บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เขมรยันไม่ถอนทหารรอบพระวิหาร ซัดไทยเจ้าเล่ห์

ฟิฟทีนมูฟ – โฆษก กต.เขมร ยันเรื่องถอนทหารสองฝ่ายพ้นพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารไม่เป็นความจริง เป็นเล่ห์ของไทย ที่ประชุมสามฝ่ายคุยแต่เรื่องชุดทางออกเท่านั้น ขณะเจ้าหน้าที่กลาโหมเขมรซัดไทยไม่ควรพูดเรื่องนี้ อย่าทำตัวเป็นทั้งตุลาการและลูกความ มีปัญหาขัดแย้งต้องมีกรรมการมาดู ถ้าถอนทหารออกหมดก็ไม่จำเป็นต้องมีผู้สังเกตการณ์
koy-kuong-15th
แฟ้มภาพ: นายโกย กวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ กัมพูชา
กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาแถลงตอบโต้ โฆษกกระทรวงต่างประเทศไทย นายธานี ทองภักดี ที่ระบุว่า ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องที่จะถอนทหารทั้งสองฝ่ายออกจากพื้นที่รอบปราสาทพระ วิหาร โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชากล่าวว่าเป็นเรื่องไม่จริง และไทยเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่สุด

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์กัมพูชาใหม่ เมื่อช่วงค่ำ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ นายโกย กวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชากล่าวว่า การยกเรื่องขึ้นมาของโฆษกไทยคนนี้ ที่จริงเป็นเล่ห์ไม่เป็นความจริง เพราะการประชุมกันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ไทย และอินโดนีเซีย ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องถอนทหารเลย ในการหารือดังกล่าวได้เห็นพร้อมต่อชุดทางออกที่พูดเกี่ยวกับหน้าที่ผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซีย และการประชุม JBC และ GBC เท่านั้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาที่แนวหลัง กล่าวว่า เรื่องถอนทหารหรือไม่ถอนนั้น ไม่ใช่ฝ่ายขัดแย้งเป็นผู้พูด ควรยกโอกาสให้กรรมการเป็นผู้ตัดสิน หมายความว่าสองฝ่ายโต้แย้งกันควรมีกรรมการยืนมอง ว่าคนไหนผิดคนไหนถูก คนไหนเลวคนไหนดี เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังกล่าวอีกว่า ถ้าหากฝ่ายขัดแย้งทั้งสองเห็นชอบกัน ถอนทหารของทั้งสองฝ่ายออกไปหมด แล้วยังจะจำเป็นให้มีผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียมาทำอะไร เพราะเรื่องมันจบไปแล้ว  ด้วยเหตุนี้ไทยไม่ควรทำตัวเป็นตุลาการไปด้วยเป็นลูกความไปด้วย แล้วตัดสินในเรื่องนี้  ไทยก็ไม่ควรกลัวผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียมาเป็นกรรมการตัดสิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง