วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ระเบิดเหนือท้องฟ้าจ.พระวิหาร-สงสัยเครื่องบินสอดแนมไทย
โพสต์เมื่อ 16 สิงหาคม 2011 -
ฟิฟทีนมูฟ — แหล่งข่าวรายงานมีเสียงระเบิดในพื้นที่ จ.พระวิหาร ช่วงเช้าตรู่ ได้ยินไกลถึงในเขตไทย ขณะสื่อเขมรรายงายมีเสียงระเบิดในท้องฟ้า จ. พระวิหาร และมีเศษชิ้นส่วนโลหะ ตกลงใน ๔ พื้นที่ ของ อ.กูเลน เจ้าหน้าที่สันนิษฐานเป็นเครื่องบินสอดแนมชนิดไม่มีคนขับ เผยเก็บวัตถุหลักฐานส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ และเตรียมส่งเป็นหลักฐานไปศาลโลก
แหล่งข่าวในพื้นที่ใกล้ปราสาทพระวิหารของฟิฟทีนมูฟแจ้งข่าวว่า เมื่อเวลา ๖.๑๐ น. เช้าวันนี้ มีเสียงคล้ายเสียงระเบิดดังสนั่น ๓ ครั้ง ติดกัน และมีคลื่นเสียงกระแทกตามมารับฟังได้ที่บึงมะลู ห่างจากพระวิหารทางตรงประมาณ ๑๕-๒๐ ก.ม. เมื่อสอบถามข้อมูลไปยังผามออีแดงและภูมะเขือ ได้รับแจ้งว่าได้ยินเสียงดังกล่าวเช่นกัน แต่ไม่มีเหตุการณ์ยิงหรือปะทะแต่อย่างใด คาดการณ์ว่าเป็นเสียงที่มาจากฝั่งกัมพูชา แต่ไม่สามารถตรวจสอบสังเกตการณ์เนื่องจากหมอกลงจัดทำให้วิสัยทัศน์แย่มาก แหล่งข่าวให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ไม่น่าจะใช่การทำลายระเบิดขององค์การซีมัค (CMAC) ของกัมพูชา ซึ่งมีสถานที่ทำลายระเบิดอยู่ไม่ห่างพื้นที่ของหมู่บ้านสมเด็จเดโชฯ อ.จวมกสาน มากนัก เนื่องจากทุกครั้งที่จะมีการทำลายระเบิดจะแจ้งให้ฝ่ายไทยรับทราบล่วงหน้าทุกครั้ง และครั้งนี้เป็นการระเบิดในช่วงเช้าตรู่ซึ่งไม่ใช่เวลาทำการ
เมื่อตรวจสอบไปยังแหล่งข่าวฝั่งกัมพูชา พบว่ามีรายงานเสียงดังนี้เช่นกัน โดยสำนักข่าวซีอีเอ็น (๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๔) รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ ๖.๐๐ น. มีเสียงระเบิดเหนืออากาศดังติดต่อกันเป็นเวลา ๑๐ นาที เสียงดังสนั่นหวั่นไหวในท้องฟ้าเหนือที่ชุมชนใน อ.กูเลน1 จ.พระวิหาร ทำให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และผู้ที่อยู่อาศัยใน จ.เสียมราฐ มีความตื่นตกใจกลัวเป็นอย่างมาก
สื่อกัมพูชารายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ พ.อ. (พิเศษ) มึว เปา2 ผู้บัญชาการตำรวจ จ.พระวิหาร ระบุว่า การระเบิดเหนืออากาศดังติดต่อกันเป็นเวลา ๑๐ นาที ซึ่งตนสงสัยว่าเป็นยานวิทยาศาสตร์3 ชนิดหนึ่ง4 การระเบิดดังกล่าวมีเสียงดังมาก เทียบได้กับปืนใหญ่ขนาด ๑๒ นิ้ว หลังเสียงระเบิดมีเศษชิ้นส่วนตกลงมาในสองตำบล คือ ต.กูเลนเจิง5 และ ต.กูเลนตบูง6 อ.กูเลน (ลิ้นจี๋) เศษชิ้นส่วนโลหะที่ตกลงมาชาวบ้านสงสัยว่าเป็นชิ้นส่วนจากการระเบิดของยานวิทยาศาสตร์ ชิ้นใหญ่เป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมขนาด ๑ เมตร มีเศษชิ้นขนาดเล็ก ๆ ยาวถึง ๖ เมตร อีกด้วย ตกกระจัดกระจายในพื้นที่ถึง ๑ ตารางกิโลเมตร
พ.อ. (พิเศษ) มึว เปา ระบุอีกว่าเสียงระเบิดดังกล่าวได้ยินไปไกลถึง ๖๐-๗๐ กิโลเมตร ตนสันนิษฐานว่าเป็นการระเบิดของยานวิทยาศาสตร์หรือเครื่องบินสอดแนม และจะทำรายงานแจ้งกรณีการระเบิดนี้ไปยังระดับบนต่อไป
ส่วน นายโวน เกีย7 รองนายอำเภอซวายเลอ8 จ.เสียมราฐ ซึ่งอยู่ติดกับ จ. พระวิหาร ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ ๖.๐๐ น. ตนได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้องมาถึง อ.ซวายเลอ ทำให้ประชาชนพากันตื่นกลัวเป็นอย่างมาก บางส่วนพากันไปเก็บเศษชิ้นส่วนที่ตกลงมาอีกด้วย
ขณะที่หนังสือพิมพ์เกาะสันติภาพ วันเดียวกัน รายงานว่ามีเสียงระเบิดดังกึกก้องในอากาศได้ยินไกลถึงตัวจังหวัดพระวิหาร ประชาชนพากันวิพากษ์วิจารณ์และกลัวว่าทหารไทยยิงระเบิดร้ายแรงเข้ามาในดินแดนกัมพูชา และเจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นเสียงระเบิดของอะไร ผู้บัญชาการทหารกัมพูชาประจำพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่จังหวัด โดยได้รับการตอบรับว่าได้ยินเสียงระเบิดและสอบถามกลับว่ามีเหตุที่ปราสาทฯ หรือไม่ ซึ่งเกรงว่าทหารไทยจะยิงระเบิดเข้ามายังเขตกัมพูชา และได้ข้อสรุปในตอนท้ายว่าเสียงดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเหนือตัวเมือง จ.พระวิหาร
สื่อฉบับดังกล่าวรายงานต่อว่าได้มีการค้นหาเศษชิ้นส่วนจากการระเบิด ซึ่งตกในพื้นที่ ๔ จุด ของ ต.กูเลนเจิง และ ต.กูเลนตบูง แต่ละชิ้นเป็นโลหะสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ ๑ เมตร เจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่าเป็นชิ้นส่วนของระเบิดชนิดใด หรืออาจเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินชนิดไม่มีมนุษย์ควบคุมของประเทศหนึ่งประเทศใด ถูกส่งเข้ามาบินสอดแนมเหนือน่านฟ้ากัมพูชา แล้วเกิดการระเบิดดังกล่าว รายงานระบุว่าไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
รายงานเพิ่มเติมของศูนย์ข่าวต้นมะขาม (เดิมอัมปึล) เมื่อช่วงเที่ยง อ้างการเปิดเผยล่าสุดของ พ.อ. (พิเศษ) มึว เปา ที่ระบุว่าได้ส่งเจ้าหน้าตำรวจ จ.พระวิหาร ที่ไปยังที่เกิดเหตุในสองตำบลเพื่อค้นหาข้อเท็จจริง โดยในเบื้องต้นตนสันนิษฐานว่าเป็นเครื่องบินสอดแนมชนิดไม่มีคนขับ เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวมรวมเศษชิ้นส่วนอะลูมิเนียมหนา ๒-๓ หุน ยาวประมาณ ๒ เมตร กว่า ๑๐ ชิ้น และพบกล้องดำที่มีสายไฟขาดวิ่นพันรอบ กล่องแบตเตอรรี่ชนิดแห้ง กล่องที่ด้านหน้าเป็นรูปกรวย และท่อกรวยปลายแหลมยาว ๑ เมตร พ.อ. (พิเศษ) มึว เปา ระบุว่าตนจะส่งวัตถุทั้งหมดไปให้คณะทำงานพิเศษระดับชาติและผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบ และจะถูกใช้เป็นวัตถุพยานสำหรับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กรุงเฮก
ศูนย์ข่าวต้นมะขามรายงานต่อว่า เครื่องบินสอดแนมชนิดไม่มีคนขับลักษณะนี้ ได้บินเข้าไปในดินแดนกัมพูชามาแล้ว ๓ ครั้ง รวมทั้งในจังหวัดกำโปต แต่เป็นครั้งแรกที่บินเข้าไปแล้วเกิดระเบิดตกลงในเขตกัมพูชา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น