บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ไทย-เขมรเตรียมเปิดจุดผ่านแดนอีกสองแห่ง


การหารือเปิดจุดผ่อนปรนชั่วคราวและตั้งตลาดระหว่างไทย-กัมพูชา ๑๕ ส.ค. ๕๔ฟิฟทีนมูฟ — สื่อเขมรรายงาน จนท.ไทย-เขมร ร่วมหารือเปิดจุดผ่านแดนสองแห่ง โดยกำหนดเปิด ๓๑ ส.ค. นี้ ขณะสื่อท้องถิ่นไทยเผยหารือเปิดจุดผ่อนปรนชั่วคราวและเปิดตลาดพื้นที่ ช่องกร่าง พร้อมกันรั้วทางเดิน ขณะเขมรโวยไม่เอารั้วเพราะทำเสียบรรยากาศ
หนังสือพิมพ์กัมพูชาใหม่ (๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๔) รายงานว่า เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันพรมแดนของทั้งไทยและกัมพูชา ระหว่างผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการสองฝ่ายได้ร่วมหารือกัน เพื่อเปิดจุดผ่านแดนอีก ๒ แห่ง คือ ด่านทมอดูน1 และด่านจุบโกกี2 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ของกัมพูชา และ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

ร.ท.คัด โซะเคือน3 ผู้กำกับการตำรวจจุบโกกี กองพันที่ ๗๐๒ ตำรวจป้องกันพรมแดน4 (ตชด.กัมพูชา) เปิดเผยว่า พ.อ.ยีม พัน5 ผู้บัญชาการจังหวัดทหารบกอุดรมีชัย ประจำด่านจุบโกกี ได้นำกำลังระดับผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการทหารอำเภอบันเตียอำปึล พร้อมตำรวจป้องกันพรมแดนจำนวนหนึ่ง พบปะหารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ที่นำโดย พ.อ.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ ๒๖6
โดยการหารือมีประเด็นหลักที่สำคัญสองประเด็น คือ ๑. ทหารกัมพูชาและทหารไทยร่วมพบปะสร้างมิตรภาพเพื่อผลักดันให้เกิดความสัมพันธ์ อันดี แสวงหาหนทางสลายความขัดแย้งร่วมกัน ให้กองกำลังทั้งสองฝ่ายมีความเชื่อใจกัน ให้มีเศรษฐกิจที่ดี เป็นผลประโยชน์สำหรับประชาชนทั้งสองฝ่ายที่จะนำสินค้ามาค้าขายระหว่างกัน ๒. ในวันที่ ๓๑ สิงหาคม เจ้าหน้าที่ทั้งจาก อ.บันเตียอำปึล และ อ.บ้านกรวด จะพบปะหารือเพื่อกำหนดวันเปิดด่านผ่านแดนทั้งสองแห่งอย่างเป็นทางการ
ขณะที่ (๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๔) รายงานว่าการพบปะหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ของสองประเทศ มีขึ้นเมื่อวันที ๑๕ สิงหาคม ในพื้นที่ช่องกร่าง ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยฝ่ายไทยประกอบด้วย พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร ผู้บังคับการทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ ๒ กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ ๒ นายชาติชาย รัตนภานพ นายอำเภอพนมดงรัก พ.อ.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ ๒๖ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฝ่ายกัมพูชาประกอบด้วย พล.ท. ซอ ณารงค์ ผู้ช่วยเสนาธิการกองทัพบก และเสนาธิการสมรภูมิรบที่ ๓ พร้อมด้วยนายฮุณ เรือน นางสโลม กึมลอน รองนายอำเภอปันเตียอำปึล และพล.ต. เนี๊ยะ วงศ์ รองผู้บังคับการกองพลน้อยที่ ๔๒ หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่ปฏิบัติงานติดต่อกันในด้านต่างๆ บริเวณพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชา รวมถึงแนวทางการเปิดจุดผ่อนปรน เพื่อการแลกเปลี่ยนสินค้าในพื้นที่ชั่วคราว บริเวณช่องกร่าง ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยทั้งฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทยกำหนดพื้นที่วางจำหน่ายสินค้าในพื้นที่ของตน เอง
พ.อ.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ ๒๖ กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ ๒ ซึ่งเป็นหน่วยกำกับกำลังพล ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนช่องกร่าง ต.บักได ชี้รายละเอียดข้อเสนอพิจารณาเบื้องต้นของผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทยได้เดินทาง มาตรวจพื้นที่ช่องกร่าง ตั้งแต่วันที่ ๕ สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีข้อเสนอ ดังนี้
๑. การเปิดจุดผ่อนปรนชั่วคราวดังกล่าว อย่าให้มีผลกระทบกับเส้นเขตแดน รวมทั้งหลักเขตแดน โดยเฉพาะบริเวณช่องกร่าง มีหลักเขตที่ ๒๒ ตั้งอยู่ อย่าให้แนวตลาดเข้าไปใกล้ เนื่องจากเกรงผู้ไม่หวังดีทำลายหรือเปลี่ยนแปลงหลักเขตได้ แต่อาจจะมีการอนุญาตให้ประชาชนทั้ง ๒ ประเทศสามารถเข้าชมหรือถ่ายภาพได้ แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายดูแลร่วมกัน ๒. ตลาดทั้งสองฝ่ายควรแยกออกจากกันเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม โดยมีพื้นที่ตรงกลางไว้รองรับการสัญจรไปมาของกันและกัน และ ๓. ร่วมกันวางมาตรการที่ดีร่วมกันในระยะยาว โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด
ในเบื้องต้นฝ่ายไทยได้สรุปข้อพิจารณามานำเสนอประชุมร่วมกับกัมพูชามี ๔ เรื่อง ประกอบด้วย ๑. รูปแบบและแผนผังการเปิดตลาดแลกเปลี่ยนสินค้า ๒. แนวความคิดกำหนดขอบเขต ๓. ประเภทสินค้าที่กัมพูชานำมาขาย และ ๔. วันเวลาเปิด-ปิด สำหรับแผนผังตลาดของไทยจะอยู่บริเวณหน้าฐานปฏิบัติการทหารช่องกร่าง และจะมีรั้วกำหนดขอบเขตชัดเจน ซึ่งจะเว้นตรงกลางเป็นช่องว่างทางเดินและจะมีรั้วหรือลวดหนามกั้นทางเดินไป ยังตลาดของกัมพูชาตรงกันข้าม ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายดูแลความสงบเรียบร้อยและการเข้า-ออกของ ประชาชนทั้งสองประเทศ สำหรับวัน เวลาในการเปิดตลาดนั้น ในช่วงแรกฝ่ายไทยเสนอให้เปิดตลาดนัดสัปดาห์ละ ๑ ครั้ง ในทุกวันพุธของสัปดาห์ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. โดยจะเปิดตลาดครั้งแรกในวันพุธที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๔
ระหว่างการหารือกัมพูชาได้โต้แย้งเรื่องที่ไทยกำหนดรั้วลวดหนามเพื่อกั้น เขตทางเดินสองฝั่งถนนเข้ามายังฝั่งไทย โดยเห็นว่าหากมีรั้วกั้นจะทำให้เสียบรรยากาศความสัมพันธ์ได้ ซึ่งพลโทซอ ณารงค์ ไม่อยากให้มีรั้วลวดหนามกั้นแนวถนนทั้งสองฝั่ง ยืนยันว่า ชาวกัมพูชาที่เดินทางมาตลาดที่จะเปิดใหม่นี้ เป็นคนดี ไม่มีคนร้าย และมีคนไม่มากที่จะมาตลาดแห่งนี้
ขณะที่พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร ผู้บังคับการชุดเฉพาะกิจที่ ๒ กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ ๒ ชี้แจงว่า การกำหนดพื้นที่เดิน เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีทั้งไทยและกัมพูชา ที่อาจใช้ช่องว่างที่ไม่มีรั้วกันหลบหนีหรือลักลอบกระทำผิดกฎหมาย หรือขนสิ่งผิดกฎหมาย จึงจำเป็นจะต้องดำเนินการทำรั้วลวดหนามกั้นพื้นที่ไว้ แต่กัมพูชาไม่เห็นด้วย ซึ่งฝ่ายไทยระบุว่าเป็นข้อเสนอเบื้องต้น ที่จะต้องหารือกันในรายละเอียดอีกครั้ง เพราะเหลือเวลาอีกประมาณ ๒ สัปดาห์ นอกจากนี้แต่ละฝ่ายจะมีการตั้งคณะกรรมการหรือส่งตัวแทนมาร่วมประชุมย่อยกัน อีกครั้ง เพื่อหารือและเตรียมเปิดตลาดในวันที่ ๓๑ สิงหาคมนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง