บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

กต.เขมรแถลงปฏิเสธจารกรรม โบ้ยจนท.ไทย-มาร์คสร้างเรื่องใส่ความ

กต.เขมรแถลงปฏิเสธจารกรรม โบ้ยจนท.ไทย-มาร์คสร้างเรื่องใส่ความ Posted on 10 June 2011 by n/e - 21:42 น. ฟิฟทีนมูฟ – กต.เขมรออกแถลงการณ์ด่วนกรณีจับสายลับเขมร โบ้ยเจ้าหน้าที่และนายกไทยสร้างเรื่องใส่ความ เพื่อหาเรื่องรุกรานกัมพูชาในอนาคต กัมพูชาไม่ได้มอบหมายให้ไปทำอย่างที่ว่า กล่าวหาไทยทำให้สาธารณะเข้าใจผิดและใส่ความเขมรโดยไม่มีมูลความจริง แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา ลงวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ ปฏิเสธการจับกุมชาวกัมพูชาในข้อหาจารกรรม แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา ลงวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ ปฏิเสธการจับกุมชาวกัมพูชาในข้อหาจารกรรม เมื่อช่วงค่ำ (๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๔) กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา ออกแถลงการณ์ปฏิเสธกรณีการจับกุมชาย ๓ คน ซึ่งประกอบด้วยชาวกัมพูชา เวียตนามและชาวไทยในพฤติการณ์เป็นสายลับ ในพื้นที่ ชายแดน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยในตอนต้นของแถลงการณ์อ้างถึงรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์และเดอะเนชั่น วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ ที่รายงานว่า เจ้าหน้าที่ไทยได้จับกุมชาย ๓ คน เนื่องจากทำการ “จารกรรม” ในพื่นที่พรมแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งในนั้นมีชาวกัมพูชาอยู่ด้วย หากแต่ตามคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีไทย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เผยแพร่ในสำนักข่าวไทย-อาเซียน (TAN) ที่ระบุว่าทั้งสามคนเป็นชาวกัมพูชา แถลงการณ์กล่าวต่อว่า ไม่ว่าจะเป็นชาวกัมพูชา ๑ คน หรือทั้ง ๓ คน รัฐบาลกัมพูชาขอประกาศปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อการสร้างเรื่องขึ้นด้วยความทุจริตของเจ้าหน้าที่ไทย และนายกรัฐมนตรีไทย ที่สร้างความเข้าใจผิดให้กับสาธารณะ และกล่าวหากัมพูชาโดยไม่มีมูลความจริง รัฐบาลกัมพูชาขอประกาศว่า การสร้างเรื่องข้างต้นนี้ เป็นเพียงแต่เล่ห์เพื่อสร้างเหตุสำหรับทำการรุกรานกัมพูชาในอนาคตเท่านั้น กัมพูชาเสียใจมากที่นายกประเทศเพื่อนบ้าน ได้เอาเรื่องกล่าวโกหกเป็นหลักการในนโยบายการต่างประเทศของไทย แถลงการณ์ย้ำในตอนท้ายว่า รัฐบาลกัมพูชาขอยืนยันอย่างชัดเจนและเด็ดขาดว่า กัมพูชาไม่มีการมอบหมายที่จำเป็นอะไรทั้งสิ้น เพื่อไปทำการอะไรที่นายกรัฐมนตรีไทยใส่ความว่าเป็นการจารกรรม http://www.15thmove.net/news/khmer-foreign-statement-reject-spy-charge/?ref=nf

นายกฯเล็งใช้ข้อมูลจับสายลับเขมรฟ้องกรรมการมรดกโลก-ศาลโลก

นายกฯเล็งใช้ข้อมูลจับสายลับเขมรฟ้องกรรมการมรดกโลก-ศาลโลก  วันที่ 10 มิ.ย.ที่สถานตรวจโรคปอด ถนนแฉล้มนิมิตร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ทหารพรานจับกุมตัวผู้ชาย 3 คนที่มีทั้งชาวไทย ชาวกัมพูชา และชาวเวียดนาม ใช้รถยนต์เป็นพาหนะลักลอบสอดแนมหาพิกัดที่ตั้งของทหารไทย และสำรวจหลุมหลบภัยของชาวบ้าน ที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แต่เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้ประสานมายังฝ่ายความมั่นคงของไทย เพื่อขอตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ว่า ตนพูดคุยกับนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา เห็นว่าเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายของไทย เพราะได้พบเอกสารหลักฐานต่างๆ  ซึ่งต้องสอบสวนให้ไปถึงต้นเหตุและวัตถุประสงค์ของคนเหล่านิ้ เนื่องจากมีเอกสารหลายอย่างและแผนที่ ดังนั้น เราต้องแจ้งให้กัมพูชารับทราบว่านี่คือสิ่งที่ไทยพบ และเราไม่ยอมรับการกระทำแบบนี้ อีกทั้ง นายสุวิทย์บอกว่าจะใช้เรื่องนี้ให้เป็นประโยชน์ในเวทีอื่นๆด้วย    นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นี่เป็นตัวหนึ่งที่เราจะใช้ไปบอกกับเวทีต่างๆในโลกว่ามันแสดงออกถึงเจตนาของกัมพูชา ทั้งนี้ยังมีเวลาที่ไทยสามารถส่งข้อมูลดังกล่าวเพิ่มเติมไปยังคณะกรรมการมรดกโลก และเราอาจมีการยื่นต่อศาลโลกด้วย แต่ต้องพิจารณาข้อมูลก่อน ซึ่งตนมั่นใจว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายไทย และเมื่อต่างประเทศได้เห็นข้อมูลตรงนี้ จะเห็นได้ชัดว่าฝ่ายที่มีเจตนาคือฝ่ายกัมพูชา และสิ่งที่กัมพูชาอ้างมาตลอดว่าไทยรุกรานเขานั้นไม่ได้มีหลักฐานใดเลย แต่ในทางตรงกันข้ามเขากลับกระทำอย่างนี้  ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ถึงกรณีดังกล่าว ว่าเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีไปตามตัวบทกฎหมาย ทั้งนี้ เบื้องต้นทางการไทยจะไม่มีการไปขอเจรจาเพื่อขอเปลี่ยนตัวให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนอย่างนายวีระ สมความคิด และนางราตรี พิพัฒนไพบูลย์ กลับมา ถึงเวลานี้ยังไม่มีการพูดหรือเจรจาใดๆทั้งสิ้น และขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานว่ากัมพูชาประสานมาเลย

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2011 เวลา 09:49 น.    ใช้ข้อมูลจับสายลับเขมร ฟ้องมรดกโลก-ศาลโลก มาร์คเชื่อไทยได้เปรียบ! มัดเขมรจ้องรุกรานไทย

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2011 เวลา 09:49 น.    ใช้ข้อมูลจับสายลับเขมร ฟ้องมรดกโลก-ศาลโลก มาร์คเชื่อไทยได้เปรียบ! มัดเขมรจ้องรุกรานไทย "มาร์ค" เตรียมใช้ข้อมูล "จับสายลับเขมร" ฟ้องค.ก.มรดกโลก-ศาลโลก มัดเขมรรุกรานไทย มั่นใจข้อมูลที่มีเป็นประโยชน์ต่อไทย ด้าน“สุเทพ” ยันไม่มีการเจรจาขอเปลี่ยนตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับกัมพูชา วันที่ 10 มิ.ย. 2554 เวลา 07.55 น. ที่สถานตรวจโรคปอด ถนนแฉล้มนิมิตร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ทหารพรานจับกุมตัวผู้ชาย 3 คนที่มีทั้งชาวไทย ชาวกัมพูชา และชาวเวียดนาม ใช้รถยนต์เป็นพาหนะลักลอบสอดแนมหาพิกัดที่ตั้งของทหารไทย และสำรวจหลุมหลบภัยของชาวบ้าน ที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แต่เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้ประสานมายังฝ่ายความมั่นคงของไทย เพื่อขอตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนว่า ตนได้พูดคุยกับนายสุวิทย์ คุณกิตติ รักษาการรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา เห็นว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายของไทย เพราะได้พบเอกสารหลักฐานต่างๆ   เมื่อถามว่า ไทยจะใช้เรื่องนี้ไปใช้เจรจากับกัมพูชาในกรณีของนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำของกัมพูชา ได้หรือไม่ รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรากำลังพิจารณารายละเอียดทั้งหมด เพราะเราต้องสอบสวนให้ไปถึงต้นเหตุและวัตถุประสงค์ของคนเหล่านิ้ เนื่องจากมีเอกสารหลายอย่างและแผนที่ ดังนั้นเราต้องแจ้งให้กัมพูชารับทราบว่านี่คือสิ่งที่ไทยพบ และเราไม่ยอมรับการกระทำแบบนี้ อย่างไรก็ตาม นายสุวิทย์บอกว่าจะใช้เรื่องนี้ให้เป็นประโยชน์ในเวทีอื่นๆด้วย ต่อข้อถามว่า กัมพูชายังใช้วิธีการสืบข้อมูลเรื่องของทหารและหลุมหลบภัย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นี่เป็นตัวหนึ่งที่เราจะใช้ไปบอกกับเวทีต่างๆในโลกว่ามันแสดงออกถึงเจตนาของกัมพูชา ทั้งนี้ยังมีเวลาที่ไทยสามารถส่งข้อมูลดังกล่าวเพิ่มเติมไปยังคณะกรรมการมรดกโลก และเราอาจมีการยื่นต่อศาลโลกด้วย แต่ต้องพิจารณาข้อมูลก่อน ซึ่งตนมั่นใจว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายไทย และเมื่อต่างประเทศได้เห็นข้อมูลตรงนี้ จะเห็นได้ชัดว่าฝ่ายที่มีเจตนาคือฝ่ายกัมพูชา และสิ่งที่กัมพูชาอ้างมาตลอดว่าไทยรุกรานเขานั้นไม่ได้มีหลักฐานใดเลย แต่ในทางตรงกันข้ามเขากลับกระทำอย่างนี้ “สุเทพ” ยันไม่มีการเจรจาขอเปลี่ยนตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับกัมพูชา เวลา 09.00น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทางการไทยจับกุมสายลับของกัมพูชาและคนไทยส่วนหนึ่งที่เข้ามาโจรกรรมข้อมูลจากฝ่ายไทยว่า เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีไปตามตัวบทกฎหมาย ทั้งนี้ เบื้องต้นทางการไทยจะไม่มีการไปขอเจรจาเพื่อขอเปลี่ยนตัวให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เช่น กรณีของนายวีระ สมความคิด และน.ส.ราตรี พิพัฒนไพบูรณ์ กลับมา ถึงเวลานี้ยังไม่มีการพูดหรือเจรจาใดๆทั้งสิ้น   เมื่อถามว่า ทางการกัมพูชามีการประสานขอตัวกลุ่มคนดังกล่าวแล้วหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานว่ากัมพูชาประสานมาอย่างไร  

“สุวิทย์” รุดตรวจจับ 3 สายลับสั่งดำเนินคดีเด็ดขาด-“กงสุลเขมร” ดอดเยี่ยมผู้ต้องหา



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 มิถุนายน 2554 19:03 น.


นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ รุดตรวจสอบการจับกุม 3 สายลับเขมร-เวียดนาม-ไทยมุสลิม ลอบสำรวจพิกัดโจรกรรมข้อมูลฐานที่ตั้งทหารไทยที่ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ ( 9 มิ.ย.)
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น


ผู้ต้องหา 3 สายลับเขมร-เวียดนาม-ไทยมุสลิม


ศรีสะเกษ - “สุวิทย์” รุดตรวจสอบการจับกุม 3 สายลับเขมร-เวียดนาม-ไทยมุสลิม ลักลอบสำรวจพิกัดโจรกรรมข้อมูลฐานที่ตั้งทหารไทยตามแนวชายแดน ที่บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ กำชับ ตร.ดำเนินคดีตาม กม.เต็มที่ ชี้ หลักฐานแผนที่ทหาร พร้อมจดหมายเลขพิกัด 10 หลักมัดแน่นเป็นสปายลอบหาข้อมูลความมั่นคงไทยชัดเจน ส่วนกงสุลเขมรสระแก้ว ดอดเยี่ยม 3 ผู้ต้องหา ด้าน ตร.นำ 3 ผู้ต้องหาฝากขังกับศาลแล้ว
      
       วันนี้ (9 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่ พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ และ พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และคณะนายทหารสังกัดกองกำลังสุรนารี ได้ร่วมกันจับกุม 3 สายลับกัมพูชา-เวียดนาม ซึ่งลักลอบเข้ามาสำรวจพิกัดโจรกรรมข้อมูลฐานตั้งทางทหารตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตำรวจได้ตั้งข้อหาดำเนินคดีทั้ง 3 คน ร่วมกันกระทำการใดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความลับสำหรับความปลอดภัยของประเทศ เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
      
       เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายแมน วันนา กงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำจังหวัดสระแก้ว และ นายวันชัย เพชรมาก เลขานุการกงสุลใหญ่กัมพูชาได้มาเยี่ยม 3 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม คือ นายสุชาติ มูฮำหมัด อายุ 32 ปี สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย ศาสนาอิสลาม, นายอึ้ง กิมไทย อายุ 43 ปี สัญชาติกัมพูชา เชื้อชาติกัมพูชา ศาสนาพุทธ และนายเหวียง เติ้งยัง อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม เชื้อสายเวียดนาม ศาสนาพุทธ ซึ่ง พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้อนุญาตให้เยี่ยมได้ และใช้เวลาในการเยี่ยมผู้ต้องหาประมาณ 10 นาที คณะของกงสุลใหญ่กัมพูชาจึงได้เดินทางกลับ
      
       นายวันชัย เพชรมาก เลขากงสุลใหญ่กัมพูชา กล่าวว่า การมา เยี่ยมในครั้งนี้ เป็นการทำตามระเบียบของกงสุลใหญ่ กัมพูชา เมื่อทราบข่าวว่า ชาวกัมพูชาถูกจับกุมก็ต้องมาเยี่ยมดูแลและหาทางช่วยเหลือตามแนวทางของกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีต้องเป็นไปตามกฎหมายของประเทศไทย ตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว
      
       ต่อมาเวลา 15.20 น.วันเดียวกันนี้ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มายังบริเวณสนามหน้า สภ.กันทรลักษ์ จากนั้น ได้เข้าไปประชุมร่วมกับ นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ นายอำเภอกันทรลักษ์ พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ และ พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรับทราบข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
      
       จากนั้น นายสุวิทย์ และคณะ ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ห้องประชุม สภ.กันทรลักษ์
      
       ทั้งนี้ พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้สรุปรายงานการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ทำการสอดแนมฐานที่ตั้งทางทหารไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตลอดจนสำรวจหลุมบังเกอร์ของชาวบ้านที่ทางราชการทหารได้จัดทำไว้ให้ชาวบ้าน ได้ใช้เพื่อหลบภัยสงคราม ซึ่งจากการตรวจค้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพบ แผนที่ทางทหารของประเทศกัมพูชา และแผนที่ประเทศไทย และพบหลักฐานการจดข้อความพิกัด หมายเลข 10 หลัก และเครื่องมือสื่อสารเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง
      
       นอกจากนี้ จากการตรวจปัสสาวะของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ผลจากการตรวจสอบพบสารเสพติดประเภทแอมเฟตามีนเจือปนในปัสสาวะของนายสุชาติ และ นายอึ้ง ซึ่งยอมรับสารภาพว่าได้เสพยาบ้ามาก่อนจริง จึงได้ตั้งข้อหาว่า ร่วมกันกระทำการใดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความลับสำหรับความปลอดภัยของประเทศ เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
      
       นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตนได้มาตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการจับกุม 3 ผู้ต้องหาที่ต้องสงสัยว่า เป็นสายลับเข้ามาหาข้อมูลทางด้านความมั่นคงของไทย ซึ่งได้กำชับให้ ตำรวจ และทหาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ได้ร่วมกันป้องกันปราบปรามการลักลอบ ตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์พนมดงรัก สามารถจับกุมชาวกัมพูชาจำนวน 2 คน ที่แอบลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงในเขตแดนของประเทศไทย
      
       และเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ตำรวจ และทหารได้จับกุม 3 ผู้ต้องหาที่ต้องสงสัยว่า เป็นสายลับของกัมพูชาและเวียดนามเข้ามาหาข้อมูลที่ตั้งทางทหารในเขตแดนไทย ที่บ้านภูมิซรอล ดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ข้อมูลตัวเลข 10 หลักนั้น เป็นข้อมูลตัวเลขที่ประชาชนทั่วไปไม่ใช้แต่อย่างใด แต่ว่าเป็นการแสดงพิกัดทางทหารที่ชัดเจน และแผนที่ที่มีอยู่ในตัวของผู้ต้องหาก็เป็นแผนที่ทางการทหารอยู่แล้ว ซึ่งตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 3 รายตามกฎหมายอย่างเต็มที่ต่อไป
      
       นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่อยากให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ดังนั้น จึงได้ไห้เจ้าหน้าที่ ตำรวจรวมทั้งฝ่ายความมั่นคงทุกส่วนได้ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่าง ละเอียด ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของไทย กระทำการตามกฎหมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานต่าง ๆ และหลักฐานที่ทาง ตำรวจและทหารยึดมาได้นั้นเป็นการชัดเจนแล้วว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเข้ามาในเขตพื้นที่บริเวณดังกล่าวเพื่อเหตุใด อีกทั้งแผนที่ทั้ง 2 ฉบับนั้น เป็นแผนที่ทางการทหารที่คนปกติทั่วไปไม่ใช้กันอยู่แล้ว และขณะนี้รัฐบาลกัมพูชายังไม่ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อให้การช่วยเหลือ 3 ผู้ต้องหาแต่อย่างใด
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ต่อมา พ.ต.ท.ประยุทธ ทับทิมไสย์ รองผกก.(สส.) สภ.กันทรลักษ์และ พ.ต.ต.สังวร วันทะวี พงส.(สบ2) ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อีฮุนกล่าวว่า "ไม่เคยมีข้อตกลงใดๆ กับฝ่ายไทยและจะไม่ถอนคดีออกจากศาลโลก"



อีฮุนกล่าวว่า "ไม่เคยมีข้อตกลงใดๆ กับฝ่ายไทยและจะไม่ถอนคดีออกจากศาลโลก"
การแก้ปัญหาโดยคำแนะนำของศจ. ดร.สมปอง สุจริตกุล:

คัดค้านอำนาจของศาลโลก โดยที่ไม่ต้องสนใจในการขอเอกสารหลักฐานเพิ
่มเติม **เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบทำ เพราะเมื่อยื่นหลักฐานการปะทะกันในวันนี้แล้ว ในวันที่ 14 มิ.ย. ก็จะเปิดโอกาสให้ 2 ฝ่ายโต้แย้งกันอีกครั้ง ก่อนที่จะมีคำวินิจฉัยออกมาให้หลังอีก 1-2 สัปดาห์

หากศาลโลกมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราวตามที่กัมพูชา ยื่นคำร้องไป ก็จะทำให้ไทยเสียเปรียบ และกัมพูชาสามารถยึดแผ่นดินไทยได้ ตามกำหนดระยะเวลาที่ศาลโลกกำหนด รวมไปถึงหากคณะกรรมการมรดกโลก มีมติอนุมัติให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกโดยสมบูรณ์ ก็เท่ากับว่า "เราต้องสูญเสียดินแดนในทางนิตินัยทันที"

Annie: อยากจะร้องให้นะ ผู้ที่มีประสบการณ์และรักชาติหวงแหนแผ่นดินอย่างจริงจัง พยายามแนะนำถึงทางออกต่างๆพร้อมทั้งชี้ถึงผลเสียต่างๆที่จะตามมา แต่รบ.กลับไม่นำพา ไม่่ใส่ใจ พอถูกตราหน้าว่าขายชาติก็โกรธ แล้วยังแก้ตัวว่าผมไม่มีประโยชน์อะไรกับเรื่องนี้

คำถามไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย คำแนะนำของท่านศจ. ดร.สมปอง สุจริตกุล มีตรงไหนผิดหรือไม่ตรงกับความเป็นจริงบ้าง กรุณาเปิดปากพูดแย้งบ้างได้มั้ยเจ้าคะ (วะ)

Annie Handicraft

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง