“ปานเทพ”
รับสยามวิกฤตหลังยูเนสโกเมินชงข้อเสนอลบชื่อพระวิหารพ้นมรดกโลก
ระดมพลบุกยูเนสโก 10 โมงพรุ่งนี้ กดดันยุติแผนจัดการพระวิหารของเขมร
ลั่นขัดขวางอย่างถึงที่สุด ขู่ถ้าลุแก่อำนาจจะถือว่าเป็นศัตรู “ประพันธ์”
ยันมรดกโลกส่อรุกรานอธิปไตยไทย ซัดสร้างความขัดแย้ง 2 ชาติ ขู่เจอดีแน่
จี้รัฐถอนตัวยูเนสโก ยันมะกันก็เคยทำ สับไม่เคารพหลักการตัวเอง แนะ
“สุวิทย์” สู้ให้ถึงที่สุด
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายประพันธ์ คูณมี
โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย
ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่คณะกรรมการมรดกโลกไม่บรรจุข้อเรียกร้องลบชื่อปราสาท
พระวิหารออกจากบัญชีรายชื่อมรดกโลกไว้ในวาระการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก
ครั้งที่ 35 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ว่า
สืบเนื่องจากคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรฯ ได้รับรายงานจากนายเทพมนตรี
ลิมปพยอม ว่าในวันพุธที่ 22 มิ.ย.นี้
ทางคณะกรรมการมรดกโลกจะพิจารณาวาระเรื่องแผนบริหารจัดการมรดกโลก
และปราสาทพระวิหารให้เป็นของกัมพูชา
นายปานเทพกล่าวว่า กรณีดังกล่าวทำให้เห็นได้ว่า
กรณีที่ภาคประชาชนได้ยื่นหนังสือต่อสำนักงานยูเนสโกประจำประเทศไทย
เพื่อให้ส่งต่อไปยังสำนักงานยูเนสโกที่ประเทศฝรั่งเศส
เพื่อไปบรรจุในวาระว่าภาคประชาชนต้องการให้ถอนลบชื่อปราสาทพระวิหารออกจาก
บัญชีมรดกโลกนั้น มิได้ถูกบรรจุอยู่ในวาระแต่ประการใด ดังนั้น
ถือเป็นช่วงเวลาที่วิกฤตอย่างยิ่ง
ทำให้ภาคประชาชนโดยคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรฯ และพันธมิตรฯ
จะเดินทางไปชุมนุมที่หน้าสำนักงานยูเนสโกกรุงเทพฯ ถนนสุขุมวิท เอกมัย
ในเวลา 10.00 น. วันพรุ่งนี้ (22 มิ.ย.)
เพื่อกดดันและให้ยูเนสโกที่ฝรั่งเศสนั้นยุติการเดินหน้าแผนบริหารจัดการมรดก
โลก และถอนบัญชีปราสาทพระวิหารออกจากบัญชีมรดกโลกโดยเร็วที่สุด
ซึ่งจะดำเนินการชุมนุมตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป
และจะมีการประสานกับนายเทพมนตรี
ซึ่งเป็นตัวแทนคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรฯ
ที่กำลังอยู่ในการพูดคุยกับคณะไทยอยู่ในเวลาตอนนี้
เพื่อขัดขวางการขึ้นทะเบียนให้ได้อย่างถึงที่สุด
ด้าน นายประพันธ์กล่าวว่า
ประเด็นที่ยูเนสโกยืนยันว่าเราได้ไปแสดงเจตนารมณ์และให้ข้อเท็จจริงต่อยูเนส
โกเกือบครบถ้วนหมดแล้ว
ถึงที่มาที่ไปของกระบวนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกครั้งนี้
ว่ามีพฤติกรรมในลักษณะที่ส่อว่าจะรุกรานเอาดินแดนและอธิปไตยของประเทศไทย
ไปผนวกรวมอยู่ในแผนบริหารจัดการภายใต้การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร
และที่กัมพูชาเดินหน้ามาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะว่าคณะกรรมการมรดกโลกและยู
เนสโกนั้นสมรู้ร่วมคิดกับกัมพูชา
แต่เราก็ยังให้โอกาสว่าถ้าหากยูเนสโกเห็นแก่ปณิธานและหลักการของยูเนสโก
และหลักการขึ้นทะเบียนมรดกโลกเอง
ควรจะได้ลบชื่อปราสาทพระวิหารออกจากการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมเสีย
นายประพันธ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ยืนยันว่า
ถ้าหากยูเนสโกเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป
จะนำมาซึ่งความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา
และจะทำให้ยูเนสโกที่อยู่ในไทยและทั่วโลกเผชิญหน้าประชาชนไทย
เพราะถือว่ายูเนสโกเป็นผู้สนับสนุน
และเป็นเครื่องมือของประเทศมหาอำนาจในการรุกรานอธิปไตยของประเทศไทย
ซึ่งประชาชนไทยก็จะไม่ยอมในประเด็นนี้
เราได้ฝากความห่วงใยและคำเตือนนี้ไปถึงองค์การยูเนสโกผ่านผู้แทนยูเนสโกที่
ประเทศไทยไปแล้ว
ถ้าหากวันพรุ่งนี้มีการประชุมและยังมีการเดินหน้าที่จะให้เป็นไปตามคำร้องขอ
ของกัมพูชาในการขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้วยังผนวกเอาดินแดนของประเทศไทยไปด้วย
โดยไม่ฟังเสียงของประชาชนไทย ตนเชื่อว่าประชาชนไทยจะไม่ยอม
เพราะว่าเราได้พูดเรื่องนี้อย่างจริงจังกับผู้แทนยูเนสโกไปแล้ว
“การเคลื่อนไหวของพวกเราที่ไปในวันพรุ่งนี้
ก็เพื่อที่จะยืนยันเจตนารมณ์อันเดิมของเรา
ในระหว่างการประชุมของคณะกรรมการมรดกโลก
ให้รู้ว่าประชาชนไทยจะไม่ลดละในการต่อสู้เรื่องนี้จนถึงที่สุด
ถ้าหากว่ายูเนสโกจะได้กลายเป็นองค์กรที่เป็นศัตรูกับประชาชนไทยแล้ว
ยูเนสโกก็ไม่สมควรที่จะตั้งอยู่ในประเทศไทยต่อไป
ประชาชนไทยก็คงจะต้องมีการเรียกร้อง กดดัน ต่อสู้ทุกวิถีทาง
เพื่อให้ประเทศไทยต้องถอนตัวออกจากยูเนสโก สหรัฐอเมริกาก็เคยถอนตัว
ประเทศอื่นก็เคยถอนตัว
เมื่อเห็นว่ายูเนสโกมีพฤติกรรมที่ไม่เคารพหลักการของตนเอง
และเข้าไปเกี่ยวข้อง แทรกแซงกิจการภายในหรือข้อพิพาทระหว่างประเทศ
ซึ่งมันไม่ใช่หลักการของยูเนสโก
เพราะฉะนั้นเมื่อยูเนสโกไม่เคารพหลักการของตนเอง
ประชาชนไทยก็มีสิทธิที่จะไม่เคารพยูเนสโก และไม่เคารพหลักการเช่นเดียวกัน
เพราะว่าเขาเป็นผู้ละเมิดหลักการก่อน” นายประพันธ์กล่าว
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า
ท่าทีแนวโน้มของการประชุมจะมุ่งไปในทิศทางอย่างไร ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ
ว่าทางฝ่ายกัมพูชาและคณะกรรมการมรดกโลกยังมุ่งที่จะเดินหน้าในการประชุม
ครั้งนี้ ไปตามแผนการเดิมทุกประการ
แม้กระทั่งเรื่องที่ว่าจะเลื่อนก็ไม่สนใจ ฉะนั้น
วันนี้มันถึงจุดแตกหักที่สำคัญที่ประเทศไทยเองก็ถอยไม่ได้ในเรื่องนี้
ถ้านายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และคณะกรรมการมุ่งที่จะรักษาดินแดนของประเทศ
ก็ต้องสู้ในประเด็นนี้อย่างถึงที่สุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
การชุมนุมที่หน้ายูเนสโกในวันพรุ่งนี้จะมีการปักหลักพักค้างหรือไม่
นายปานเทพกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และการประเมินสถานการณ์
แต่วาระการประชุมเป็นพรุ่งนี้ เราอาจจะรู้ผลวันพรุ่งนี้เลยก็ได้
ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง อาจจะมีการเลื่อนไปอีกหนึ่งวันก็ได้
ในระหว่างการเจรจาทุกอย่างเป็นไปได้ จึงไม่มีใครกำหนดแน่ชัด
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาตอนนั้น
แต่ขอประกาศว่าการไปครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการกดดันปกติ
แต่เป็นการประกาศว่าถ้ายูเนสโกยังคงลุแก่อำนาจ
เดินหน้าโดยที่มีการละเมิดอธิปไตยต่อประเทศไทย ประชาชนชาวไทยจะถือว่า
ยูเนสโกเป็นศัตรูกับประชาชนคนไทย
จะยกสถานภาพไม่ใช่เป็นแค่องค์กรรักษาสันติภาพ หรือมรดกทางวัฒนธรรม
ไม่ใช่องค์กรเหล่านั้นอีกต่อไปแล้ว ในสายตาประชาชนชาวไทย
ซึ่งตนหวังว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นการสำแดงพลัง
เพื่อเรียกร้องให้ยูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลก
ทบทวนท่าทีของตัวเองอย่างเร่งด่วน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น