บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

โปรดทราบ! ไทยลอบถอนทหารพ้นพื้นที่พระวิหารแล้ว

ฟิฟทีนมูฟ — แม้ทัพภาค ๒ และ รมว.กลาโหมยืนยันไม่ถอนทหารออกจากพื้นที่เขาพระวิหารหลังการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของยิ่งลักษณ์  ตรงกันข้าม วานนี้ ได้มีการถอนกำลังสนับสนุนออกจากพื้นที่รอบนอกทั้งหมด พร้อมจัดพิธีส่งที่กองร้อย ตชด. ๒๒๔ ตกค่ำลอบส่งรถขนรถถัง-ปืนใหญ่ลำเลียงออกจากพื้นที่ร่วม ๔๐ คัน เป็นการถอนกำลังหลักทั้งหมด คงหน่วยยย่อยใน ๔.๖ แค่หย่อมเดียว ระหว่างการเดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อช่วงบ่ายวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๔ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ย้ำกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประเด็นพื้นที่ปราสาทพระวิหารในสองเรื่องหลัก คือ ๑.พื้นที่ ๔.๖ ตร.กม. เป็นของกัมพูชา ๒.ต้องถอนทหารออกจากเขตปลอดทหารตามกำหนดในมาตรการชั่วคราวของศาลโลก และรับผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียเข้าประจำพื้นที่ พร้อมเสนอให้สองฝ่ายใช้คำว่าปรับกำลังแทนการถอนทหาร เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ ๒ ได้ออกมาย้ำในประเด็นหลังว่า  ยังไม่มีอะไรตามที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าการปรับลดกำลังทหารที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการของศาลโลก หรือส่งผู้สังเกตการณ์เข้าพื้นที่ แต่จะต้องรอห้วงเวลาที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee : GBC) กับกัมพูชาก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันหรือมีคำสั่งใดๆ กำลังทหารยังคงต้องปฏิบัติตามภารกิจดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือขยับออกนอกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม หากจะมีการปรับลดเมื่อใดนั้นคงจะต้องรอคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก อีกครั้ง พร้อมสำทับว่า ในพื้นที่ข้อพิพาท ๔.๖ ตร.กม. ยังคงมีกำลังทหารของไทย และกัมพูชาก็ยังไม่ได้มีการขยับใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่ามีข่าวว่าทางกัมพูชาจะมีการปรับลดทหารออกไปแล้วประมาณ ๗ ครั้ง แต่ก็เป็นพื้นที่รอบนอกเท่านั้น ที่มีการเสริมกำลังช่วงที่มีการปะทะกับทหารไทยในช่วงทีผ่านมา แต่ในพื้นที่ข้อพิพาทยังไม่ได้มีการขยับแต่อย่างใด กำลังทหารของไทยยังคงวางกำลังในการรักษาอธิปไตยของประเทศอยู่ ต่อมา วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๔ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวย้ำในเรื่องนี้อีกครั้งว่า ในส่วนของกองทัพ เจ้าหน้าที่ทหารยังปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการถอนทหารออกจากพื้นที่แต่อย่างใด ทว่า ค่ำวันเดียว (๑๗ กันยายน) แหล่งข่าวฟิฟทีนมูฟในพื้นที่ใกล้ปราสาทพระวิหาร รายงานว่า ตลอดวัน ทหารไทยได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่รอบนอกของเขาพระวิหาร โดยเมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น.  ที่กองร้อย ตชด. ๒๒๔ ซึ่งอยู่ติดกับกรมทหารพรานที่ ๒๓ บ้านน้ำเย็น ได้มีการตั้งแถวและทำพิธีส่งทหาร พร้อมมีรถขนส่งทหารจำนวนมากรอลำเลียงทหารกลับหน่วยเดิม ซึ่งคาดว่า ณ ขณะที่รายงานมีการถอนกำลังออกทั้งหมดแล้ว และเมื่อเวลา ๑๙.๓๐ น. มีการนำรถขนรถถังขนาดใหญ่มากกว่า ๑๐ คัน เดินทางมุ่งหน้าขึ้นเขาพระวิหาร เพื่อลำเลียงรถถังกลับลงมา โดยเมื่อเวลา ๒๐.๓๐ น. รถขนรถถังดังกล่าวได้ลำเลียงรถถังใหญ่ รถถังเล็ก และปืนใหญ่ชนิดต่าง ๆ ออกจากพื้นที่ แหล่งข่าวระบุว่ามีการลำเลียงรถถังลงมาประมาณ ๓๐-๔๐ คัน ซึ่งเป็นทั้งหมดที่กองทัพส่งเข้าประจำการในพื้นที่ ระหว่างการลำเลียงชาวบ้านพักอาศัยห่างถนนสายกันทรลักษ์-เขาพระวิหาร ในรัศมี ๑-๒ ก.ม. ต่างตื่นตกใจเนื่องจากแรงสั่นสะเทือนของพื้นถนนระหว่างการลำเลียง แหล่งข่าวรายงานด้วยว่า แม้การถอนทหารดังกล่าวเป็นการถอนกองสนับสนุนที่อยู่รอบนอก แต่กองกำลังสนับสนุนดังกล่าวเป็นกองกำลังหลักที่มีกำลังทหารมากสุด มีอาวุธยุทโธปกรณ์หนัก ทั้งรถถังและปืนใหญ่ประจำการ ขณะที่หน่วยทหารซึ่งประจำการอยู่ในบางส่วนของพื้นที่ ๔.๖ ตร.กม. และใกล้เคียงเป็นเพียงกองกำลังย่อยเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง