บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554

เขมรซ้ำซาก ขู่ร้องศาลโลกสั่งอนุรักษ์ปราสาทพระวิหาร

ภาพวันที่ 8 ก.พ.2554 แม้จะอ้างต่อประชาคมโลกว่า ไม่มีทหารอยู่ในปราสาทพระวิหารก็ตาม แต่ทหารกัมพูชากลุ่มนี้ก็กำลังเดินอยู่ในบริเวณปราสาทมกดกโลก กัมพูชากำลังดิ้นรนรอบใหม่ หลังจากร้องไปยัง UNSC แล้วยังไม่ประสบความสำเร็จ คราวนี้ขู่จะขอให้ศาลระหว่างประเทศสั่งให้มีการอนุรักษ์คุ้มครองปราวสาท หลังจากตัดสินยกให้เป็นของกัมพูชาเมื่อ 59 ปีก่อน เมื่อเดือน ก.พ.ฮุนเซนประกาศว่าได้ยื่นคำร้องต่อศาลโลกไปแล้วขอให้ตีความคำพิพากษาดังกล่าวเกี่ยวกับพื้นที่โดยรอบ แต่กระทรวงการต่างประเทศในพนมเปญออกคำแถลงระบุว่า เพิ่งจะยื่นไปวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา.-- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy. 



กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกคำแถลงฉบับหนึ่งวันศุกร์ 29 เม.ย.ระบุว่า กัมพูชาได้ยื่นคำร้องต่อศาลโลกวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อให้ตีความคำพิพากษาปี 2505 เกี่ยวกับปราสาทวิหารที่ยกให้ตกเป็นของกัมพูชา หลังจากนั้นจะขอให้มี “มาตรการอนุรักษ์” (conservatory measures) ปราสาทแห่งนี้อีกด้วย
      
       “การยื่นคำร้องดังกล่าว ก็เนื่องจากการก้าวร้าวรุกรานด้วยอาวุธและการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนกัมพูชาของประเทศไทยที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยใช้แผนที่ที่ใช้เองเพียงฝ่ายเดียวและไม่ได้มีฐานะใดๆ ทางนิตินัย” คำแถลงระบุ
      
       คำแถลงยังระบุอีกว่า กัมพูชาจะยื่นขอต่อศาลระหว่างประเทศในกรุงเฮกอีกครั้งหนึ่งหลังจากนั้น เพื่อสั่งให้มี “มาตรการอนุรักษ์” เนื่องจากการรุกรานกัมพูชาด้วยกำลังอาวุธของฝ่ายไทย
      
       “กัมพูชาเห็นว่ามาตรการอนุรักษ์เป็นสิ่งที่ไม่มีทางเลี่ยง เพื่อให้เกิดมีการหยุดยิงถาวรเกิดขึ้นระหว่างสองประเทศ เพื่อหยุดยั้งการสูญเสียชีวิตและอนุรักษ์ปราสาทพระวิหารไม่ให้เสียหายอย่างหนักจนกว่าจะมีการตีความคำพิพากษาของศาลระหว่างประเทศเมื่อปี 2505 ออกมา” คำแถลงกล่าว
      
       กัมพูชาเชื่อว่า การขอให้ศาลโลกสั่งให้มีการอนุรักษ์ ก่อนจะมีการตีความคำพิพากษาออกมา ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาหลายปี จะทำให้องค์การสหประชาชาติส่งวกองกำลังรักษาสันติภาพ เข้าประจำการชายแดนกัมพูชาและไทยในที่สุด
      
       ศาลโลกตัดสินยกปราสาทพระวิหารให้เป็นของกัมพูชาเมื่อเกือบครึ่งศตวรรษที่แล้ว โดยใช้สิ่งที่เรียกว่า “แผนที่พนมดงรัก” ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นกว่า 100 ปีก่อน โดยใช้วิธีการ “ปิดปาก” ฝ่ายสยาม เป็นหลักฐานอ้างอิง
      
       แต่หลังจากศาลโลกตัดสินเพียงข้ามเดือน รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ยื่นต่อศาลโลกของสงวนสิทธิ์ของไทยเหนือดินแดนรอบๆ ปราสาทพระวิหาร รวมทั้งมีบันทึกแจ้งให้ศาลได้ทราบว่า แผนที่ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นนั้น ขัดต่อสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม 1904 อันเป็นสัญญาหลักในการแบ่งเขตแดนที่ให้ใช้สันปันน้ำเป็นพรมแดนธรรมชาติ
      
       ผู้พิพากษาอย่างน้อย 3 คน จากทั้งหมด 7 คน รวมทั้งผู้พิพากษาชาวอังกฤษ ที่ไต่ส่วนกรณีปราสาทพระวิหาร ได้บันทึกไว้คำตัดสินเอกเทศ (ส่วนตัว) เพื่อเป็นหลักฐานต่อศาลระหว่างเทศเช่นกันว่า การใช้แผนที่ดังกล่าวเป็นหลักฐาน ไม่ได้หมายความว่าสนธิสัญญาเขตแดนฝรั่งเศส-สยามปี 1904 ถูกลบล้าง
      
       ตั้งแต่นั้นมายังไม่เคยมีการจัดการเกี่ยวกับกรณีพิพาทชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาอีก
      
       หลายปีมานี้กัมพูชาได้พยายามอ้างแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ฉบับเดียวกัน ที่ขาดการแสดงรายละเอียดที่จำเป็นต่างๆ กล่าวอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนหลังสันปันน้ำ ตลอดแนวชายแดนด้านพนมดงรัก ซึ่งรวมเป็นเนื้อที่เกือบ 2 ล้านไร่ และ นำมาสู่การพิพาทกับไทย รวมทั้งเกิดการปะทะด้วยอาวุธ
      
       การเผชิญหน้าทางทหารเริ่มขึ้นในเดือน ก.ค.2551 หลังจากกัมพูชานำปราสาทพระวิหารไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียวขณะที่รัฐบาลไทยแย้งมาตลอดว่า การกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบๆ ปราสาท
      
       สองปีมานี้กัมพูชาได้พยายามอย่างยิ่งที่จะผลักดันแผนบริหารจัดการมรดกโลกปราสาทพระวิหารให้ผ่านการรับรองจากที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งไทยได้คัดค้านมาตลอด การประชุมรอบใหม่ในกำลังจะมีขึ้นในเดือนข้างหน้านี้ ในประเทศบาห์เรน
      
       คำแถลงที่ออกในวันศุกร์นี้ ไม่ได้อธิบายว่า เพราะเหตุใดการยื่นคำร้องต่อศาลโลกจึงล่าช้าออกมา
      
       นายกรัฐมนตรีฮุนเซนเคยประกาศด้วยตัวเองในเดือน ก.พ. หลังการปะทะที่ชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร ระบุว่า กัมพูชาได้ยื่นเรื่องนี้ไปแล้ว
      
       ปัจจุบันรัฐบาลฮุนเซนกำลังดำเนินการสองทาง คือ ผลักดันให้สหประชาชาติส่งทหารรักษาสันตติภาพเข้าชายแดน ซึ่งการดำเนินการรักษาสันติภาพนี้ได้ถูกถ่ายโอนไปให้กลุ่มอาเซียน ขณะเดียวกันก็ดำเนินการทางด้านศาลโลกควบคู่กันไปด้วย.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง