วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2554
มติไทยยันไม่ถอนตัวภาคีอนุสัญญามรดกโลก
มติไทยยันไม่ถอนตัวภาคีอนุสัญญามรดกโลก หลังเปรียบเทียบพบข้อดีมากกว่าเสีย เผยยูเนสโกพร้อมช่วยเหลือน้ำท่วมไทยเพิ่ม ให้แจ้งของบก่อน 1 ก.พ. 55 เพื่อบูรณะโบราณสถานน้ำท่วม…
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญามรดกโลก โดยมี พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณากรณีประเทศไทยได้ถอนตัวออกจากภาคีอนุสัญญามรดกโลกขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ในรัฐบาลชุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยจากการหารือแล้ว ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ประเทศไทยควรอยู่ในภาคีอนุสัญญามรดกโลกของยูเนสโกต่อไป ส่งผลให้ประเทศไทยก็ยังคงเป็น 1 ในคณะกรรมการมรดกโลก จาก 21 ประเทศต่อไปด้วย เนื่องจากเห็นว่า เมื่อเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการเข้าร่วมภาคีอนุสัญญาดังกล่าวแล้ว เห็นว่าการเป็นภาคีอนุสัญญาต่อไป จะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย และจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า
"หากมีการถอนตัวอย่างเป็นทางการ ต้องมีหนังสือรับรองจากนายกรัฐมนตรี และกระทรวงการต่างประเทศยืนยันก่อน แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการดำเนินการใดๆ จึงถือว่าประเทศไทยยังคงสถานะภาคีอนุสัญญาตามเดิม ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบแล้วเห็นตรงกันว่า หากเรายังยืนยันออกจากภาคีอนุสัญญา ก็จะมีข้อเสียเปรียบมากมาย เช่น เราไม่ได้มีส่วนรับรู้เกี่ยวกับข้อมูลและการดำเนินการต่างๆเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ประเทศไทยยังต้องการผู้เชี่ยวชาญจากยูเนสโกเข้ามาดูแลบูรณะโบราณสถาน เพราะมีผู้เชี่ยวชาญโดยตรง รวมทั้งไทยก็ยังมีแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ที่เสนอการขึ้นทะเบียนมรดกโลกอยู่ 3 แหล่ง ได้แก่ แก่งกระจาน ภูมิพาย และภูพระบาท" รมว.วัฒนธรรม กล่าว
นางสุกุมล กล่าวต่อว่า ขณะนี้ประเทศไทย ยังถือว่าเป็นภาคีสมาชิกของยูเนสโกอยู่ เนื่องจากยูเนสโก ได้ส่งหนังสือแสดงความจำนงให้ความช่วยเหลือซ่อมแซมบูรณะมรดกโลก ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งทางประเทศไทยก็ได้มีการส่งหนังสือแจ้งกลับ เพื่อขอรับการช่วยเหลือฉุกเฉินเร่งด่วนดังกล่าวแล้ว โดยทางยูเนสโกจะให้งบประมาณช่วยเหลือ 75,000 เหรียญสหรัฐ และยังได้แจ้งต่ออีกว่า หากประเทศไทยยังต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการบูรณะโบราณสถาน โดยเฉพาะแหล่งมรดกโลก ให้แสดงความจำนงไปยังศูนย์มรดกโลก ภายในวันที่ 1 ก.พ. 2555 เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลกยูเนสโก ในการให้การช่วยเหลือแหล่งมรดกโลกที่ได้รับความเสียหายรุนแรง และอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายเฉียบพลันต่อไป
ไทยรัฐออนไลน์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น