บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554

จับเท็จสายลับไทยอำพรางข้อมูล-ลุ้นเลื่อน-รับแผนกัมพูชา24มิ.ย.


3 ผู้ต้องหาคดีจารกรรมความมั่นคงประเทศไทย(แฟ้มภาพ 9 มิ.ย.54)

นาย สุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยวานนี้(17 มิ.ย.) ได้ขอเข้าพบ นายอดุล วิเชียรเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการมรดกโลก และในช่วงดึกจะเดินทางไปเจรจาขอเลื่อนแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบประสาทพระวิหารของกัมพูชา ในเวทีประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยที่ 35 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
 เขา กล่าวว่า นายอดุลได้ให้คำแนะนำหลายประเด็น แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาก็จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดไม่ให้ประเทศไทยสูญเสียแม้ แต่ตารางนิ้วเดียว ทั้งนี้ เรามีข้อมูลชัดเจนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารไม่ถูกต้อง และมีบางส่วนรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทย 

เมื่อถามว่า หากที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกยอม รับแผนบริหารจัดการของกัมพูชา จะวอล์กเอาท์จากที่ประชุมหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่มองถึงจุดนั้น เราไม่สามารถคาดคะเนอะไรจะเกิดขึ้นได้ เมื่อเหตุการณ์ยังไม่เกิดก็ไม่สามารถจะตอบได้จะทำอย่างไร แต่ก็ได้เตรียมแผนไว้ในทุกกรณีแล้ว 
ต่อข้อถามถึงการล็อบบี้ที่ผ่านมามี เพียงส่วนน้อยสนับสนุนประเทศไทย ขณะนี้ได้เพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ความจริงทั้งสองประเทศคือไทยและกัมพูชา พยายามล็อบบี้กรรมการทั้ง 21 ชาติให้สนับสนุนแนวทางของตน แต่หลังจากเกิดความไม่สงบชายแดน หลายประเทศเริ่มเข้าใจประเด็นความขัดแย้งมากขึ้น โดยต้องเลื่อนออกไปจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องพรมแดน 2 ประเทศ 
ก่อนหน้านี้ นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะกรรมการมรดกโลก เปิดเผยว่าการเดินทางไปในคืนที่ 17 มิ.ย. เพื่อร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลก 21 ประเทศ ระหว่าง 19 - 29 มิ.ย. ณ สำนักงานใหญ่องค์การยูเนสโก กรุงปารีส และจะมี 187 ประเทศเข้าร่วมสังเกตการณ์ 
เธอกล่าวอีกว่า ที่กัมพูชาเสนอขึ้นบัญชีมรดกโลกปราสาท พระวิหาร ที่เมืองควิเบก แคนาดา ในการประชุมครั้งที่ 32 แต่ขาดแผนบริหารจัดการและพื้นที่กันชนในครั้งนั้น แล้วมาเสนอแผนบริหารฯ ในปีต่อ ๆ มา ส่วนไทยไม่เห็นด้วยเนื่องจากบริเวณพื้นที่มีปัญหากันอยู่จึงคัดค้านไว้ เพื่อให้สองประเทศแก้ปัญหาลุล่วงเสร็จก่อน 
"ตามระเบียบ มรดกโลกที่ มีปัญหาจะต้องดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภาย 3 ปีจึงจะถอดออกจากวาระที่ 7 อย่างไรก็ตาม มีหลายกรณีพิจารณาเลื่อนออกไปปีต่อ ๆ ไป จนกว่าลุล่วงในทางที่ดีขึ้น"
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวอีกว่า คณะกรรมการมรดกโลก 21 ประเทศทราบปัญหามาโดยตลอด ซึ่งคณะกรรมการฯ จะให้ประเทศสมาชิกโดยผู้แทนหรือหัวหน้าคณะของแต่ละฝ่ายชี้แจงในลำดับที่ 63 ของวาระที่ 7B คาดว่าเป็นวันที่ 23 หรือ 24 ตามเวลาท้องถิ่นจึงรู้ผลมติจะเลื่อนตามไทยร้องขอหรือรับแผนบริหารฯ ตามกัมพูชาเสนอ
เลขาทูตญวน อ้างผู้ต้องหาแค่มาเที่ยว
วัน เดียวกันนี้ ที่เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ นายฟาม มินห์ ตวน เลขานุการเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเวียดนาม ประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมนายเหวียง เติ้งยัง ผู้ต้องหาสายลับร่วมจารกรรมที่ตั้งทางทหารไทย ซึ่งถูกจับได้บริเวณถนนสายกันทรลักษ์-เขาพระวิหาร พร้อมกับอีก 2 คนในข้อหาร่วมกันกระทำการใดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความลับสำหรับความปลอดภัยของประเทศ เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่เรือนจำจัดสถานที่ให้เยี่ยม ทั้งหมดใช้เวลาหารือกันเป็นเวลาพอสมควร จึงเดินกลับออกมา

เลขานุการทูตเวียดนาม เปิดเผยว่า มาเยี่ยมนายเหวียงตามระเบียบปฏิบัติแล้ว พบว่าได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดี มีสภาพความเป็นอยู่ดีพอสมควร ซึ่งนายเหวียงบอกว่าเข้าหมู่บ้านภูมิซรอลเพื่อมาท่องเที่ยวเท่านั้น และจะนำเรื่องนี้รายงานหน่วยเหนือทราบ เพื่อหาทางช่วยต่อไป
กงสุลกัมพูชาโวไทยไร้หลักฐาน 
ด้านสำนักข่าวซีอีเอ็น กัมพูชา รายงานว่า นายเนต เสรี กงสุลใหญ่กัมพูชาประจำจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่าเมื่อบ่ายวันที่ 16 มิ.ย. ทนายความได้เข้าไปเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมนายอึ้ง กิมไท ผู้ต้องหาชาวกัมพูชา เพื่อให้ลงนามเอกสารแต่งตั้งทนาย และได้สอบถามนำรายละเอียดไปสู้คดีในชั้นศาล 
กงสุลใหญ่กัมพูชา ยังอ้างด้วยว่า ไทยยังไม่มีหลักฐานจะตั้งข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ศาลไทยไม่อนุญาตให้ประกันตัวนายอึ้ง กิมไท แต่กงสุลจะช่วยในช่องทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด และปฏิเสธอย่างเด็ดขาดไม่ได้ทำจารกรรมตามข้อกล่าวหา เนื่องจากเป็นเพียงพลเมืองธรรมดา 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยได้สอบสวนนายสุชาติ มูฮำหมัด ผู้ต้องหาชาวไทย อย่างละเอียดเพิ่มเติม เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า คำให้การวกวน ปิดปังอำพรางความจริงบางอย่าง โดยได้นำเอาเครื่องจับเท็จมาทดสอบด้วย 
ขณะเดียวกัน พ.ต.ต.สังวร วันทะวี พงส.(สบ2) สภ.กันทรลักษ์ ได้สอบปากคำนายอึ้ง กิมไท และนายเหวียง เติ้งยัง เพิ่มเติม โดยมีล่ามชาวกัมพูชาและล่ามชาวเวียดนาม แปลภาษา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง