บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

'กต.'เดินหน้าMOU44 ชง'ครม.'เห็นชอบใหม่!! 'ทัพภาค2'ปัด'ถอนกำลัง' ยัน'ทหาร'อยู่ดูพระวิหาร



"บัว แก้ว" เดินหน้าเอ็มโอยู 44 ต่อ ชี้ยังมีประโยชน์ต่อแนวทางการเจรจา ส่งเข้าครม.เห็นชอบ 18 ต.ค.นี้ ด้านโฆษกกองทัพภาคที่ 2 ยันยังไม่มีการถอนกำลังทหารพ้นพื้นที่เขาพระวิหาร ลั่นผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี คนใหม่ สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี
วันที่ 3 ต.ค.2554 เวลา 14.30 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ(กต.) นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันนี้(3 ต.ค.) กระทรวงการต่างประเทศได้มีการจัดประชุมภายใน โดยมีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู)ระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน พ.ศ.2544 คาดว่าจะสามารถเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้ภายในวันที่ 18 ต.ค.นี้
"ทั้งนี้ยืนยันว่าหลักการของเอ็มโอยูฉบับนี้ยังมีประโยชน์ และจะใช้เป็นแนวทางในการเจรจา ถ้าครม.เห็นด้วยกับแนวทาง ก็จะได้เสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบกรอบการเจรจาต่อไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190"นายธานีกล่าว
นายะานี กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องแนวทางการเจรจาขณะนี้ยังไม่สามารถลงในรายละเอียดได้ แต่ย้ำว่าจะยึดตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ได้หารือไว้กับทางกัมพูชา ในการเยือนกัมพูชา เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ว่าจะดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
กองทัพภาคที่ 2 ยันไม่มีการถอนกำลังพ้นเขาพระวิหาร    
พ.อ.พิเศษ ประวิทย์ หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ภายหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ซึ่งดูแลพื้นที่แนวชายแดนไทย - กัมพูชา จาก พล.อ.ชวลิต ชุนประสาน เป็นพล.ต.ชลิต เมฆมุกดาว่า สำหรับสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ในขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ปกติ กำลังพลทหารทั้ง 2 ประเทศยังคงไปมาหาสู่กันได้ ในส่วนของกำลังพลในสังกัดกองทัพภาคที่ 2 ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาอธิปไตยของประเทศตามแนวชายแดนตามปกติ ไม่มีปัญหาใดๆ พี่น้องประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังคงมีการไปมาหาสู่ ค้าขายสินค้าร่วมกันด้วยดี ซึ่งปัจจุบันนั้นได้มีการเปิดจุดค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าเพื่อมนุษยธรรมที่ บริเวณช่องสะงำ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศได้มีจุดการค้าขายสินค้าเพิ่มมากขึ้น โดยจะเปิดให้มีการค้าขายในทุกๆวันพุธของสัปดาห์ ซึ่งตั้งแต่เริ่มเปิดจุดจำหน่ายสินค้ามาตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.2554 ที่ผ่านมา ก็ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนทั้ง 2 ประเทศนำสินค้ามาจำหน่ายและมีพี่น้องประชาชนทั้ง 2 ประเทศไปจับจ่ายซื้อสินค้าวันละกว่า 3,000 คน สรุปแล้วสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ณ ขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง
"ภายหลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี จากพล.อ.ชวลิต ชุนประสาน ที่ขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็น พล.ต.ชลิต เมฆมุกดา รับหน้าที่ในตำแหน่งนี้แทนนั้น ตนเองขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า ทางพลตรีชลิต เมฆมุกดา นั้นได้รับราชการมาตั้งแต่ปี 2523 ในพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาโดยตลอด และเคยได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งเสนาธิการกองกำลังสุนารีด้านยุทธการและการข่าว ดังนั้นมั่นใจได้ว่า พล.ต.ชลิตรู้จักกำลังพลและศักยภาพของกองกำลังสุรนารีเป็นอย่างดี รู้จักพื้นที่ทุกพื้นที่โดยละเอียด รู้จักพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน ข้าราชการในพื้นที่ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะไม่เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ และจะทำหน้าที่ในการสานงานต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน ถือว่าเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด ที่จะทำหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกำลังพลทั้ง 2 ฝ่าย"โฆษกกองทัพภาคที่ 2 กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่พิพาทของกอง ทัพภาคที่ 2 นั้น พ.อ.ประวิทย์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการถอนกำลังทหาร แต่เป็นเพียงแค่การสับเปลี่ยนกำลังและยุทโธปกรณ์ต่างๆตามวงรอบประจำปี ที่จำเป็นต้องหมุนเวียนกำลังพลที่ประจำอยู่ตามแนวชายมานานเป็นระยะเวลา 1 ปี รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นต้องกลับมาที่ตั้งเพื่อซ่อมบำรุง เฉพาะในพื้นที่ตามแนวชายแดนทั่วไป ไม่ใช่พื้นที่ที่ศาลระหว่างประเทศหรือศาลโลกมีคำสั่งให้ถอนทหารออกจาก พื้นที่ ซึ่งได้มีการสับเปลี่ยนกำลังตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.2554 ที่ผ่านมาประมาณ 2,000 นาย และได้มีการนำกำลังชุดใหม่พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ไปประจำเช่นดังเดิมแล้ว
โฆษกกองทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะยังคงมีการสับเปลี่ยนกำลังในห้วงเดือนตุลาคมในรูปแบบของการทยอย การสับเปลี่ยนกำลังต่อเนื่องอีกกว่า 1,000 นาย เพื่อหมุนเวียนกำลังชุดใหม่เข้าไปทำหน้าที่แทนชุดเดิมที่ปฏิบัติหน้าที่มา เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม การดำเนินการทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นการสับเปลี่ยนกำลังตามแนวชายแดนทั่วทั้ง ประเทศประจำทุกปีอยู่แล้ว สำหรับในส่วนของฝ่ายกัมพูชาเองนั้นจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานข่าวการถอน กำลังออกจากพื้นที่พิพาทตามมติของศาลโลก เช่นเดียวกันกับทางกองทัพภาคที่ 2 ที่ยังคงมีกำลังพลประจำอยู่โดยรอบพื้นที่เช่นดังเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกัน
ศรีสะเกษ เปลี่ยนป้ายชื่อ"เขาพระวิหาร"    
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเส้นทางจากตัว จ.ศรีสะเกษ ไปยังอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า ขณะนี้แขวงการทางจังหวัดศรีสะเกษ ได้เปลี่ยนป้ายชื่อเขาพระวิหารจากคำว่า เขาเปรี๊ยะวิเฮียร์ “Khao Preah Vihear” เป็น เขาพระวิหาร “Khoa Phrawihan Sanctuary”แล้ว โดยการนำสติ๊กเกอร์สีน้ำเงินมาทำการปิดทับป้ายภาษาอังกฤษคำว่า “Khao Preah Vihear” แล้วนำ สติ๊กเกอร์ใหม่ ที่เป็นคำว่า เขาพระวิหาร “Khoa Phrawihan Sanctuary”มาติดแทน โดยป้ายทั้งหมดมีจำนวนทั้งสิ้น 29 ป้ายทั้ง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งป้ายดังกล่าวเป็นป้ายที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดทำขึ้น และได้ดำเนินการติดตั้งในเขตรับผิดชอบของแขวงการทางศรีสะเกษ เพื่อเป็นป้ายบอกทางไปยังเขาพระวิหาร ซึ่งอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยแขวงการทางศรีสะเกษ ได้นำเอารถกระเช้ามาทำการเปลี่ยนป้ายเขาพระวิหารตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 54 ที่ผ่านมา โดยเป็นการแก้ไขป้ายใหม่ทั้ง จ.ศรีสะเกษ เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง