศจะเคารพต่อคำพิพากษาของศาล
แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาล
คู่ความอีกฝ่ายก็สามารถยื่นเรื่องสู่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
เพื่อพิจารณาต่อไปได้
ส่วนนายกอย เกือง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชายืนยันว่า
กัมพูชาไม่หวั่นไหวต่อท่าทีของไทย
และหากไทยไม่เคารพต่อคำพิพากษาของศาลโลกที่ระบุให้ไทยถอนทหารออกจากพื้นที่
ชายแดน ก็จะเป็นปัญหาของไทยกับไอซีเจเอง
ฮุนเซนปฏิเสธข่าวข้อเสนอบริหารร่วม
เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟรายงานข่าวระบุว่า
บายนทีวีและหนังสือพิมพ์เกาะสันติภาพของกัมพูชา เมื่อช่วงเย็น (6 มิถุนายน
2554) รายงานอ้างคำกล่าวของฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
พร้อมแนะให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีของไทยไปคิดแต่เรื่องการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งเถิด
อย่าได้พูดอะไรที่เกี่ยวข้องกับปัญหาพรมแดนอีก
พร้อมกันนั้นได้ส่งสารยืนยันแจ้งมายังกรุงเทพฯ แจ้งชาวไทยและชาวกัมพูชาว่า
กัมพูชาและไทยไม่มีพื้นที่ทับซ้อนทางบก ไม่มี ไม่ว่าเป็นพื้นที่ไหน
มีพื้นที่ทับซ้อนเฉพาะในทะเล
ส่วนกรณีที่ได้เสนอให้กัมพูชา-ไทย ทำธุรกิจร่วมกันในพื้นที่ขัดแย้ง 4.6
ตร.กม. พร้อมเงื่อนไข 3 ข้อนั้นสมเด็จฮุนเซน บอกว่าเรื่องพรมแดน 100 ปี
ก็พูดกันไม่จบสิ้น ตอนนี้ข้อไหนก็กำหนดให้ได้ทำงานร่วมกันก่อน
ไม่ได้ให้มาเจรจากัน
"ไม่ได้หารือกับใครเลย อย่าว่าแต่หารือเลย
พบก็ไม่ได้พบ เรื่องปัญหาเกี่ยวข้องไปถึงพื้นที่ทับซ้อนนั้น กัมพูชาไม่รู้
ไม่ได้ยิน ไม่ได้ฟังว่ามีพื้นที่ทับซ้อนทางบก แล้ว พล.อ.วิชิต ยาทิพย์
ไปเอามาจากไหน" สมเด็จฮุนเซนกล่าวและว่า
นายกรัฐมนตรีของไทยควรทำงานให้ถี่ถ้วนกว่านี้ กล่าวคือ
กรรมสิทธิ์ร่วมนั้นไม่มี ดินแดนเขมรต้องชัดว่าเป็นดินแดนเขมร
ดินแทนไทยต้องชัดว่าเป็นดินแดนไทย
กัมพูชาไม่สามารถถอนกองทัพออกจากดินแดนของตนได้
นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวยืนยันในตอนท้ายว่า
เรื่องกัมพูชา-ไทยอยู่ในคณะมนตรีความมั่นคงฯ แล้วอาเซียนควรดำเนินการต่อ
ส่วนเรื่องที่ศาลกรุงเฮกก็ยืนยันไม่ถอน
ไม่ว่ารัฐบาลไทยปัจจุบันหรือรัฐบาลไหน จนกว่าปัญหาจะยุติ พร้อมกันนี้
ฮุนเซนได้สั่งย้ำไปยังกองทัพแห่งชาติกัมพูชาว่าควรต้องเสริมขีดความสามารถใน
การป้องกันตนเอง
บัวแก้วแจงกัมพุชาปัดละเมิดน่านฟ้า
นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า
วันนี้ (6มิ.ย.) กระทรวงการต่างประเทศ
จะมีหนังสือไปยังสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย
เพื่อปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา กรณีที่กัมพูชากล่าวหาว่า
ฝ่ายไทยละเมิดน่านฟ้าและเตรียมที่จะโจมตีกัมพูชา
"จะได้ชี้แจงข้อ
เท็จจริง และยืนยันแนวทางปฏิบัติทางทหารของไทย
ที่ต้องรักษาระยะการบินใกล้เส้นแขตแดนอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม
ในระหว่างนี้การปฏิบัติการใด ๆ ในพื้นที่ชายแดน
ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
เพราะศาลโลกติดตามพัฒนาการในพื้นที่อย่างใกล้ชิดเช่นกัน" นายธานี กล่าว
มั่นใจเปลี่ยนรัฐบาลไม่กระทบสู้คดีศาลโลก
วันเดียวกัน นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ
ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายอิทธิพร บุญประคอง
อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ได้แถลงรายละเอียดเกี่ยวกับการสู้คดีในศาลโลก
เรื่องการตีความคำพิพากษาเรื่องปราสาทพระวิหารปี 2505 ว่า
การไปชี้แจงเมื่อวันที่ 30 - 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นแค่ยกแรก คือ
คัดค้านคำร้องขอมาตรการชั่วคราวของกัมพูชาที่ให้ไทยถอนทหารออกจากพื้นที่
4.6 ตารางกิโลเมตร ระหว่างรอให้ศาลตีความเท่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อศาลมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็จะเข้าสู่การพิจารณาเรื่องการตีความ ซึ่งไทยมั่นใจในข้อมูลที่ใช้สู้คดี
ส่วน
ที่ว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล จะกระทบต่อแนวทางการสู้คดีหรือไม่นั้น
นายอิทธิพร ยืนยันว่า ไม่กระทบ
เพราะทีมกฎหมายได้กำหนดแนวทางการสู้คดีเอาไว้ชัดเจนตั้งแต่แรก
ทั้งเรื่องข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง
กระนั้น ก็ยอมรับว่า
ในส่วนของท่าทีต่อคดี อาจเปลี่ยนแปลงได้ ตามนโยบายของรัฐบาล
ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ เช่นการเพิ่มหรือตัดบางประเด็น ที่รัฐบาลคิดว่า
จะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี