บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554

ภาพหลุด.. ที่เขมรไม่อยากให้ใครเห็น ( แต่คนไทยควรเห็น )

ภาพหลุดที่เขมรคงไม่อยากให้ทั่วโลกเห็นว่าวางแผนอะไรอยู่  กำลังปักหมุดสีแดงบนแผนที่แนวชายแดน ข้ามสันปันน้ำ หมุดสีแดงคือเขตประเทศไทย บางคนโทรศัพท์ บางคนกำลังแจ้งข้อมูลอะไรบางอย่างในแผนที่ คุณคิดว่าคนพวกนี้กำลังวางแผนอะไร
 
 
 


 




ที่มาของภาพถ่ายไว้ได้โดยผู้สื่อข่าวต่างประเทศต้งแต่วันที่ยังไม่มีเหจุปะทะ  ที่มาตามลิงค์เลย>>  http://www.militaryphotos.net/forums/showthread.php?197176-Weekend-Photos-23rd-to-25th-April-2011/page2

 
เตรียมโจมตีไทยอย่างหนักในช่วงที่เรากำลังจะเืลือกตั้ง วันเดียวกัน ฮุนเซนไปร้องไห้ออกทีวรว่าถูกไืทยรังแก

น้ำเน่ายิ่งกว่าละครหลังข่าวอีกอ่ะ
 
 
 
 
อย่างที่เรารู้กันนะคะเพื่อนๆ ไทยเราไม่ชอบทะเลาะกับใคร เราอยู่ของเรานิ่งๆ เรามีเรื่องต้องทำกันเยอะแยะ ชายแดนใครจะไปสน  ปราสาทหินที่สุรินท์ก็จดทะเบียนเป็นดบราณสถานมาตั้งแต่ปี 2478  คือเมื่อ 76 ปีมาแล้ว  ง่ายๆนะคะ ก่อนฮุนเนจะเกิด 16 ปี 
 
ถ้าเพื่อนเราคนไหนบอกโบราณสถานที่สุรินทร์ของเขมรนะึคะ ขอให้ทราบไว้ทุกท่านเลยนะคะ ขุดค้นก็คนไทย บูรณะก็งบไทย ซ่อมก็งบไทย วิจัย ศึกษาก็งบไทย  แปลว่าพ่อแม่ปู่ย่าตายายเรา เสียภาษีดูแลโบราณสถานมาแล้ว 76 ปี  ... ปราสาทพระวิหารนั้นก็ให้มันไปเถอะคะ ทั้งโทรม ทั้งพรุน ที่สุรินทร์สวยๆนะของไทย เขมรอย่ามามั่ว
 
 
ชาวบ้านส่วนใหญ่อพยพหนี บางคนใจสู้ ไม่ขอทิ้งแผ่นดิน
และมีวัยรุ่นอีกหลายคนอาสาช่วยส่งข้าวส่งเสบียงส่งข่าวใน Facebook และ ทวิตเตอร์
 
เรามีอาวุธที่ทันสมัยกว่าเขมรหลายเท่า ต่างกันหลายขุม ง่ายๆนะคะเพื่อนๆ.. รถถังที่เขมรเอามาสู้ไทย คือแบบที่ไทยเอาไปทำปะการังเทียมเดี่๋ย!!!~  

ทหารเราก็มีเยอะกว่ามาก มีทรัพยากรเหนือกว่าทุกกรณี  เราปราณีเขมรสุดขีดแล้วนะคะ ใจดี ใจเย็น สมเป็นผุ้ดีมาก..  เหมือนผู้ใหญ่ไม่รังแกเด็ก แต่เขมรเหมือนเด็กเกเร ชวนทะเลาะตลอด  พอเจ็บตัวก็ไปฟ้องคนโน้นคนนี้ ร้องไห้ขี้มูกโด่งว่าถูกรังแก น้ำหยดลงหินทุกวีนหินยังกร่อน ครั้งแรกอาจจะไม่มีใครเชื่อ พอบ่อยๆเข้า เขาอาจจะคิดว่าเราเกเรจริงๆ
 
 
 
เมนต์ไปด้วยความอึดอัดใจ  อาทิตย์หน้านายกจะยุบสภาอยู่แล้ว ยังมีม๊อบเน่าๆบอกให้ทหารปฏิวัติ .. จะเลือกตั้งกันอยู่แ้ล้ว  ยังมีม๊อบเน่าๆบอกให้เรา No Vote  (ทั้งๆที่ตัวเองก็มีพรรคการเมือง)  ..และยังมีมีอบที่เน่าสนิทผิดตลอดประนามรัฐบาล ประนามทหาร แต่ไม่กล้าประนามฮุนเซน หรือ เพื่อนฮุนเซน
 
เน่าสนิทแล้วคะ
 
รุ่นแก่ๆพวกนี้น้ำเน่า
 
พวกเราโตขึ้นไปก็อย่าเอาอย่างคนพวกนี้นะคะ
 
 
สุดท้ายนะคะ ขอเมนต์ดังๆ 
 
 
ทหารไทย..สู้เว๊ยยย!!!
.
ทหารไทย..สู้เว๊ยยย!!!
.
ทหารไทย..สู้เว๊ยยย!!!

เขมรซ้ำซาก ขู่ร้องศาลโลกสั่งอนุรักษ์ปราสาทพระวิหาร

ภาพวันที่ 8 ก.พ.2554 แม้จะอ้างต่อประชาคมโลกว่า ไม่มีทหารอยู่ในปราสาทพระวิหารก็ตาม แต่ทหารกัมพูชากลุ่มนี้ก็กำลังเดินอยู่ในบริเวณปราสาทมกดกโลก กัมพูชากำลังดิ้นรนรอบใหม่ หลังจากร้องไปยัง UNSC แล้วยังไม่ประสบความสำเร็จ คราวนี้ขู่จะขอให้ศาลระหว่างประเทศสั่งให้มีการอนุรักษ์คุ้มครองปราวสาท หลังจากตัดสินยกให้เป็นของกัมพูชาเมื่อ 59 ปีก่อน เมื่อเดือน ก.พ.ฮุนเซนประกาศว่าได้ยื่นคำร้องต่อศาลโลกไปแล้วขอให้ตีความคำพิพากษาดังกล่าวเกี่ยวกับพื้นที่โดยรอบ แต่กระทรวงการต่างประเทศในพนมเปญออกคำแถลงระบุว่า เพิ่งจะยื่นไปวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา.-- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy. 



กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกคำแถลงฉบับหนึ่งวันศุกร์ 29 เม.ย.ระบุว่า กัมพูชาได้ยื่นคำร้องต่อศาลโลกวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อให้ตีความคำพิพากษาปี 2505 เกี่ยวกับปราสาทวิหารที่ยกให้ตกเป็นของกัมพูชา หลังจากนั้นจะขอให้มี “มาตรการอนุรักษ์” (conservatory measures) ปราสาทแห่งนี้อีกด้วย
      
       “การยื่นคำร้องดังกล่าว ก็เนื่องจากการก้าวร้าวรุกรานด้วยอาวุธและการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนกัมพูชาของประเทศไทยที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยใช้แผนที่ที่ใช้เองเพียงฝ่ายเดียวและไม่ได้มีฐานะใดๆ ทางนิตินัย” คำแถลงระบุ
      
       คำแถลงยังระบุอีกว่า กัมพูชาจะยื่นขอต่อศาลระหว่างประเทศในกรุงเฮกอีกครั้งหนึ่งหลังจากนั้น เพื่อสั่งให้มี “มาตรการอนุรักษ์” เนื่องจากการรุกรานกัมพูชาด้วยกำลังอาวุธของฝ่ายไทย
      
       “กัมพูชาเห็นว่ามาตรการอนุรักษ์เป็นสิ่งที่ไม่มีทางเลี่ยง เพื่อให้เกิดมีการหยุดยิงถาวรเกิดขึ้นระหว่างสองประเทศ เพื่อหยุดยั้งการสูญเสียชีวิตและอนุรักษ์ปราสาทพระวิหารไม่ให้เสียหายอย่างหนักจนกว่าจะมีการตีความคำพิพากษาของศาลระหว่างประเทศเมื่อปี 2505 ออกมา” คำแถลงกล่าว
      
       กัมพูชาเชื่อว่า การขอให้ศาลโลกสั่งให้มีการอนุรักษ์ ก่อนจะมีการตีความคำพิพากษาออกมา ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาหลายปี จะทำให้องค์การสหประชาชาติส่งวกองกำลังรักษาสันติภาพ เข้าประจำการชายแดนกัมพูชาและไทยในที่สุด
      
       ศาลโลกตัดสินยกปราสาทพระวิหารให้เป็นของกัมพูชาเมื่อเกือบครึ่งศตวรรษที่แล้ว โดยใช้สิ่งที่เรียกว่า “แผนที่พนมดงรัก” ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นกว่า 100 ปีก่อน โดยใช้วิธีการ “ปิดปาก” ฝ่ายสยาม เป็นหลักฐานอ้างอิง
      
       แต่หลังจากศาลโลกตัดสินเพียงข้ามเดือน รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ยื่นต่อศาลโลกของสงวนสิทธิ์ของไทยเหนือดินแดนรอบๆ ปราสาทพระวิหาร รวมทั้งมีบันทึกแจ้งให้ศาลได้ทราบว่า แผนที่ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นนั้น ขัดต่อสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม 1904 อันเป็นสัญญาหลักในการแบ่งเขตแดนที่ให้ใช้สันปันน้ำเป็นพรมแดนธรรมชาติ
      
       ผู้พิพากษาอย่างน้อย 3 คน จากทั้งหมด 7 คน รวมทั้งผู้พิพากษาชาวอังกฤษ ที่ไต่ส่วนกรณีปราสาทพระวิหาร ได้บันทึกไว้คำตัดสินเอกเทศ (ส่วนตัว) เพื่อเป็นหลักฐานต่อศาลระหว่างเทศเช่นกันว่า การใช้แผนที่ดังกล่าวเป็นหลักฐาน ไม่ได้หมายความว่าสนธิสัญญาเขตแดนฝรั่งเศส-สยามปี 1904 ถูกลบล้าง
      
       ตั้งแต่นั้นมายังไม่เคยมีการจัดการเกี่ยวกับกรณีพิพาทชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาอีก
      
       หลายปีมานี้กัมพูชาได้พยายามอ้างแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ฉบับเดียวกัน ที่ขาดการแสดงรายละเอียดที่จำเป็นต่างๆ กล่าวอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนหลังสันปันน้ำ ตลอดแนวชายแดนด้านพนมดงรัก ซึ่งรวมเป็นเนื้อที่เกือบ 2 ล้านไร่ และ นำมาสู่การพิพาทกับไทย รวมทั้งเกิดการปะทะด้วยอาวุธ
      
       การเผชิญหน้าทางทหารเริ่มขึ้นในเดือน ก.ค.2551 หลังจากกัมพูชานำปราสาทพระวิหารไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียวขณะที่รัฐบาลไทยแย้งมาตลอดว่า การกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบๆ ปราสาท
      
       สองปีมานี้กัมพูชาได้พยายามอย่างยิ่งที่จะผลักดันแผนบริหารจัดการมรดกโลกปราสาทพระวิหารให้ผ่านการรับรองจากที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งไทยได้คัดค้านมาตลอด การประชุมรอบใหม่ในกำลังจะมีขึ้นในเดือนข้างหน้านี้ ในประเทศบาห์เรน
      
       คำแถลงที่ออกในวันศุกร์นี้ ไม่ได้อธิบายว่า เพราะเหตุใดการยื่นคำร้องต่อศาลโลกจึงล่าช้าออกมา
      
       นายกรัฐมนตรีฮุนเซนเคยประกาศด้วยตัวเองในเดือน ก.พ. หลังการปะทะที่ชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร ระบุว่า กัมพูชาได้ยื่นเรื่องนี้ไปแล้ว
      
       ปัจจุบันรัฐบาลฮุนเซนกำลังดำเนินการสองทาง คือ ผลักดันให้สหประชาชาติส่งทหารรักษาสันตติภาพเข้าชายแดน ซึ่งการดำเนินการรักษาสันติภาพนี้ได้ถูกถ่ายโอนไปให้กลุ่มอาเซียน ขณะเดียวกันก็ดำเนินการทางด้านศาลโลกควบคู่กันไปด้วย.

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง