บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

โฆษกเลี้ยงแกะออกโรงอีก ป้ายสีซ้ำไทยยิงถล่มปราสาทพระวิหาร ศาลโลกเริ่มไต่สวน

โฆษกเลี้ยงแกะออกโรงอีก ป้ายสีซ้ำไทยยิงถล่มปราสาทพระวิหาร ศาลโลกเริ่มไต่สวน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  30 พฤษภาคม 2554 11:07 น.


ทหาร ไทยให้สัญญาณและ "แพ็ตตั้น" เร่งเครื่องจนควันโขมง ส่งเสียงคำรามประกาศอาณาเขตที่บริเวณชายแดนด้านปราสาทพระวิหารวันที่ 9 ก.พ. ขณะที่กัมพูชาพยายามปั่นสถานการณ์ให้การปะทะบริเวณชายแดนกลายเป็น "สงคราม" ในสายตาของชาวโลก และเรียกร้องให้ยูเอ็นส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปประจำ ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่าหากไทยตั้งใจจะยิงทำลาย ด้วยรถถังคันนี้ก็สามารถทำให้ปราสาทอายุ 1,000 ปีพังทะลายราบได้ กัมพูชากำลังออกโรงโกหกชาวโลกอีกรอบ ขณะศาลโลกเริ่มไต่สวนเพื่อคุ้มครองปราสาทมรดกโลกเร่งด่วนตามคำขอ. -- REUTERS/Sukree Sukplang.
      
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กองงานโฆษกรัฐบาลกัมพูชาเริ่มการโฆษณาชวนเชื่ออีกครั้งหนึ่ง โดยกล่าวหาซ้ำๆ ว่าไทยตั้งใจยิ่งถล่มปราสาทพระวิหารในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ปราสาทได้รับความเสียหาย และยังตอบโต้การให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งย้ำอีกครั้งเช่นกันว่า ทหารไทยไม่ได้กระทำเช่นนั้น
      
      
      
       การรณรงค์ของโฆษกกัมพูชาครั้งใหม่ยังมีขึ้นขณะที่ศาลระหว่างประเทศ ได้เปิดการไต่สวนตามคำร้องของกัมพูชาที่ขอให้มีคำสั่งคุ้มครองปราสาทเก่าแก่
      
       กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยยิงถล่มปราสาทพระวิหารด้วยปืนใหญ่และปืนครกกว่า 400 นัด และ ได้นำคณะทูตานุทูตขึ้นไปดูความเสียหาย ซึ่งบริเวณบันไดนาคทางขึ้นกับบริเวณโคปะรุชั้นนอก ที่ปรากฏเป็นรอยกะเทาะในบางจุด โดยอาจจะเกิดจากวัตถุเคลื่อนที่เร็ว เช่น สะเก็ดระเบิด หรือสะเก็ดจากกระสุนปืนชนิดต่างๆ
      
       นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซนแถลงในช่วงเดียวกันว่า ปราสาทได้พังลงไปส่วนหนึ่ง ซึ่งทราบกันในเวลาต่อมาว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างไร
      
       “ผู้นำในรัฐบาลของไทยจะต้องตระหนักว่าทั้งโลกมีความทรงจำที่ดี ในต้นเดือนมีนาคม 2554 รัฐบาลไทยได้คัดค้านอย่างแข็งขันเมื่อกัมพูชาจัดคณะทูตทหารจาก 12 ประเทศไปดูด้วยตาของตัวเองความเสียหายต่างๆ ที่เกิดจากกระสุนปืนใหญ่ปืนครกของไทยกว่า 400 นัด รวมทั้งกระสุนลูกหว่านที่ยิงขึ้นไประหว่างวันที่ 4-7 กุมภาพันธ์”
      
       สำนักตอบโต้เร็ว กองโฆษกรัฐบาลระบุดังกล่าว ในบทความเห็นลงวันที่ 27 พ.ค. 2554 ที่เผยแพร่ผ่านสำนักข่าวกัมพูชา
      
       แต่ฝ่ายทหารของไทยกล่าวว่า ทหารพูชาใช้ปราสาทพระวิหารเป็นที่หลบ และใช้เป็นที่ตั้งอาวุธหนักยิงเข้าใส่ฝ่ายไทย ทำให้ต้องยิงตอบโต้ตามหลักปฏิบัติทั่วไป “ยิงจากจุดใด ยิงสวนไปที่จุดนั้น” และเวลาต่อมาฝ่ายไทยได้จัดคณะทูตานุทูตไปดูความเสียหายที่ไทยได้รับจากการ ยิงโดยไม่จำแนกเป้าหมายของฝ่ายกัมพูชาที่ชายแดนด้านนั้น
      
       หลายฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ถ้าหากฝ่ายไทยยิงอย่างตั้งใจเพื่อทำลายปราสาทมรดกโลกด้วยกระสุนปืนใหญ่กับ ปืนครกจำนวนกว่า 400 นัด ตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวหา ปราสาทหินเก่าแก่อายุ 1,000 ปี ก็น่าจะทลายราบลงไม่มีชิ้นดี เพราะเป็นเป้าหมายที่โดดเด่นและอยู่ในรัศมีการยิง แม้กระทั่งยิงด้วยปืนจากรถถังเพียงไม่กี่นัด
      

       
โกหกแบบเดิมๆ


ทหาร กัมพูชาจัดเรียงกระสุนปืนกลหนักที่ปราสาทพระวิหาร ภาพวันที่ 5 ก.พ.2554 ขณะการปะทะชายแดนด้านนี้กำลังระอุร้อน และ โฆษกพยายามโกหกชาวโลกว่าที่ปราสาทไม่มีทหารและไม่มีอาวุธ มีเพียงตำรวจถืออาวุธเบารักษาความสงบ ภาพเหล่านี้ทำให้การโกหกของกัมพูชาไร้น้ำหนัก แต่อาจจะได้ผลกับกลุ่มอื่นๆ ที่อยู่ไกลออกไปและไม่มีข้อมูลเพียงพอ ขณะที่ศาลระหว่างประเทศกำลังพิจารณาการคุ้มครองปราสาทเร่งด่วนตามที่กัมพูชา ร้องขอ. -- REUTERS/Pheara.
       
2


ภาพ เก่านำมาเล่าใหม่ ทหารกัมพูชาขนกระสุนปืนใหญ่จากรถปิ๊กอัพที่ปราสาทพระวิหารวันที่ 8 ก.พ.2554 ขณะการปะทะที่ชายแดนด้านนั้นดำเนินมาหลายวัน ฝ่ายกัมพูชาออกโฆษณาชวนเชื่อว่าไม่มีทหารและอาวุธที่ปราสาท มีเพียงตำรวจติดอาวุธเบารักษาความ กัมพูชากำลังรณรงค์อีกรอบเพื่อป้ายสีไทย ขณะที่ศาลโลกเริ่มพิจารณาไต่สวนคุ้มครองปราสาทมรดกโลกตามคำร้องขอ. -- REUTERS/Damir Sagolj.
       
3


ภาพ วันที่ 8 ก.พ.2554 ทหารกัมพูชาตั้งบังเกอร์บนปราสาทพระวิหารยิงสู้กับฝ่ายไทย ขณะโฆษณาชวนเชื่อว่าไม่มีทหารในบริเวณปราสาท ทั้งป้ายสีอีกว่าไทยยิงถล่มกกว่า 400 นัด ทำให้ปราสาทมรดกโลกเสียหายหนัก นายกฯ ฮุนเซนโกหกเองถึงขนาดว่า "ปราสาทพังไปปีกหนึ่ง" โฆษกกัมพูชากำลังรณรงค์โกหกอีกครั้ง ขณะศาลโลกเปิดไต่สวนเพื่อคุ้มครองปราสาทมรดกโลกตามที่เขมรร้องขอ. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy.
       
4

       แต่โฆษกรัฐบาลกัมพูชาได้บิดเบือนเรื่องนี้ไม่หยุดโดยมีเจตนาสร้าง ความไขว้เขวให้แก่ฝ่ายต่างๆ ที่อยู่ไกลจากเหตุการณ์และไร้ข้อมูลเพียงพอ
      
       ภาพจากสำนักข่าวเอเอฟพี และรอยเตอร์ รวมทั้งสำนักข่าวต่างประเทศอื่นๆ ล้วนแสดงให้เห็นทหารกัมพูชาจำนวนมากหลบพักพิงอยู่ภายในโคปะรุชั้นต่างๆ รวมทั้งในพระวิหารชั้นในสุดด้วย
      
       นอกจากนั้น หลายภาพยังแสดงให้เห็นทหารเขมรขนกระสุนปืนใหญ่ และติดตั้งปืนกลหนักอยู่ภายในปราสาทแห่งนี้ ผู้สื่อข่าวของเอพีระบุอย่างชัดเจนว่ามีทหารกัมพูชา 200-300 นายอยู่ในปราสาทพระวิหารในช่วงที่เกิดการปะทะ
      
       ฝ่ายกัมพูชาออกรณรงค์เรื่องนี้อย่างหนักในเดือน ก.พ.-มี.ค. ในความพยามทำให้สถานการณ์ปะทะที่ชายแดนมีความรุนแรงใหญ่โตถึงขั้นสงคราม ขณะเดียวกันก็ออกเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติส่งกองกำลัง รักษาสันติภาพเข้าประจำชายแดนสองประเทศ ซึ่งกัมพูชาไม่ประสบความสำเร็จ
      
       โฆษกกัมพูชารณรงค์เรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งในขณะที่ศาลระหว่างประเทศ เริ่มเปิดการไต่สวนในวันที่จันทร์ 30 พ.ค.ศกนี้ ตามคำร้องของกัมพูชาที่ขอให้มีคำสั่งเร่งด่วนปกป้องคุ้มครองปราสาทพระวิหาร
      
       การปะทะที่ชายแดนด้านปราสาทตาเมือน-ตาควายซึ่งอยู่ห่างจากพระวิหาร ออกไปกว่า 100 กม.ทางทิศตะวันตก ปะทุขึ้นในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะนายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาเดินทางไปยังกรุงเฮก ยื่นคำร้องต่อศาลโลกขอให้ตีความคำพิพากษาปี 2505 ที่ยกปราสาทให้เป็นของฝ่ายเขมรขณะที่สองฝ่ายยังกล่าวอ้างสิทธิเหนือดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตรโดยรอบ
      
       พร้อมกันนี้กัมพูชาได้ยื่นคำพร้องให้ศาลโลกมีคำสั่งปกป้องคุ้มครอง ปราสาทที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในเดือน ก.ค.2551 เป็นการเร่งด่วนโดยอ้างว่าฝ่ายไทยก้าวร้าวรุกรานต่อกัมพูชาตลอดมาและยังยิง ทำลายปราสาทให้ได้รับความเสียหายอีกด้วย.
      
       
ยิงจากทิศไหนสวนกลับไปทางนั้น


ภาพ วันที่ 8 ก.พ.2554 ทหารกัมพูชาเดินผ่านซากสิ่งปลูกสร้างที่เคยเป็นเพิ่งพักในบริเวณปราสาทพระ วิหาร ซึ่งถูกฝ่ายไทยยิงถล่มราบ กัมพูชากล่าวหาว่าไทยเจตนายิงถล่มปราสาทพระวิหารกว่า 400 นัดด้วยปืนใหญ่และปืนครก ทำให้ปราสาทเสียหายหนัก โฆษกกัมพูชากำลังออกโรงโกหกอีกขณะศาลโลกเริ่มไต่สวนเพิ่อคุ้มทครองปราสาท มรดกโลกตามที่กัมพูชาร้องขอ. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy.
       
5


ช่าง ภาพกัมพูชาถ่ายรูปรอยแตกบนเสาหินทางเข้าโคปุระแห่งหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการตกกระทบของวัตถุเคลื่อนที่เร็ว อาจจะเป็นสะเก็ดจากกระสุนปืนใหญ่ ปืน ค.หรือสะเก็ดระเบิดทั่วไป "ยิงมาจากไหนยิงกลับไปที่นั่น" เป็นหลักปฏิบัติการทั่วไปในการยิงตอบโต้ แต่กัมพูชาโกหกว่าไม่ทหารที่ปราสาททั้งป้ายสีว่าไทยตั้งใจยิงถล่มทำให้ ปราสาทมรดกโลกเสียหายหนัก. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy.
       
6


ทหาร กัมพูชาชี้ให้ดูรอยแตกบนเชิงชายทางเข้าโคปุระแห่งหนึ่ง ที่เกิดจากการตกกระทบของวัตถุเคลื่อนที่เร็ว อาจจะเป็นสะเก็ดจากกระสุนปืนใหญ่ ปืน ค.หรือสะเก็ดระเบิดทั่วไป "ยิงมาจากไหนยิงกลับไปที่นั่น" เป็นหลักปฏิบัติการทั่วไปในการยิงตอบโต้ แต่กัมพูชาโกหกว่าไม่ทหารที่ปราสาททั้งป้ายสีว่าไทยตั้งใจยิงถล่มทำให้ ปราสาทมรดกโลกเสียหายหนัก. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy.
       
7


เหนื่อย ก็พัก-- ทหารกัมพูชาพร้อม "ลูกเบ" หรือ ระเบิดอาร์พีจี B40 ใช้โคปุระแห่งหนึ่งของปราสาทพระวิหาร เป็นที่หลบพัก ในเหตุการณ์ปะทะที่ชายแดนวันที่ 8 ก.พ.2554 กัมพูชาโกหกว่าไม่ทหารอยู่ที่นั่น ทั้งป้ายสีว่าไทยตั้งใจยิงถล่มทำให้ปราสาทมรดกโลกเสียหายหนัก. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy.
       
8


เหนื่อย ก็พัก-- ทหารกัมพูชากลุ่มใหญ่อาศัยโคปุระแห่งหนึ่งของปราสาทพระวิหารเป็นที่หลบพัก ในเหตุการณ์ปะทะที่ชายแดนวันที่ 8 ก.พ.2554 กัมพูชาโกหกว่าไม่ทหารอยู่ที่นั่น ทั้งป้ายสีว่าไทยตั้งใจยิงถล่มทำให้ปราสาทมรดกโลกเสียหายหนัก. -- AFP PHOTO/Tang Chhin Sothy.
       
9


ภาพ วันที่ 5 ก.พ.2554 เป็นซากเศษเหลือซึ่งเข้าใจว่าจะเป็นกระสุนปืนครกจากการยิงของฝ่ายไทยที่ บริเวณปราสาทพระวิหารขณะการปะทะเริ่มรุนแรง กัมพูชาโกหกชาวโลกว่าไม่มีทหารที่นั่น และป้ายสีว่าไทยมีเจตนายิงถล่มปราสาทมรดกโลกด้วยปืนใหญ่และปืน ค.กว่า 400 นัด โฆษกกัมพูชาออกรณรงค์โกหกอีกรอบ ขณะศาลโลกเปิดไต่สวนในสัปดาหนี้เพื่อคุ้มครองเร่งด่วนปราสาทตามที่กัมพูชา ร้องขอ. -- AFP PHOTO.
       
10


ภาพ วันที่ 6 ก.พ.2554 ทหารกัมพูชาจัดเตรียมปืนไร้แรงสะท้อนในที่ตั้งมั่นใกล้ปราสาทพระวิหารเพื่อ ยิงเข้าใส่ฝ่ายไทย สิ่งปลูกสร้างที่มองเห็นอยู่เบื้องหลังเข้าใจว่าจะเป็นบริเวณวัดแก้วสิขา คีรีสวาระ ฝ่ายกัมพูชาออกโฆษณาชวนเชื่อว่าไม่มีทหารตั้งอยู่ที่บริเวณวัด แต่วัดได้รับความเสียหายจากการยิงถล่มของฝ่ายไทย ขณะที่ฝ่ายไทยกล่าวว่ายิงมาจากทิศใด-ยิงสวนกลับไปตามทางนั้นตามวิธีปฏิบัติ. -- REUTERS/Pheara.
       
11


ทหาร กัมพูชาเตรียมจรวด BM21 ไว้ที่ชายแดนปราสาทพระวิหารวันที่ 7 ก.พ.2554 ขณะการปะทะเริ่มรุนแรง และรัฐบาลฮุนเซนพยายามปั่นสถานการณ์ให้ดูเป็น "สงครามชายแดน" ในสายตาของชาวโลก จรวดหมู่ออกแบบมาเพื่อยิงทำลายทหารราบที่ชุมนุมกันในสนามรบ การยิงที่ไม่มีระบบนำวิถีทำให้คลาดเคลื่อนไม่โดนเป้าหมาย สร้างความเสียหายให้เป้าหมายทางพลเรือนบ่อยๆ. -- AFP PHOTO

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง