วันที่ 2013-03-23 18:03:00 โดย กรุงเทพธุรกิจ - ข่าวเด่นประจำวัน
tags : คนชายแดนจ่อตั้ง"หมู่บ้านสยามพิทักษ์แผ่นดินไทย"13จุดตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จากอุบล-ศรีสะเกษ หวังแก้ปัญหาพิพาทเขตแดน
จากกรณีที่ค่ายพิทักษ์อุทุมพรเขต หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เครือข่ายชายแดนศรีสะเกษ - อุบลราชธานี ประกอบด้วยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ อ.ขุนหาญ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และ อ.น้ำขุ่น อ.น้ำยืน อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี โดยมีนายวิสิทธิ์ ดวงแก้ว แกนนำคนสำคัญเป็นตัวแทนนำคณะจำนวน 10 คน เข้ายื่นหนังสือ ต่อผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี เพื่อขอเข้าไปจัดตั้งหมู่บ้านสยามพิทักษ์แผ่นดินไทย ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชาโดยระบุว่าจะเป็นแนวทางในการปกป้องผืนแผ่นดินไทย
หลังจากที่ปัจจุบันพบว่าชาวกัมพูชาได้บุกรุกเข้ามาจับจองพื้นที่ตามแนวชายแดนในฝั่งไทยสร้างบ้านเรือนและที่ทำกินเป็นจำนวนมาก ทำให้ฝ่ายความมั่นคงได้จับตาความเคลื่อนไหวของเครือข่ายดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ขณะที่แกนนำเครือข่ายก็ยืนยันว่าจะดำเนินการตามคำเรียกร้องที่ยื่นต่อฝ่ายความมั่นคงอย่างแน่นอน
ล่าสุดวันที่ 23 มีนาคม นายวิสิทธิ์ดวงแก้ว เปิดเผยว่า หมู่บ้านสยามพิทักษ์แผ่นดินไทย เกิดขึ้นจากการที่พวกเราได้หารือกันถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของพวกเราที่ถูกเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารทับที่ทำกินได้รับความเดือดร้อนมานานแล้ว แต่รัฐบาลไม่มีการแก้ไขปัญหาให้พวกเรา บอกว่าจะหาที่ทำกินแห่งใหม่มาทดแทนให้ก็เงียบไป พวกเราจึงเห็นว่าปัจจุบันปัญหาเรื่องเขตแดนที่กัมพูชาได้รุกล้ำอธิปไตยของเราอย่างต่อเนื่อง พวกเราในฐานะคนไทยก็อยากจะสนับสนุนภารกิจในการปกป้องอธิปไตยของฝ่ายความมั่นคง จึงเสนอขอเข้าไปจัดตั้งหมู่บ้านตามแนวชายแดน โดยมีชาวบ้านที่เดือดร้อนที่ที่ดินทำกินจาก 8 ตำบลที่อยู่ในพื้นที่เขต อ.น้ำยืน อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานีบางส่วน และที่มาจากเขต อ.กันทรลักษ์ อ.ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ที่กำลังเตรียมพร้อมจะเข้าไปจัดตั้งหมู่บ้านสยามพิทักษ์แผ่นดินไทย
"หมู่บ้านสยามพิทักษ์แผ่นดินไทย จะก่อตั้งกระจายกันไปตามแนวตะเข็บชายแดนไทย - กัมพูชาจากอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จ.อุบลฯไปจนถึง อ.ภูสิงห์ทั้งหมด 13 จุด ๆ ละ 200 คนโดยเป็นคนในพื้นที่ ที่ได้รับความเดือดร้อนจริง ๆและพวกเราจะพูดแต่เรื่องที่ทำกินอย่างเดียวจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายใดทั้งสิ้น"นายวิสิทธิ์ กล่าว
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20130323/496654/จ่อตั้งหมู่บ้านสยามพิทักษ์แผ่นดินไทย.html
อากาศแปรปรวน ทำให้ผมปรวนแปรไปด้วย เมื่อวาน (๘ มี.ค.) เห็นนายกฯ โชว์สวยนึกว่าจะช่วยคลายอาการเมาอากาศผมได้บ้าง แต่กลับยิ่งเมาหนักขึ้น นึกจะหนีความซึมเซาไปนอนดูแดดที่ดูไบ แต่พอเช็กไป โฮ้ย...คลาคล่ำไปด้วยตะกวดน้ำครำข้างเขาดิน เลยไม่ปง-ไม่ไปไหนมันทั้งนั้น ควานเอาไฟล์ข่าวเก่าๆ มาอ่านคั่น "บรรยากาศคลั่ง" ตอนปลายเดือนที่จะมาถึง แล้วก็เจอนี่.....
ทหารพรานชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ ๒๖ (ทพ.ฉก ๒๖) กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ ๒ (ทภ.๒) เหยียบกับระเบิดใกล้กับฐานปฏิบัติการจารภาพประทุม ช่องคะนา อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ บริเวณหลักเขตแดนที่ ๒๑ ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อ ๕ มี.ค.๕๖ ส่งผลให้ทหารพรานบาดเจ็บ ๓ นาย ในจำนวนนี้สาหัส ๑ นาย
อส.ทพ.นิรันดร์ สุธรรม ๒๘ ปี สาหัสขาขวาขาดบริเวณเหนือข้อเท้า อส.ทพ.สรวุฒิ พระงาม ๒๖ ปี บาดเจ็บใบหน้าและแก้มทั้งสองข้าง อส.ทพ.ศักดา ประชากลาง ๒๗ ปี บาดเจ็บแก้มด้านขวา ขณะนี้ทั้งหมดปลอดภัยแล้ว
ครับ...อ่านแล้วสงสัย ไหนว่าช่วยกันเก็บกู้หมดแล้วไง ไหงมีมาฝังใหม่อีก เป็นของเก่าหรือของใหม่ มันยังไงกัน ค้นข่าวต่อไปก็เจอ...
"๖ มีนาคม ๒๕๕๖ นางสาววาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร โพสต์ภาพถ่ายทหารไทย พร้อมข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam
มีทหารพราน ๓ นาย ได้เหยียบกับระเบิดของทหารเขมรจนขาขาด บริเวณปราสาทคะนา ใกล้กับปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ทั้งที่เมื่อปี ๒๕๕๔ ทหารไทยได้เข้าเก็บกู้วัตถุระเบิดบริเวณนี้ไปหมดแล้ว แต่กลับยังพบระเบิดอยู่อีก ซึ่งจากการตรวจสอบก็เป็นระเบิดใหม่เสียด้วย
เท่ากับว่า ทางกัมพูชาผิดสัญญาที่จะไม่วางระเบิดเพิ่ม และเป็นการผิดสัญญาสุภาพบุรุษด้วย ทั้งที่ รมว.กลาโหมของทั้งสองประเทศ เพิ่งจะไปทานข้าวกันบนปราสาทพระวิหาร"
อ้อ...มันเอามาฝังใหม่ แบบนี้เราควรเทกแอคชั่น ให้เขมรรู้เป็นปฐมบทไว้บ้าง แล้วก็พบนี่....พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เผยถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานเหยียบกับระเบิด....
"..........อย่างไรก็ตามต้องมีการตรวจสอบว่า ใครเป็นคนวางกับระเบิด แต่เราคงไม่ได้ไปวาง คงเป็นคนอื่นวาง ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการประท้วงประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว โดยได้ดำเนินการสั่งการไปยังแม่ทัพภาคที่ ๒ ให้ดูแลกำลังพล"
เออ...ค่อยยังชั่ว ผบ.ทบ.สั่งประท้วงไปแล้ว แล้วประท้วงไปเมื่อไหร่กันล่ะ พลิกไป..พลิกมา อ้าว เจอแล้ว..นี่ไง
"๗ มีนาคม พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ ๒ ทำหนังสือประท้วงผ่านช่องทางท้องถิ่น คือคณะกรรมการชายแดนระดับท้องถิ่น (ทีบีซี) ไปยังฝ่ายกัมพูชาแล้ว เนื่องจากเชื่อว่ากับระเบิดดังกล่าวเป็นของที่ถูกวางใหม่ ไม่ใช่ของเก่าที่ตกค้าง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทั้งไทยและกัมพูชาได้เซ็นภาคีสนธิสัญญาออตตาวาที่จะไม่ใช้กับระเบิด และเคยมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะไม่วางกับระเบิด เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ต้องทำหนังสือประท้วงไป เพื่อให้กัมพูชารับทราบ
สำหรับเส้นทางที่ทหารพรานไปลาดตระเวนนี้ เป็นเส้นทางสายเก่าที่เดินลาดตระเวนกันอยู่เป็นประจำ แต่ได้ทิ้งช่วงไปพักหนึ่ง ก่อนกลับมาเดินลาดตระเวนตามเส้นทางเดิมอีกในครั้งนี้ โดยได้ออกลาดตระเวนจำนวน ๑ ชุดปฏิบัติการ รวมกำลัง ๑๕ นาย เพื่อป้องกันการรุกล้ำเขตแดน และลักลอบตัดไม้พะยูง"
แต่แหม...เรื่องนี้ ระดับรัฐบาลควรส่งสัญญาณ "เป็นท่าทีรัฐบาล" ให้ทางกัมพูชาทราบด้วย ไม่ใช่ให้ทหารประท้วงไปแค่ระดับท้องถิ่นฝ่ายเดียว และควรขอคำอธิบายถึง "กับระเบิดใหม่" กับเขาด้วย
อ้อ...ส่งเหมือนกัน ใครส่ง..ส่งยังไง ฟัง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กห.เขาบอกกับนักข่าวนี่ซี
"..........ระเบิดไม่ใช่ของไทยแน่นอน ที่ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นระเบิดที่ทางกัมพูชาแอบลักลอบเข้ามาฝังใหม่ในฝั่งไทยหรือไม่นั้น เพราะข้ามลึกเข้ามาในฝั่งไทยถึง ๑ กิโลเมตร ขณะนี้ทาง พล.ท.วรวิทย์ ดรุณชู เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กำลังทำหนังสือสอบถามข้อเท็จจริงกับทางกัมพูชาอยู่ ซึ่งอาจเป็นพวกลักลอบตัดไม้ ก็เป็นได้ แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ ต้องรอผลการตรวจสอบ"
อ้าว..."แค่กำลังทำ" ดอกหรือ ก็ในเมื่อเขมรเขายังไม่ทันแจกแจงข้อเท็จ-ข้อจริงมาเลย แต่รมต.กห.ของรัฐบาลทักษิณ อ้าซ่าขาแหกเป็นชี้ช่องให้เขาซะแล้วว่า "อาจเป็นกับระเบิดของพวกลักลอบตัดไม้"!?
นี่กลาโหมไทย ไม่ใช่กลาโหมเขมรแน่นะ?
ก็เหลืออีกทางคือ "กระทรวงการต่างประเทศ" ของนายปึ้ง-สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ก็พึ่งได้จริงๆ ซะด้วย ก็นี่ไง เอากันสดๆ ร้อนๆ เลย....
"นายมนัสวี ศรีโสดาภณ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้ดำเนินการประท้วงไปยังกัมพูชา โดยอยู่ระหว่างประสานไปยังศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ซึ่งเป็นกลไกทำงานร่วมกันระหว่างไทย-กัมพูชา โดยหลักการแล้วหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นสามารถประท้วงกัมพูชาได้ แต่ต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน"
