กองทัพภาค 2 ฝึกดำเนินกลยุทธ์ทางการรบด้วยกระสุนจริง ประสานกองบิน 1 นครราชสีมา สนับสนุนเอฟ 16 ทิ้งระเบิดฝ่ายตรงข้าม ตามยุทธวิธีโจมตีทางอากาศระยะใกล้ ข่มขวัญเขมร
นครราชสีมา วันนี้ ( 12 พ.ค.54 ) เวลา 09.00 น. ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี มณฑลทหารบกที่ 21 กองทัพภาคที่ 2 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พลเอกพิรุณ แผ้วพลสง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกภาคสนามร่วมทางบก การฝึกร่วมกองทัพไทย ในขั้นการฝึกดำเนินกลยุทธ์ ด้วยกระสุนจริง โดยเป็นการฝึกร่วมระหว่างหน่วยทหารราบ , หน่วยทหารปืนใหญ่ หน่วยทหารม้า ในสังกัดกองทัพภาคที่ 2 และทางกองบิน 1 นครราชสีมา ที่ส่งเครื่องบินเอฟสิบหก จำนวนสองลำมาช่วยในการฝึกบินสนับสนุนทางอากาศ ซึ่งใช้กำลังในการฝึกร่วมครั้งนี้จำนวนสองกองร้อย หรือประมาณสามร้อยนาย
โดยในการฝึกครั้งนี้ถือเป็นการฝึกซ้อมตามวงรอบของกองทัพภาคที่ สอง ที่ตรงกับการฝึกร่วมกองทัพไทยประจำปี 2554 ซึ่งขั้นตอนการฝึกในวันนี้เป็นขั้นตอนการฝึกดำเนินกลยุทธ์ ด้วยกระสุนจริง ซึ่งมีการสมมุติสถานการณ์เกิดความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างไทยกับประเทศ เพื่อนบ้าน โดยฝ่ายตรงข้ามได้นำกำลังเข้ามายึดภูมิประเทศสำคัญและดัดแปลงที่มั่นใน พื้นที่ที่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องเส้นเขตแดน ฝ่ายไทยโดยกองทัพภาคที่ 2 จึงได้จัดกำลังกรมทหารราบเฉพาะกิจ ขึ้นตามแผนเผชิญเหตุของหน่วยทหาร จำนวนสองกองร้อย เนื่องจากกองกำลังป้องกันประเทศที่ประจำอยู่ตามแนวชายแดนต้องการกำลังสนับ สนุนเพื่อเข้ายึดพื้นที่จากฝ่ายตรงข้าม ทำการผลักดันและทำลายกำลังฝ่ายตรงข้าม โดยได้รับการสนับสนุนการปฏิบัติของกำลังทางอากาศจากกองบินหนึ่ง นครราชสีมา เพื่อตัดกำลังและหน่วยสนับสนุนของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งมีการกำหนดให้ภูมิประเทศในสนามฝึก บริเวณเนินภูจันทร์อ่อน และเนินภูลำไย เป็นพื้นที่อยู่บริเวณแนวสันปันน้ำระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และฝ่ายตรงข้ามได้เข้าทำการยึดเป็นฐานที่มั่นแล้ว
โดยขั้นตอนในการฝึกเริ่มทางกองบินหนึ่งนครราชสีมา ได้ส่งเครื่องบินขับไล่ เอฟ 16 จำนวนสองลำ เข้าทำการทิ้งระเบิดต่อที่หมายตามยุทธวิธีโจมตีทางอากาศระยะใกล้ เพื่อตัดกำลังฐานสนับสนุนของฝ่ายตรงข้าม จากนั้นเป็นการยิงสนับสนุนจากหน่วยทหารปืนใหญ่เพื่อทำลายปืนใหญ่และหน่วย สนับสนุนที่อยู่ด้านหลังแนวรบของฝ่ายตรงข้ามซึ่งรถถังที่ใช้ในการฝึกครั้ง นี้เป็นรถถังคอมมานโด สตริงค์เรย์ จากกองพันทหารม้าที่ 6 ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น จำนวน 11 คัน ก่อนที่กำลังรถถังทั้งหมดจะเข้าทำการโจมตีฐานที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม ที่อยู่ถัดมา จากนั้นกำลังทหารราบเฉพาะกิจสองกองร้อยได้ขึ้นยานลำเลียงลงสู่สมรภูมิรบ โดยมีกำลังรถถังปืนใหญ่คอยยิงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กำลังทหารราบทั้งหมดเข้าตั้งแนวรบเตรียมบุกโจมตีแนวรบฝั่งตรงข้าม เมื่อรถถังปืนใหญ่ได้ทำลายหน่วยสนับสนุนปืนใหญ่ฝ่ายตรงข้ามเป็นที่เรียบร้อย จนแน่ใจว่าแนวรบหน้าฐานที่มั่นของฝ่ายตรงข้ามไม่มีกำลังสนับสนุนแล้ว กำลังทหารราบที่ประจำอยู่หน้าแนวรบก็เข้าทำการตะลุมบอลเพื่อบุกยุดฐานที่ มั่นของฝ่ายตรงข้าม โดยมีกำลังทหารปืนใหญ่คอยใช้รถถังโจมตีสนับสนุนกดดันจนทหารฝ่ายตรงข้ามล่า ถอย ก่อนที่จะเข้าเคลียร์พื้นที่ และเสริมความมั่นคงให้ฐานที่มั่น และสถาปนาเป็นฐานที่มั่นของไทย ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในการชิงพื้นที่ได้เปรียบทางการรบเป็นที่เรียบ ร้อยแล้ว ซึ่งระยะเวลาในการปฏิบัติครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีกำลังทหารไทยสามารถยึดฐานที่มั่นฝ่ายตรงข้ามมาเป็นของไทยได้โดยสมบูรณ์
ภายหลังเสร็จสิ้นการฝึก พลเอกพิรุณ แผ้วพลสง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เปิดเผยว่า การฝึกครั้งนี้เป็นการฝึกตามวงรอบการฝึกของกองทัพภาคที่ 2 และห้วงระยะเวลาการฝึกร่วมกองทัพไทยประจำปี 2554 ที่มีการฝึกเป็นประจำทุกปี ไม่ได้มีนัยยะอื่นแอบแฝง แต่เป็นเพียงการเตรียมความพร้อมและเพิ่มประสิทธิภาพยุทธวิธีทางการรบของกอง ทัพในการที่จะใช้ปกป้องอธิปไตยของชาติ ให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ตามนโยบายของกองทัพไทย ซึ่งภาพรวมของการฝึกวันนี้เห็นได้ว่ากองทัพไทยมีศักยภาพในการสู้รบเพื่อปก ป้องอธิปไตยของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์สมมุติที่ทางกองทัพได้กำหนดขึ้นเพื่อใช้ในการฝึกซ้อมครั้งนี้ดู คล้ายสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นตามแนวชายแดน ไทย – กัมพูชา มาแล้วหลายครั้งถือเป็นการเตรียมพร้อมรับมือและตอบโต้ฝ่ายทหารกัมพูชาหากบุก เข้ามาในพื้นที่พิพาทหรือไม่ พลเอกพิรุณฯ ตอบว่า การฝึกครั้งนี้เป็นการฝึกตามวงรอบการฝึกของทางกองทัพ เพื่อเตรียมพร้อมปกป้องอธิปไตยของไทยในยามที่ถูกฝ่ายตรงข้ามรุกล้ำเข้ามา ไม่ได้เป็นการเตรียมพร้อมรบกับประเทศเพื่อบ้าน และการฝึกที่เกิดขึ้นก็เพื่อเป็นการลับเขี้ยวเล็บทางทหารของกองทัพให้มี ประสิทธิภาพพร้อมรับสถานการณ์อยู่เสมอเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง พลเอกพิรุณฯ ระบุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น