บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

นโยบาย ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เพื่อแรงงานไทยหรือแรงงานกัมพูชา??

เขมรนับหมื่นทะลักเข้าไทย
เขมรนับหมื่นทะลักเข้าไทย
ฝันหวานค่าแรงวันละ300บ.

แรง งานต่างด้าวแห่ทะลักเข้าไทย หวังเข้ามาขุดทองหลังมีรัฐบาลใหม่ชื่อพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศนโยบายให้ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท เผยรัฐบาลเขมรอนุมัติแล้ว 8,000 แรงงานเขมรเข้ามาทำงานในไทย และจะมีตามมาอีกเป็นหมื่น รวมกับแรงงานจากพม่าอีกนับแสน ที่มีทั้งถูกกฎหมายและต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่ก่อปัญหาให้กับเจ้าของ ประเทศอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ก.ค.) ขณะที่ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1206 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา ร่วมกับ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.สระแก้ว, พ.ต.ท.ธัชชัย ทิพเนตร สว.ตร.ทท.สระแก้ว, พ.ต.อ.สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.คลองลึก และ นายอวยชัย กุลทิพมนตรี นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ ได้นำกำลังร่วมกันตั้งจุดตรวจค้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายเข้าประเทศ บริเวณจุดตรวจร่วมทางเข้าตลาดโรงเกลือ หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ได้ตรวจพบชาวเขมรกลุ่มใหญ่กว่า 100 คน หอบหิ้วและแบกกระเป๋าเสื้อผ้าเดินข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในฝั่งไทย

เมื่อถึงจุดตรวจร่วมฯ จนท.จึงตรวจสอบพบว่าเป็นแรงงานชาวเขมรจำนวน 113 คน เป็นชาย 59 คน หญิง 54 คน ที่ได้รับอนุญาตตามข้อตกลง MOU ระหว่างรัฐบาลไทยและกัมพูชา ให้เข้ามาทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย เนื่องจากมีแรงงานเขมรจำนวนมาก จนท.เกรงว่าจะมีแรงงานต่างด้าวชาวเขมรที่ไม่มีเอกสารรับรองจากรัฐบาลกัมพูชา ปะปนเข้ามาด้วย จึงร่วมกันตรวจสอบเอกสารหลักฐานและตรวจค้นอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันและสกัดกั้นแรงงานเถื่อนและการซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมายเข้าประเทศ โดย จนท.ได้ตรวจสอบพาสปอร์ตทุกคนหากแรงงานเขมรคนไหนไม่มีพาสปอร์ตหรือเอกสารฯ จะไม่อนุญาตให้เข้าประเทศ หลังตรวจสอบและตรวจค้นแล้ว จนท.ได้ถ่ายภาพทำประวัติไว้ก่อนอนุญาตให้ตัวแทนโรงงานอุตสาหกรรมในไทยที่ส่ง เจ้าหน้าที่บริษัทฯ มารอรับแรงงานชาวเขมรเดินทางต่อไปได้
     
นาย สะเอือน ชอย อายุ 23 ปี 1 ในแรงงานเขมร เผยว่า ขณะนี้ในฝั่งกัมพูชามีชาวกัมพูชา หลายหมื่นคนเดินทางมาสมัครเข้ามาทำงานในไทย ซึ่งบริษัทฯ นายหน้าจัดหาแรงงานเขมรในพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา ต่างเปิดบริษัทฯ เพิ่มขึ้นมาหลายบริษัทฯ ซึ่งในเดือนกรกฎาคมนี้ รัฐบาลกัมพูชา ได้เซ็นอนุมัติให้แรงงานเขมรเข้ามาทำงานในประเทศไทยจำนวน 8,000 คนและคาดว่าจะมีเพิ่มอีกจำนวนมากนับหมื่นคน ทำให้ชาวเขมรแห่มาสมัครกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ประเทศไทยมีการเลือกตั้งและพรรคเพื่อไทยซึ่งรัฐบาล กัมพูชาโดยเฉพาะสมเด็จฮุนเซนมนตรีกัมพูชา ได้ออกทีวีและพูดว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยเป็นเพื่อนรักกับประเทศกัมพูชา ประเทศกัมพูชาจะสนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และไทย-เขมร จะเป็นมิตรที่ดีต่อกัน จากคำพูดของสมเด็จฮุน เซน ทำให้ชาวเขมรส่วนใหญ่ดีใจและเชื่อว่าไทย-เขมรจะไม่เกิดสงครามกันอีก แต่สิ่งที่เป็นความหวังของชาวกัมพูชาคือนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะให้ค่า แรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ทำให้ชาวเขมรแห่มาสมัครเพื่อเข้ามาทำงานในไทย เพื่อหวังจะได้ค่าแรงวันละ 300 บาท นายสะเอือน ชอย กล่าว

มีรายงานว่า นอกจากแรงงานเขมรจะทะลักหลั่งไหลเข้ามาหางานทำในประเทศไทยแล้ว ยังมีแรงงานจากพม่าอีกจำนวนมากที่พากันอพยพเข้ามาหางานทำในประเทศไทย ทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายและผิดกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันนี้มีแรงงานพม่าอยู่ในประเทศไทยจำนวนนับแสนคนแล้ว และกำลังสร้างปัญหาให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมากโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการ รักษาพยาบาลและยารักษาโรคที่ต้องสูญเสียงบประมาณแต่ละปีจำนวนมหาศาลในการ รักษาคนพวกนี้
     
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวงประจวบฯ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักตกข้างทาง ห่างสถานีตำรวจทางหลวง 200 เมตร บริเวณหลักกิโลเมตร 322-323 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ รุดไปตรวจสอบพบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน ฮธ 4228 กรุงเทพ ตกลงไปอยู่คูข้างทางฝั่งขาลงภาคใต้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน และตำรวจทางหลวงประจวบฯ และหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลประจวบฯ ต้องระดมเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้โดยสารที่มากับรถตู้ออกมานำส่งโรงพยาบาล ประจวบคีรีขันธ์

ตำรวจทางหลวงประจวบฯ สอบสวนทราบว่าคนขับรถตู้คันดังกล่าวชื่อนายกรฤต เพชรมณี อายุ 37 ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะและที่ขาให้การว่าได้รับว่าจ้างให้นำแรงงานพม่า จากมหาชัย จ.สมุทรสาคร ไปต่อพาสปอร์ตที่จังหวัดระนอง โดยขณะที่ขับมาถึงบริเวณดังกล่าวสังเกตเห็นเหมือนมีอะไรวิ่งตัดหน้าจึงหัก หลบตกลงไปในคูข้างทาง จนมีผู้บาดเจ็บรวม 13 คน ซึ่งเป็นชายหญิงแรงงานพม่าทั้งหมด เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ และตามร่างกาย ซึ่งทางแพทย์และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ได้ให้การรักษาและทำแผลในเบื้องต้น ส่วนแรงงานพม่าบอกว่าช่วงเกิดอุบัติเหตุกำลังหลับอยู่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง