Thepmontri Limpaphayom คำอธิบาย: เอกสารด่วนที่สุดของสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ ผผ ๐๗/๕๘ มีไปถึงนายกรัฐมนตรี(นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ลงวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๓ มีทั้งหมด ๕ หน้าและหนังสือส่งไปก่อนการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ ๓๕ ที่ปารีส
ผมตัดส่วนเฉพาะที่เห็นว่าเกี่ยวข้องกับพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารที่ผู้ตรวจการแผ่นดินลงความเห็นว่า รัฐบาลควรพิจารณาผลักดันกัมพูชาให้พ้นจากเขตแดนโดยเร็ว(อ่านรายละเอียดได้ตามรูปภาพ) แต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่ยอมผลักดันจนทำให้เขมรได้ทีนำคำตัดสินไปตีความ หากในเวลานั้นทำการพลักดัน สถานการณ์อาจไม่เป็นเช่นนี้ ทำไม คุณอภิสิทธิ์ไม่ผลักดันกัมพูชาเพราะกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในดินแดนประเทศไทย ละเมิด MoU43 ไหนล่ะที่บอกว่า MOU มีประโยชน์ ท่านก็ไม่เคารพ MOU43 ที่พรรคปชป.ไปจัดทำกับเขมรมาไหนล่ะหลักนิติรัฐของท่าน
เอกสารนี้ได้มาจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง สำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์เป็นสาเหตุที่ทำให้เขมรอยู่ยาวด้วยครับ ถ้าเป็นความเห็นของภาคประชาชนท่านอาจปฏิเสธได้ แต่นี่คือความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดิน ไฉนเลยท่านไม่รู้จักปฏิบัติ
นอกจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังวินิจฉัยว่าพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารเป็นของไทยครับ กระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ก็ยืนยันว่าพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารเป็นของไทย ให้ทหารถืออาวุธขึ้นมารอบตัวปราสาทได้
ขอบคุณภาพและข้อความจากอ. เทพมนตรี ลิมปพยอม
.......................................
บันทึกภาคประชาชนเรื่องผลการแลกเปลี่ยนกับนายกรัฐมนตรีที่ ช่อง 11by Parnthep Pourpongpan on Tuesday, 10 August 2010 at 15:00
บันทึกนี้จัดทำขึ้นโดย ศ.ดร.สมปอง, มล.วัลย์วิภา, อ.เทพมนตรี, อ.วีรพันธุ์, ดร.สุวันชัย, วีระ สมความคิด และปานเทพ: แถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ณ โรงแรมปริ๊นเซส ถ.หลานหลวง ห้องราชดำเนิน ดังนี้
บันทึกเครือข่ายภาคประชาชน กรณีข้อเท็จจริงกรณีปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบ
ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้จัดเวลาในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับภาคประชาชน โดยการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ระหว่างเวลา 10.00 น. – 13.00 น.นั้น เครือข่ายภาคประชาชนซึ่งติดตามเรื่องปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบขอประกาศจุดยืนดังต่อไปนี้
1. เราขอบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยอมรับและยืนยันว่าไทยยึดหลักสันปันน้ำตามทิวเขาดงรักเป็นเส้นเขตแดนอย่างเคร่งครัด
ยืนยันว่าเฉพาะปราสาทพระวิหารเท่านั้นที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศพิพากษาว่าตั้งอยู่บนพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา และไทยได้โต้แย้งและสงวนสิทธิ์เอาไว้แล้วตามหนังสือกระทรวงการต่างประเทศ เลขที่ (0601) 22239/2505 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 ดังนั้นฝ่ายไทยจึงยังถือว่าพื้นที่ที่ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่นั้น อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของไทย
ยอมรับว่าฝ่ายกัมพูชาได้รุกล้ำและยึดครองดินแดนไทยในบริเวณพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารนั้นเป็นความจริง
ยืนยันว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาการรุกล้ำอธิปไตยด้วยมาตรการการทูตและการทหาร
ยืนยันว่าไทยจะไม่เข้าร่วมกับคณะกรรมการประสานงานระหว่างประเทศ (ICC) ที่จะทำหน้าที่อนุรักษ์อย่างยั่งยืนที่ตัวปราสาทพระวิหารในการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ยืนยันจะคัดค้านการขึ้นทะเบียนประสาทพระวิหารของกัมพูชาเป็นมรดกโลกต่อไปอย่างต่อเนื่อง และจะคัดค้านแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบตัวปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยืนยันว่าในช่วงที่เป็นฝ่ายค้านได้ขอให้มีการถอนแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ซึ่งเป็นเอกสารประกอบกรอบการเจรจาออกจากการขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551
ยืนยันว่ายูเนสโกได้ละเมิดอำนาจหน้าที่ของตัวเอง ตามธรรมนูญของยูเนสโกในข้อ 1 วรรค 3 ว่าห้ามมิให้ยูเนสโกแทรกแซงกิจการภายในของรัฐสมาชิก
ยืนยันว่าเอกสารและการดำเนินการที่จะผูกพันระหว่างไทย-กัมพูชาจะต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนอีกครั้ง ก่อนขอความเห็นชอบจากรัฐสภา เช่น พิจารณาเห็นชอบหรือรับรองรายงานการประชุมลับของรัฐสภาเรื่องกรอบการเจรจาระหว่างไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551, ร่างข้อตกลงชั่วคราวระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชากับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยปัญหาชายแดนในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร, ฯลฯ
https://www.facebook.com/note.php?note_id=132572256785549
Annie Handicraft
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น