จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
หน้าเว็บ
การเมือง
กรณีไทย-กัมพูชา
ขุมทรัพย์กลางอ่าวไทย
บทความเด่น
Search
บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น
+++++
หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า
+++++
ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร
-------------
ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ
*******ช.ช้าง *******
วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
ปราสาทพระวิหาร 'อภิสิทธิ์' vs 'นพดล' และคนขายชาติ
โดย
ASTVผู้จัดการรายวัน
30 กรกฎาคม 2554 05:38 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
-
การปะทะคามรมอย่างดุเด็ดเผ็ดมันระหว่าง
'อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ'
รักษาการ นายกรัฐมนตรี ศิษย์แม่พระธรณีบีบมวยผม กับ'นายนพดล ปัทมะ' อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลูกกะเป๋งทักษิณ ในกรณี
ปราสาทพระวิหาร
ที่ต่างก็กล่าวโทษกันไปมาว่าอีกฝ่ายเป็นสาเหตุที่ทำให้ไทยอาจต้องเสียดินแดน ให้กัมพูชานั้นได้สร้างความขบขันให้คนไทยจำนวนไม่น้อย
เพราะหากย้อนไปดูถึงผลงานที่ทั้งสองคนทำไว้กับประเทศชาติก็ดูจะไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก
**'ติ้งเหล่' คนไทยหัวใจเขมร
สำหรับ 'ติ้งเหล่' นพดลนั้นผลงานการยกแผ่นดินไทยให้เขมรมีให้เห็นอย่างเด่นชัด
โดย
ใน ช่วงที่เขานั่งในเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในสมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช นั้น นายนพดลได้ทำข้อตกลงที่ไทยจะสนับสนุนการขอขึ้นทะเบียน "
ปราสาทพระวิหาร
เป็นมรดกโลก" ของกัมพูชา
โดย
ฝ่ายกัมพูชาได้จัดทำ "แผนที่ฉบับใหม่" แสดงขอบเขต
ปราสาทพระวิหาร
ประกอบคำขอขึ้นทะเบียน ขณะที่รัฐบาลไทย
โดย
นาย นพดล ในฐานะ รมว.การต่างประเทศ ก็แบะท่ายืนยันว่าพร้อมแสดงแผนผังบริเวณปราสาทที่ฝ่ายกัมพูชาจะใช้ยื่นต่อยู เนสโกขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก พร้อมระบุว่ากรมแผนที่ทหารตรวจสอบบริเวณดังกล่าวอย่างละเอียดแล้ว ไม่มีส่วนใดล้ำเข้ามาในดินแดนที่ไทยอ้างสิทธิ์ !! ซึ่งเท่ากับเขาเป็นตัวแทนประเทศไทยที่เสนอหน้าไปยืนยันว่าพื้นที่บริเวณดัง กล่าวนั้นเป็นของกัมพูชา ?
ทั้งนี้ หากย้อนไปดูการปฏิบัติหน้าที่ของ รมว.ต่างประเทศ ของนายนพดล ปัทมะ ก็จะเห็นถึงการดำเนินการผลักดันให้กัมพูชาขึ้นทะเทียน
ปราสาทพระวิหาร
อย่าง เป็นขั้นเป็นตอน
โดย
ใน วันที่ 14 พ.ค. 2551นายนพดลได้เดินทางไปยังเกาะกง กัมพูชา เพื่อร่วมเปิดถนนสายที่ 48 กับนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และหารือถึงการทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เพื่อให้มีการบริหารและจัดการร่วมกันในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งนับเป็นการดำเนินการที่เร่งรีบเพื่อให้กัมพูชาสามารถนำรายละเอียดเหล่า นี้ไปเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่จะมีขึ้นที่ประเทศแคนาดา ในเดือนกรกฎาคม 2551 ได้ทัน
จากนั้นในวันที่ 22 พ.ค. 2551นายนพดล ก็ได้หารือกับ นายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่สำนักงานใหญ่ยูเนสโก กรุงปารีส
โดย
มีผู้แทนระดับสูงของยูเนสโกเข้าร่วมด้วย
โดย
ครั้งนั้นไทยและกัมพูชามีข้อตกลงร่วมกันว่า ไทยจะสนับสนุนการขอขึ้นทะเบียน
ปราสาทพระวิหาร
เป็นมรดกโลก ขณะที่กัมพูชาจะขอขึ้นทะเบียนเฉพาะตัว
ปราสาทพระวิหาร
โดย
ฝ่ายกัมพูชาจะจัดทำแผนที่ฉบับใหม่แสดงขอบเขต
ปราสาทพระวิหาร
เพื่อใช้แทน แผนที่ฉบับเดิมที่กัมพูชาใช้ประกอบคำขอขึ้นทะเบียน
แต่หลังจากนั้นก็เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักว่าแผนที่ที่ทางกัมพูชา ยื่นให้ฝ่ายไทยนั้นรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของไทยประมาณ 200 เมตร แต่นายนพดลก็ออกมาแก้เกี้ยวว่าเป็นแค่เรื่องของการถือแผนที่คนละฉบับเท่า นั้น แต่ต่อมาในวันที่ 5 มิ.ย. 2551กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ประกาศรับแผนที่ฉบับใหม่จากฝ่ายกัมพูชาที่จะ ใช้แทนแผนที่เดิมที่ยื่นไว้เมื่อปี 2549 และได้ขอความร่วมมือกรมแผนที่ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ตรวจสอบข้อมูลในภูมิประเทศจริงเพื่อความถูกต้องชัดเจน
มีการตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงดังกล่าวรัฐบาลไทยพยายามเร่งรีบดำเนินการเพื่อให้นำไปสู่การขึ้น ทะเบียน
ปราสาทพระวิหาร
โดย
ใน วันที่ 16 มิ.ย. 2551สภาความมั่นคงแห่งชาติของไทย ก็ได้ให้ความเห็นชอบแผนที่ฉบับใหม่ตามที่กัมพูชาเสนอ และวันรุ่งขึ้น 17 มิ.ย.2551 คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแผนที่ฉบับนี้ พร้อมทั้งมอบอำนาจให้ รมว.ต่างประเทศไปลงนามในร่างแถลงการณ์ร่วมกับ นายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อยืนยันข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายตามที่ตกลงกันไว้ในการหารือที่กรุงปารีส ด้วย จากนั้นวันที่ 18 มิ.ย. 2551นายนพดลได้ลงนามยินยอมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็น มรดกโลกร่วมกับ นายอึง เซียน เอกอัครราชทูตกัมพูชา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
แม้ว่าต่อมาทนายความของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จะได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง ให้กระทรวงการต่างประเทศและคณะรัฐมนตรียุติการดำเนินการตามมติ ครม.ที่รับรองการออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาสนับสนุนให้กัมพูชาจดทะเบียน ปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ไปจนกว่าคดีจะเป็นที่สิ้นสุด และในที่สุด วันที่ 28 มิ.ย.2551 ศาลปกครองกลางก็ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวตามที่พันธมิตรฯร้องขอ แต่นายนพดลและรัฐบาลนายสมัครก็ไม่ได้สนใจที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลแต่อย่าง ใด
ว่ากันว่าการประกาศสนับสนุนการขึ้นทะเบียนประสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ของกัมพูชาแบบสุดลิ่มทิ่มประตูของนายนพดลนั้นมีความไม่ชอบมาพากลและมีผล ประโยชน์ทับซ้อน
โดย
สม เด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้เสนอสัมปทานธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยบริเวณรอยต่อ ไทย-กัมพูชาให้อดีตนายกฯทักษิณ เป็นสิ่งแลกเปลี่ยน
ทั้งนี้ มีหลักฐานปรากฏชัดจากเอกสารลับทางการทูตของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ซึ่ง 'วิกิลีกส์' เว็บไซต์จอมแฉ นำมาเผยแพร่ในช่วงปี 2550 ซึ่งเอกสารดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในระดับที่ไม่ธรรมดาระหว่างสม เด็จฮุน เซน และทักษิณ พร้อมทั้งระบุถึงการแบ่งสรรผลประโยชน์จากการสำรวจและผลิตน้ำมันในพื้นที่ทับ ซ้อนทางทะเลของไทย-กัมพูชา
โดย
นายเกา คิม ฮอร์น
เจ้า หน้าที่ระดับสูงกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา กล่าวว่า จะมีการแบ่งรายได้ในพื้นที่ใกล้ไทยมากที่สุด สัดส่วนไทย 80% กัมพูชา 20 % ส่วนพื้นที่ตรงกลางแบ่ง 50-50 และสัดส่วนไทย 20 กัมพูชา 80 สำหรับพื้นที่ใกล้ฝั่งกัมพูชา ขณะที่รายละเอียดการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชา กับ
นายแกรี ฟลาเฮอร์
ตี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของเชฟรอน ในปี 2550 ก็ระบุว่า ผู้บริหารของเชฟรอนเห็นว่าพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยนั้น เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ดีที่สุดในโลก
มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าข้อตกลงดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นก่อนปี 2550 คือก่อนที่ทักษิณจะถูกปฏิวัติยึดอำนาจ (19 ก..2549) และเป็นข้อตกลงที่เกิดขึ้นในขณะที่ไทยและกัมพูชายังไม่มีการปักปันเขตแดนใน บริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด
อีกทั้งยังมีเอกสาทางการทูต ในช่วงปี 2552 ที่ระบุว่า "การไปเยือนพนมเปญของทักษิณฯ ถูกนักสังเกตการณ์ส่วนใหญ่มองว่า เป็นความต่อเนื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณและสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในการใช้และกันเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว”
ดังนั้นการที่ 'นายนพดล ปัทมะ' จะปฏิเสธว่าตนและรัฐบาลนายสมัครไม่ได้สนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนประสาท พระวิหารในลักษณะที่มีการรุกล้ำแผ่นดินไทยนั้นก็ล้วนแต่เป็นการ 'โกหกคำโต' เพราะสิ่งที่นายนพดลดำเนินการไปทั้งหมดนั้นล้วนมีหลักฐานชัดเจน !!
**'มาร์ค' ดื้อตาใส ทำไทยเสียดินแดน
ขณะที่นายอภิสิทธิ์นั้นแม้จะได้ขึ้นมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ถึง 2 ปีกว่า คือตั้งแต่ ธ.ค.2551 และเพิ่งประกาศยุบสภาไปเมื่อ 9 พ.ค.2554 ที่ผ่านมา แต่ตลอดเวลานายกฯอภิสิทธิ์ก็หาได้ดำเนินการใดๆที่จะคัดค้านการขึ้นทะเบียน ประสาทพระวิหารของกัมพูชา หนำซ้ำยังยืนยันที่จะยึด MOU43 (บันทึกความเข้าใจร่วมระหว่างไทยและกัมพูชา เรื่องการจัดทำหลักเขตแดนทางบก ปี 2543) ซึ่งเท่ากับเป็นการยอมรับแผนที่ 1 : 200,000 อันจะนำไปสู่การเสียดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบพื้นที่
ปราสาทพระวิหาร
อีกทั้งเป็นแผนที่ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักการ ผิดทั้งตำแหน่งของ
ปราสาทพระวิหาร
ผิดทั้งเส้นเขตแดนในแผนที่ และที่สำคัญยังเป็นแผนที่ที่ฝรั่งเศสทำไว้ตั้งแต่ปี 2505 เพื่อหวังกินพื้นที่ดินแดนไทย
เหตุที่นายอภิสิทธิ์ต้องทำหน้ามึนยึดข้อตกลงใน MOU43 ต่อไปทั้งที่มีหลายฝ่ายออกมาคัดค้านอย่างต่อเนื่อง ก็เพราะบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นในสมัยที่นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี
โดย
มี
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร
เป็น ผู้ ลงนาม ดังนั้นการที่จะประกาศยกเลิก MOU43 ก็เท่ากับยอมรับความผิดพลาดของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้นายกรัฐมนตรีดีกรีออกซฟอร์ดอย่างอภิสิทธิ์ถึงกับทำทุกทางที่จะรักษา MOU43 เอาไว้เพื่อปกป้องพรรคประชาธิปัตย์ที่เขาสังกัดอยู่
ตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนายอภิสิทธิ์ก็ได้พร่ำยืนยันว่า MOU43 ไม่ทำให้ไทยเสียดินแดน ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วการปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจดังกล่าวทำให้ทหารไทย ไม่สามารถรักษาอธิปไตยในพื้นที่รอบ
ปราสาทพระวิหาร
เพราะ ไม่สามารถเข้าไปใน พื้นที่ดังกล่าวได้ ขณะที่กัมพูชากลับส่งกองกำลังทหารพร้อมอาวุธหนักเข้ามาตั้งฐานทัพอยู่ใน พื้นที่ อีกทั้งทำให้คนไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาไม่สามารถเข้าไปในที่ดินของตนเอง ได้เนื่องจากถูกทหารเขมรขับไล่และเข้ามายึดพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
จะเห็นว่า2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติแต่อย่างใด ไม่เคยดำเนินการคัดค้านหรือสั่งให้มีการผลักดันทหารและชาวบ้านกัมพูชาที่ รุกล้ำเข้ามาตั้งฐานทัพและหมู่บ้านในผืนแผนดินไทย ทั้งบริเวณรอบ
ปราสาทพระวิหาร
และ แนวชายแดนไทยที่ติดกับกัมพูชา ปล่อยให้ทหารกัมพูชาเข้ามายึดที่นาของคนไทย ทั้งที่เป็นที่ดินที่มีโฉนดถูกต้องตามกฎหมาย นายอภิสิทธิ์ยืนยันว่าต้องรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้วยการไม่ใช้ความรุนแรงกับกัมพูชาทั้งๆ ที่ทหารเขมรเป็นฝ่ายยิงถล่มทหารไทยก่อนทุกครั้ง ก่อนที่จะเกิดการปะทะ
ซ้ำร้ายยังปล่อยให้กัมพูชาเหิมเกริมเข้ามาจับ 7 คนไทยถึงในแผ่นดินเกิด และนำตัวไปดำเนินคดีที่กรุงพนมเปญ
โดย
ที่รัฐบาลไทยไม่เคยคิดจะช่วยเหลือ ส่งผลให้
นายวีระ สมความคิด
แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และ
น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์
ต้องถูกคุมขังอยู่ในคุกเขมรจนถึงทุกวันนี้
น่าแปลกที่นายอภิสิทธิ์นั้นมีท่าทีโอนอ่อนยอมศิโรราบต่อกัมพูชา เรื่อยมา และทุกครั้งที่ต้องมีการเจรจาเรื่อง
ปราสาทพระวิหาร
ใน เวทีโลกรัฐมนตรีของ รัฐบาลชุดนี้ก็ดูจะยอมเป็นลูกไล่และไม่เคยทันเกมกัมพูชาเลยสักครั้ง รัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่เคยชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้นานาชาติได้รับรู้ ปล่อยให้กัมพูชาโจมตีกล่าวหาไทยอยู่ฝ่ายเดียว
'ความผิดปกติ' ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ทำให้หลายฝ่ายอดตั้งข้อสงสัยไม่ได้ว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์อาจจะคิด 'สวมตอ' หวังได้ผลประโยชน์ในธุรกิจพลังงานในอ่าวไทยด้านที่ติดกับกัมพูชาเหมือนที่สม เด็จฮุน เซน เคยทำข้อตกลงไว้กับทักษิณ ชินวัตร เพราะมีข่าวว่ากลุ่มทุนในรัฐบาลชุดนี้ก็เตรียมที่จะเข้าไปลงทุนในพื้นที่ดัง กล่าวเช่นกัน
ดังนั้น คงไม่เกินไปที่จะกล่าวว่า 'นายอภิสิทธิ์' มิได้มีพฤติกรรมที่ต่างจาก “นายนพดล” เลยแม้แต่น้อย
1 ความคิดเห็น:
ไม่ระบุชื่อ
30 กรกฎาคม 2554 เวลา 20:20
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบ
ลบ
คำตอบ
ตอบ
เพิ่มความคิดเห็น
โหลดเพิ่มเติม...
บทความใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค
บทความย้อนหลัง
►
2013
(7)
►
เมษายน
(5)
►
17 เม.ย.
(1)
►
15 เม.ย.
(3)
►
14 เม.ย.
(1)
►
มีนาคม
(2)
►
24 มี.ค.
(1)
►
11 มี.ค.
(1)
►
2012
(22)
►
กรกฎาคม
(2)
►
10 ก.ค.
(1)
►
01 ก.ค.
(1)
►
มีนาคม
(4)
►
27 มี.ค.
(1)
►
14 มี.ค.
(1)
►
05 มี.ค.
(1)
►
04 มี.ค.
(1)
►
กุมภาพันธ์
(5)
►
28 ก.พ.
(1)
►
26 ก.พ.
(1)
►
17 ก.พ.
(1)
►
13 ก.พ.
(1)
►
07 ก.พ.
(1)
►
มกราคม
(11)
►
27 ม.ค.
(1)
►
26 ม.ค.
(1)
►
24 ม.ค.
(1)
►
18 ม.ค.
(1)
►
15 ม.ค.
(1)
►
09 ม.ค.
(1)
►
08 ม.ค.
(1)
►
07 ม.ค.
(1)
►
06 ม.ค.
(1)
►
05 ม.ค.
(1)
►
04 ม.ค.
(1)
▼
2011
(568)
►
ธันวาคม
(8)
►
30 ธ.ค.
(1)
►
24 ธ.ค.
(1)
►
23 ธ.ค.
(1)
►
22 ธ.ค.
(1)
►
21 ธ.ค.
(1)
►
16 ธ.ค.
(1)
►
05 ธ.ค.
(1)
►
02 ธ.ค.
(1)
►
พฤศจิกายน
(6)
►
30 พ.ย.
(1)
►
25 พ.ย.
(1)
►
22 พ.ย.
(2)
►
17 พ.ย.
(1)
►
15 พ.ย.
(1)
►
ตุลาคม
(18)
►
31 ต.ค.
(1)
►
27 ต.ค.
(1)
►
19 ต.ค.
(2)
►
13 ต.ค.
(1)
►
11 ต.ค.
(2)
►
09 ต.ค.
(1)
►
08 ต.ค.
(1)
►
07 ต.ค.
(3)
►
05 ต.ค.
(1)
►
04 ต.ค.
(2)
►
02 ต.ค.
(1)
►
01 ต.ค.
(2)
►
กันยายน
(36)
►
29 ก.ย.
(1)
►
27 ก.ย.
(2)
►
25 ก.ย.
(2)
►
24 ก.ย.
(2)
►
21 ก.ย.
(2)
►
19 ก.ย.
(2)
►
18 ก.ย.
(2)
►
17 ก.ย.
(4)
►
16 ก.ย.
(1)
►
14 ก.ย.
(4)
►
12 ก.ย.
(2)
►
11 ก.ย.
(2)
►
10 ก.ย.
(3)
►
08 ก.ย.
(1)
►
07 ก.ย.
(1)
►
06 ก.ย.
(3)
►
05 ก.ย.
(2)
►
สิงหาคม
(46)
►
31 ส.ค.
(3)
►
27 ส.ค.
(1)
►
26 ส.ค.
(3)
►
25 ส.ค.
(1)
►
24 ส.ค.
(2)
►
23 ส.ค.
(4)
►
22 ส.ค.
(1)
►
20 ส.ค.
(2)
►
19 ส.ค.
(2)
►
18 ส.ค.
(2)
►
16 ส.ค.
(1)
►
15 ส.ค.
(5)
►
14 ส.ค.
(4)
►
12 ส.ค.
(3)
►
11 ส.ค.
(1)
►
10 ส.ค.
(1)
►
09 ส.ค.
(2)
►
08 ส.ค.
(3)
►
07 ส.ค.
(2)
►
04 ส.ค.
(1)
►
03 ส.ค.
(1)
►
02 ส.ค.
(1)
▼
กรกฎาคม
(56)
►
31 ก.ค.
(2)
▼
30 ก.ค.
(3)
ฮวยเซงเผยดำเนิน ๔ มาตรการ-ย้ำรัฐบาลปูแดงไม่โจมตีเขมร
ปราสาทพระวิหาร 'อภิสิทธิ์' vs 'นพดล' และคนขายชาติ
36 เขมรแหกตาถอนกำลังพ้น เขาวิหาร - แฉเปลี่ยนชุดทหา...
►
29 ก.ค.
(1)
►
28 ก.ค.
(2)
►
26 ก.ค.
(2)
►
25 ก.ค.
(1)
►
23 ก.ค.
(2)
►
22 ก.ค.
(1)
►
20 ก.ค.
(3)
►
19 ก.ค.
(9)
►
18 ก.ค.
(2)
►
17 ก.ค.
(1)
►
16 ก.ค.
(4)
►
15 ก.ค.
(3)
►
14 ก.ค.
(4)
►
13 ก.ค.
(1)
►
12 ก.ค.
(2)
►
11 ก.ค.
(3)
►
09 ก.ค.
(1)
►
08 ก.ค.
(1)
►
06 ก.ค.
(1)
►
04 ก.ค.
(2)
►
03 ก.ค.
(2)
►
02 ก.ค.
(2)
►
01 ก.ค.
(1)
►
มิถุนายน
(115)
►
30 มิ.ย.
(3)
►
29 มิ.ย.
(3)
►
28 มิ.ย.
(6)
►
27 มิ.ย.
(4)
►
26 มิ.ย.
(6)
►
25 มิ.ย.
(6)
►
24 มิ.ย.
(6)
►
23 มิ.ย.
(1)
►
22 มิ.ย.
(9)
►
21 มิ.ย.
(6)
►
20 มิ.ย.
(5)
►
18 มิ.ย.
(4)
►
17 มิ.ย.
(2)
►
16 มิ.ย.
(3)
►
15 มิ.ย.
(5)
►
14 มิ.ย.
(2)
►
13 มิ.ย.
(2)
►
12 มิ.ย.
(1)
►
11 มิ.ย.
(1)
►
10 มิ.ย.
(5)
►
09 มิ.ย.
(4)
►
08 มิ.ย.
(2)
►
07 มิ.ย.
(3)
►
06 มิ.ย.
(3)
►
05 มิ.ย.
(2)
►
04 มิ.ย.
(8)
►
03 มิ.ย.
(1)
►
02 มิ.ย.
(6)
►
01 มิ.ย.
(6)
►
พฤษภาคม
(131)
►
31 พ.ค.
(4)
►
30 พ.ค.
(7)
►
29 พ.ค.
(3)
►
28 พ.ค.
(4)
►
27 พ.ค.
(3)
►
26 พ.ค.
(8)
►
25 พ.ค.
(5)
►
24 พ.ค.
(5)
►
23 พ.ค.
(5)
►
22 พ.ค.
(6)
►
21 พ.ค.
(5)
►
20 พ.ค.
(3)
►
19 พ.ค.
(4)
►
18 พ.ค.
(9)
►
17 พ.ค.
(1)
►
15 พ.ค.
(3)
►
13 พ.ค.
(2)
►
12 พ.ค.
(1)
►
11 พ.ค.
(3)
►
10 พ.ค.
(5)
►
09 พ.ค.
(4)
►
08 พ.ค.
(9)
►
07 พ.ค.
(7)
►
06 พ.ค.
(3)
►
05 พ.ค.
(2)
►
04 พ.ค.
(6)
►
03 พ.ค.
(5)
►
02 พ.ค.
(6)
►
01 พ.ค.
(3)
►
เมษายน
(71)
►
30 เม.ย.
(11)
►
29 เม.ย.
(2)
►
28 เม.ย.
(5)
►
27 เม.ย.
(2)
►
26 เม.ย.
(1)
►
25 เม.ย.
(2)
►
24 เม.ย.
(2)
►
23 เม.ย.
(1)
►
20 เม.ย.
(1)
►
18 เม.ย.
(7)
►
17 เม.ย.
(1)
►
15 เม.ย.
(1)
►
14 เม.ย.
(1)
►
13 เม.ย.
(8)
►
12 เม.ย.
(1)
►
11 เม.ย.
(2)
►
09 เม.ย.
(10)
►
08 เม.ย.
(5)
►
04 เม.ย.
(1)
►
03 เม.ย.
(3)
►
02 เม.ย.
(4)
►
มีนาคม
(81)
►
30 มี.ค.
(4)
►
29 มี.ค.
(2)
►
28 มี.ค.
(1)
►
27 มี.ค.
(1)
►
26 มี.ค.
(1)
►
25 มี.ค.
(1)
►
24 มี.ค.
(4)
►
23 มี.ค.
(32)
►
19 มี.ค.
(1)
►
17 มี.ค.
(2)
►
13 มี.ค.
(1)
►
12 มี.ค.
(3)
►
11 มี.ค.
(5)
►
10 มี.ค.
(3)
►
09 มี.ค.
(1)
►
07 มี.ค.
(7)
►
06 มี.ค.
(4)
►
04 มี.ค.
(4)
►
03 มี.ค.
(4)
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบลบ