บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ไอ้ปึ้งรับคำฮอว่าตามศาลโลก ฮวยเซงสั่งปึ้งนำทุกแผนที่เคยคุยกับเหลี่ยมก่อนพ้นอำนาจมาสานต่อ

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีต่างประเทศรัฐไทยใหม่ ระหว่างเข้าพบนายฮอ นำฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา เมื่อช่วงเช้า (๒๙ ธ.ค. ๕๔) 

ฟิฟทีนมูฟ — สารเลวปึ้งเห็นฟ้องฮอ นำฮง ยินดีปฏิบัติตามมาตรการศาลโลกในการถอนทหาร โดยให้เป็นไปอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ โวทหารที่เคยทำตามอำเภอใจตอนนี้อยู่ใต้บังคับ น.ส.ปูโง่แล้ว สั่งถอนทหารก็ต้องทำตาม ส่วนฮอ บอกเข้าใจขั้นตอนภายในของไทยที่มติ GBC ต้องผ่านรัฐสภา เห็นชอบเร่ง JBC จัดทำหลักเขต
ศูนย์ข่าวต้นมะขามรายงานว่า เมื่อช่วงสาย (๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๔) ภายหลังการพบพูดคุยระหว่างนายฮอ นำฮง รัฐมนตรีต่างประเทศ กับนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีต่างประเทศรัฐไทยใหม่ ในการเดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการวันแรก ที่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ทั้งสองได้แถลงข่าวร่วมกัน ย้ำความเห็นพ้องต้องกันที่จะปฏิบัติตามมาตรการของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ แม้ว่าในประเทศไทยจะมีกลุ่มคัดค้านและผลักดันให้รัฐบาลเสนอให้กัมพูชาถอนคดี ปราสาทพระวิหาร ก็ตาม

นายฮอ นำฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา กล่าวภายหลังพบหารือเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เห็นชอบที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลกด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ กัมพูชาเคารพขั้นตอนการดำเนินการภายในของไทย ที่ต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาก่อนเกี่ยวกับประเด็นปัญหานี้ พร้อมย้ำว่า เราได้เห็นชอบร่วมกันในการปฏิบัติตามมาตรการของศาลโลกอย่างโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล กล่าวย้ำระหว่างแถลงข่าวร่วมว่า รัฐบาลของตนเห็นพ้องปฏิบัติตามมาตรการของศาลโลก และสองฝ่ายจะปฏิบัติตามด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ และเคารพตามมติที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ครั้งที่ ๘ ที่นำโดยรัฐมนตรีกลาโหมของสองประเทศ การประชุมจีบีซีที่กรุงพนมเปญได้เห็นชอบตั้งคณะทำงานร่วมสองระหว่างสอง ประเทศ เพื่อกำหนดการถอนทหารภายใต้การตรวจสอบของอินโดนีเซีย
นายสุรพงษ์ กล่าวย้ำว่า ในขณะนี้ทหารไทยที่ก่อนหน้าเคยทำอะไรตามอำเภอใจนั้น ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้งหมดแล้ว ในเวลาที่จะมีการตัดสินใจให้ถอนทหารออกจากพื้นที่ขัดแย้ง ตามคำสั่งของศาลโลกและการสังเกตการณ์ของอินโดนีเซียนั้น พวกเขา (ทหารไทย) ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล
นอกจากนี้ สองฝ่ายยังเห็นพ้องกันว่าจะผลักดันให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) เร่งดำเนินงานในการจัดทำหลักเขตจำนวน ๒๕ หลัก ที่อยู่นอกพื้นที่ปราสาทพระวิหาร เนื่องจากพื้นที่ปราสาทพระวิหารอยู่ระหว่างรอขั้นตอนของศาลโลก
เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ตนจะได้เข้าพบกับทั้งนายฮอ นำฮง รัฐมนตรีต่างประเทศ และ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรี โดยในการหารือจะได้พยายามหาทางแก้ไขข้อพิพาทและข้อเจรจาที่ยังคั่งค้าง รวมถึงการเดินหน้าเจรจาการประชุมเจบีซี เพื่อให้การปักปันเขตแดนระหว่างสองประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ พร้อมระบุว่า “หลังจากพบท่านฮอ นำฮง เสร็จแล้ว สมเด็จฮุนเซน ก็ได้อนุญาตให้ผมได้เข้าพบท่านด้วย โดยในช่วงกลางคืน ท่านจะเลี้ยงข้าวผม ส่วนจะมีการโน้มน้าวให้กัมพูชายอมถอนฟ้องศาลโลกหรือไม่นั้น หากมีโอกาส ตนเองจะทำแน่นอน เพราะเป็นสิ่งที่ผมและท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ได้หารือกัน สิ่งใดที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพื่อไม่ให้มีข้อบาดหมางระหว่างเรากับเพื่อนบ้าน ผมจะทำให้ดีที่สุด”

ฮวยเซงสั่งปึ้งนำทุกแผนที่เคยคุยกับเหลี่ยมก่อนพ้นอำนาจมาสานต่อ

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล และ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ระหว่างเข้าพบฮุน เซน เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (๒๙ ธ.ค.๒๕๕๔) 

ฟิฟทีนมูฟ — สุรพงษ์พร้อมพิชัยเข้าพบฮุน เซน นายกเขมรเมื่อช่วงเย็น สองฝ่ายเจราหวานชื่น สนับสนุนผลการประชุมจีบีซี เร่งสานต่อความร่วมมือในทุกด้าน ฮุน เซน เสนอให้นำทุกแผนการที่เคยคุยไว้ตั้งแต่ก่อนทักษิณถูกทำรัฐประหารกลับมา พิจารณาสานต่ออีกครั้ง หวังการประชุม JC ต้นปีหน้าจะประสบความสำเร็จ
สื่อกัมพูชา1 รายงานว่า ภายหลังที่ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้อนุญาตให้คณะตัวแทนรัฐไทยใหม่ซึ่งนำโดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าพบแสดงความคารวะเมื่อช่วงเย็นวันนี้ (๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๔) นายซรือ ธำรงค์2 รัฐมนตรีตัวแทนผู้ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เปิดเผยว่า ฮุน เซน ได้กล่าวแสดงความหวังว่าการเดินทางเยือนกัมพูชาในครั้งนี้ จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หลังกลับมาดีกันเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ นับจากที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง พร้อมกันนั้น ฮุน เซน ก็ได้รับฟังการรายงานจากนายฮอ นำฮง รัฐมนตรีต่างประเทศ และนายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีและประธานองค์การปิโตรเลียมกัมพูชา เกี่ยวกับผลการหรือกับคณะตัวแทนรัฐไทยใหม่ ซึ่งนายสุรพงษ์ ก็ได้เรียนนายกรัฐมนตรีกัมพูชาถึงความสำเร็จในการหารือกับนายฮอ นำฮง ด้วยเช่นกัน

นายซรือ ธำรงค์ เปิดเผยว่า นายสุรพงษ์กล่าวตอบนายกรัฐมนตรีกัมพูชาโดยนำสารความห่วงใยจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลใหม่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในปัจจุบัน ได้มีความเอาใจใส่ที่จะสานต่อความร่วมมือกับกัมพูชาให้ครบทุกด้าน เปิดหน้าศักราชใหม่ในความสัมพันธ์ของสองประเทศ พร้อมกล่าวถึงความสัมพันธ์ในด้านการค้าขายลงทุน การท่องเที่ยว ซึ่งฝ่ายไทยต้องการให้มีสันติภาพ เสถียรภาพ ความเจริญและการอยู่ร่วมกันกับกัมพูชาอย่างสันติสุข นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ได้แสดงการสนับสนุนอย่างหนักแน่นต่อผลสำเร็จของการประชุมคณะ กรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๙-๒๑ ธันวาคม ที่ผ่านมา และฝ่ายไทยเตรียมสนับสนุนการประชุมคณะกรรมการเจซีที่มีแผนจะจัดขึ้นใน ระหว่างวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ถึง ๑ มีนาคม ปีหน้า ในกรุงพนมเปญ นายสุรพงษ์ได้กล่าวยืนยันจะเร่งผลักดันความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เช่น ผลักดันความเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจ ผลักดันให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชน และเตรียมจะสนับสนุนกัมพูชาในด้านการศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน เช่นเดียวกับด้านสาธารณสุข สกัดกั้นการแพร่กระจายของโรคระบาด พร้อมกับยืนยันว่า ไทยจะร่วมมือกับกัมพูชาในการสกัดกั้นการข้ามแดนเข้าตัดไม้ในเขตไทย การลักลอบขนยาเสพติดและการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดน
ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้กล่าวตอบขอบคุณที่นายสุรพงษ์ได้นำความห่วงใยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาถึง พร้อมกล่าวต่อว่า ประเทศกัมพูชาและไทย เปรียบเหมือนลิ้นกับฟันไม่สามารถแยกจากกันได้ หมายความว่าไม่สามารถดึงประเทศไหนออกไปได้ นับตั้งแต่ที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง และได้เข้านำรัฐบาลใหม่เป็นต้นมาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง กัมพูชา-ไทย ได้กลับมาแน่นแฟ้นต่ออีกครั้ง เพื่อความร่วมมือและการได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้แสดงความยินดีต่อผลการประชุมจีบีซีที่ผ่านมา และหวังว่าการประชุมระดับสูงของคณะกรรมการที่เรียกว่า JC ซึ่งนำโดยรัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชาและไทย ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ถึง ๑ มีนาคม ๒๕๕๕ นั้น จะประสบความสำเร็จ ฮุน เซน กล่าวต่อว่า แผนการณ์ทั้งหมดที่เคยมีร่วมกันในช่วงที่ผ่านมา เราต้องนำมาตรวจสอบเพื่อสานต่อ เนื่องจากที่ผ่านมา เราได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีของสองประเทศ เช่น มีการประชุมกันที่ จ.อุบลราชธานี จากนั้นก็ประชุมกันต่อเนื่องอีก ก่อนหน้าที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณถูกทำรัฐประหาร
ฮุน เซน กล่าวว่า เราเป็นประเทศข้างเคียงกัน มีการงานจำนวนมากที่ต้องทำร่วมกัน และจะต้องร่วมมือกันเพื่อสกัดกั้นการลักลอบตัดไม้ ปกป้องสิ่งแวดล้อม อย่างเช่นการสืบหาหัวหน้าขบวนการที่อยู่เบื้องหลัง  นอกจากนี้ประเทศทั้งสองร่วมมือกันสกัดกั้นและต่อการต้านการลักลอบขนยาเสพติด และการค้ามนุษย์ ฮุน เซน ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวในสองประเทศ ที่จะช่วยให้การเมืองในประเทศดีขึ้น พร้อมผลักดันให้มีการเปิดด่านสตึงบตที่พื้นที่ปอยเปต ที่ผ่านมาไทยได้ช่วยก่อสร้างถนนสาย ๔๘ สาย ๖๙ และเตรียมสร้างถนนสาย ๖๘



 "สุ รพงษ์" เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี รื้อฟื้นบันทึกข้อตกลงปี 2544 ว่าด้วยพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ป้องกันการฟ้องร้องและเข้าใจผิด
          นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการพิจารณารื้อฟื้นบันทึกข้อตกลงปี 2544 ว่าด้วยพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา ว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังสรุปข้อคิดเห็นของคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคเพื่อนำ เสนอคณะรัฐมนตรี ว่าจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ เนื่องจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาประกาศยกเลิกบันทึกข้อตกลงปี 2544 ทั้งนี้ เมื่อเรื่องดังกล่าวผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีก็จะมีการนำเสนอต่อรัฐสภา และจะขอความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อป้องกันการฟ้องร้องและเข้าใจผิด  ขณะเดียวกันจะให้กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวด้วย
          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวด้วยว่า กรณีที่คนบางกลุ่มมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาดีขึ้น เพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างผู้นำกัมพูชากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้น อยากให้กลุ่มคนดังกล่าวมองในเชิงบวกมากกว่า เพราะความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาของรัฐบาลชุดปัจจุบันดีกว่ารัฐบาลชุดที่ผ่านมา

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง