โดยวีรพัฒน์ ปริยวงศ์เมื่อ 1 มิถุนายน 2011 เวลา 21:49 น.
“หมาป่าตัวร้าย-ลูกแกะตัวน้อย” วาทะไทย-กัมพูชา ณ ศาลโลก
วีรพัฒน์ ปริยวงศ์
อดีต นักกฎหมายในคดีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ สำนักกฎหมาย Freshfields Bruckhaus Deringer (กรุงปารีส). นิติศาสตรมหาบัณฑิต (รางวัลทุนฟุลไบรท์และวิทยานิพนธ์เกียรตินิยม) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด.
http://www.facebook.com/verapat.pariyawong
______________________________________________________
เมื่อ วันที่ 30 พฤษภาคม 2554 กัมพูชาและไทยได้แถลงวาจาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) เกี่ยวกับกรณีที่กัมพูชาขอให้ศาลมีมาตรการคุ้มครองชั่วคราวเกี่ยวกับปราสาท พระวิหาร ถ้อยคำบางตอน แปลสรุปได้ดังนี้
นายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา
“...ท่าน ประธานศาล ท่านผู้พิพากษาที่เคารพ เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ จะให้กัมพูชามีความหวังได้อย่างไร ในเมื่อตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฝ่ายไทยนั้นจะยอมประชุมด้วยก็เพียงเพื่อเป็นข้ออ้างที่จะผัดผ่อนประเด็นต่อ ไปเรื่อยๆ เป็นวงจรไม่รู้จบ แสดงให้เห็นถึงแผนการถ่วงเวลาและเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ของฝ่ายไทย…” (CR 2011/13 หน้า 23)
นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรไทยประจำเนเธอร์แลนด์
“…ภาพ ของลูกแกะตัวน้อยที่ถูกจับจ้องโดยเจ้าสุนัขป่าตัวร้าย ซึ่งกัมพูชาพยายามจะวาดภาพให้ศาลเห็นนั้น ล้วนเป็นเท็จ ไทยเองเมื่อสมัยศตวรรษที่ 19 ก็คุ้นเคยกับกรรมของลูกแกะตัวน้อยเป็นอย่างดี ไทยจึงหวังอย่างจริงใจว่าจะไม่มีประเทศใดรวมไปถึงกัมพูชาที่จะต้องรับชะตา กรรมลูกแกะซ้ำในสมัยศตวรรษที่ 21...” (CR 2011/14 หน้า 21)
เซอร์แฟรงคลิน เบอร์แมน ทนายความฝ่ายกัมพูชา
“…กัมพูชา ไม่แน่ใจว่า “พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร” ที่สื่อมวลชนและทางการไทยอ้างถึงนั้น หมายถึงพื้นที่ใดโดยแน่ชัด...แต่ดูเหมือนจะหมายถึงดินแดนใกล้เคียงกับตัว ปราสาทพระวิหารที่ไทยนำมาอ้างอธิปไตยภายหลังศาลมีคำพิพากษา…” (CR 2011/13 หน้า 27)
“…แน่ นอน ไทยย่อมต้องอ้างว่า การที่กัมพูชาขอให้ศาลตีความคำพิพากษานั้น กัมพูชาหวังได้สิ่งที่ถูกศาลปฏิเสธไปเมื่อครั้งที่แล้ว...แต่ไทยเองคงกลืน น้ำลายตัวเองไม่ลง เพราะไทยเองนั้นเป็นฝ่ายปลุกเสกการตีความคำพิพากษาขึ้นมาใหม่อย่าง วิปลาส...เพียงเพื่อจะผูกมัดกัมพูชาว่าเป็นผู้ตีความคำพิพากษาไปเองฝ่าย เดียว” (CR 2011/13 หน้า 35)
ศาสตราจารย์อลัง เปลเล่ต์ ทนายความฝ่ายไทย
“…วันนี้
กัมพูชาพยายามใช้วิธีอ้างว่าไทยยังคงมีหน้าที่ต้องถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออกไป
จากบริเวณใกล้เคียงตัวปราสาท
ทั้งๆที่ไทยเองก็ได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาเสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว...และ
เมื่อเช้านี้กัมพูชาก็ยอมรับต่อศาลเองว่า
ไทยกับกัมพูชาเพิ่งมามีความเห็นเกี่ยวกับคำพิพากษาไม่ตรงกันเมื่อไม่นานมา
นี้...นั่นไงครับท่านประธานศาล!
กัมพูชากำลังสารภาพว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาจนกระทั้งไม่นานมานี้
กัมพูชาก็เห็นตรงกับไทยว่าไทยได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยถอนกำลังออกไปเรียบ
ร้อยแล้ว...” (CR 2011/14 หน้า 25)
ศาสตราจารย์ฌอง-มาร์ค โซเรล ทนายความฝ่ายกัมพูชา
“…กัมพูชา หวังพึ่งศาลก็เพราะการเจรจาหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชาในระดับนายทหารนั้น เป็นเรื่องเปราะบาง...สาเหตุหนึ่งก็เพราะว่า หากไทยก้าวเข้าไปสู่สถานการณ์การเมืองภายในประเทศที่เปราะบางด้วยแล้ว ก็ไม่มีอะไรประกันว่าการเจรจาหยุดยิงจะได้รับการรับรองให้แน่นอน ดูตัวอย่างความติดขัดในอดีตได้จากการที่รัฐสภาไทยไม่ให้ความยินยอมข้อตกลง เกี่ยวกับคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมระหว่างสองประเทศเป็นต้น...ความวุ่นวายทาง การเมืองของไทยย่อมอาจนำไปสู่การปะทะกันด้วยอาวุธได้อีก...” (CR 2011/13 หน้า 45-47)
ศาสตราจารย์เจมส์ ครอว์ฟอร์ด ทนายความฝ่ายไทย
“…เวลา
เกือบ 50 ปีหลังคำพิพากษานี้ไม่ใช่เวลาน้อยๆ
แต่กัมพูชากลับขอให้ศาลมองทุกอย่างเป็นปัจจุบัน
ขอศาลให้สั่งให้ทหารไทยต้องถอนกำลังออกไปจากตัวปราสาท
ทั้งๆที่ตอนศาลมีคำพิพากษาทหารเหล่านั้นยังไม่ทันได้เกิดเสียด้วยซ้ำ...ราว
กับว่าคำพิพากษาถูกหุ้มด้วยวุ้นถนอมอาหาร
ไม่แปรเปลี่ยนข้ามทศวรรษหรือแม้ศตวรรษ หากเรายอมรับหลักการแบบนี้
แล้วระยะเวลาตีความจะไปสิ้นสุดที่จุดใด?...” (CR 2011/14 หน้า 33)
ศาสตราจารย์โดนัลด์ เอ็ม แม็คเรย์ ทนายความฝ่ายไทย
“…การ ตั้งคณะผู้สังเกตการณ์จากประเทศอินโดนีเซียและการกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจา โดยคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ย่อมทำให้ข้ออ้างเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนของมาตรการคุ้มครองชั่วคราวนั้น ฟังไม่ขึ้น...”
(CR 2011/14 หน้า 54)
______________________________________________________
ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ประชาไทและหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ที่กรุณาช่วยเผยแพร่ข้อเขียน.
______________________________________________________
หมายเหตุ
- วาทะน่าสนใจอื่นๆระหว่างไทยและกัมพูชา ณ ศาลโลกจะนำมาเสนอต่อไป ผู้สนใจสามารถติดตามได้ทาง http://www.facebook.com/verapat.pariyawong (กด like เพื่อรับข้อมูล update ใหม่)
- ข้อความแปลแบบสรุปจากเอกสารศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ Verbatim Record CR 2011/13 และ CR 2011/14 (30 พฤษภาคม 2554)
- บทวิเคราะห์คดีปราสาทพระวิหาร อ่านได้ที่ https://sites.google.com/site/verapat/temple/summary1962
- รูปภาพบรรยากาศศาลโลก ดูได้ที่ http://www.facebook.com/verapat.pariyawong (photos
วีรพัฒน์ ปริยวงศ์
อดีต นักกฎหมายในคดีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ สำนักกฎหมาย Freshfields Bruckhaus Deringer (กรุงปารีส). นิติศาสตรมหาบัณฑิต (รางวัลทุนฟุลไบรท์และวิทยานิพนธ์เกียรตินิยม) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด.
http://www.facebook.com/verapat.pariyawong
______________________________________________________
เมื่อ วันที่ 30 พฤษภาคม 2554 กัมพูชาและไทยได้แถลงวาจาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) เกี่ยวกับกรณีที่กัมพูชาขอให้ศาลมีมาตรการคุ้มครองชั่วคราวเกี่ยวกับปราสาท พระวิหาร ถ้อยคำบางตอน แปลสรุปได้ดังนี้
“...ท่าน ประธานศาล ท่านผู้พิพากษาที่เคารพ เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ จะให้กัมพูชามีความหวังได้อย่างไร ในเมื่อตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฝ่ายไทยนั้นจะยอมประชุมด้วยก็เพียงเพื่อเป็นข้ออ้างที่จะผัดผ่อนประเด็นต่อ ไปเรื่อยๆ เป็นวงจรไม่รู้จบ แสดงให้เห็นถึงแผนการถ่วงเวลาและเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ของฝ่ายไทย…” (CR 2011/13 หน้า 23)
นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรไทยประจำเนเธอร์แลนด์
“…ภาพ ของลูกแกะตัวน้อยที่ถูกจับจ้องโดยเจ้าสุนัขป่าตัวร้าย ซึ่งกัมพูชาพยายามจะวาดภาพให้ศาลเห็นนั้น ล้วนเป็นเท็จ ไทยเองเมื่อสมัยศตวรรษที่ 19 ก็คุ้นเคยกับกรรมของลูกแกะตัวน้อยเป็นอย่างดี ไทยจึงหวังอย่างจริงใจว่าจะไม่มีประเทศใดรวมไปถึงกัมพูชาที่จะต้องรับชะตา กรรมลูกแกะซ้ำในสมัยศตวรรษที่ 21...” (CR 2011/14 หน้า 21)
เซอร์แฟรงคลิน เบอร์แมน ทนายความฝ่ายกัมพูชา
“…กัมพูชา ไม่แน่ใจว่า “พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร” ที่สื่อมวลชนและทางการไทยอ้างถึงนั้น หมายถึงพื้นที่ใดโดยแน่ชัด...แต่ดูเหมือนจะหมายถึงดินแดนใกล้เคียงกับตัว ปราสาทพระวิหารที่ไทยนำมาอ้างอธิปไตยภายหลังศาลมีคำพิพากษา…” (CR 2011/13 หน้า 27)
“…แน่ นอน ไทยย่อมต้องอ้างว่า การที่กัมพูชาขอให้ศาลตีความคำพิพากษานั้น กัมพูชาหวังได้สิ่งที่ถูกศาลปฏิเสธไปเมื่อครั้งที่แล้ว...แต่ไทยเองคงกลืน น้ำลายตัวเองไม่ลง เพราะไทยเองนั้นเป็นฝ่ายปลุกเสกการตีความคำพิพากษาขึ้นมาใหม่อย่าง วิปลาส...เพียงเพื่อจะผูกมัดกัมพูชาว่าเป็นผู้ตีความคำพิพากษาไปเองฝ่าย เดียว” (CR 2011/13 หน้า 35)
ศาสตราจารย์อลัง เปลเล่ต์ ทนายความฝ่ายไทย
ศาสตราจารย์ฌอง-มาร์ค โซเรล ทนายความฝ่ายกัมพูชา
“…กัมพูชา หวังพึ่งศาลก็เพราะการเจรจาหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชาในระดับนายทหารนั้น เป็นเรื่องเปราะบาง...สาเหตุหนึ่งก็เพราะว่า หากไทยก้าวเข้าไปสู่สถานการณ์การเมืองภายในประเทศที่เปราะบางด้วยแล้ว ก็ไม่มีอะไรประกันว่าการเจรจาหยุดยิงจะได้รับการรับรองให้แน่นอน ดูตัวอย่างความติดขัดในอดีตได้จากการที่รัฐสภาไทยไม่ให้ความยินยอมข้อตกลง เกี่ยวกับคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมระหว่างสองประเทศเป็นต้น...ความวุ่นวายทาง การเมืองของไทยย่อมอาจนำไปสู่การปะทะกันด้วยอาวุธได้อีก...” (CR 2011/13 หน้า 45-47)
ศาสตราจารย์เจมส์ ครอว์ฟอร์ด ทนายความฝ่ายไทย
ศาสตราจารย์โดนัลด์ เอ็ม แม็คเรย์ ทนายความฝ่ายไทย
“…การ ตั้งคณะผู้สังเกตการณ์จากประเทศอินโดนีเซียและการกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจา โดยคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ย่อมทำให้ข้ออ้างเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนของมาตรการคุ้มครองชั่วคราวนั้น ฟังไม่ขึ้น...”
(CR 2011/14 หน้า 54)
______________________________________________________
ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ประชาไทและหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ที่กรุณาช่วยเผยแพร่ข้อเขียน.
หมายเหตุ
- วาทะน่าสนใจอื่นๆระหว่างไทยและกัมพูชา ณ ศาลโลกจะนำมาเสนอต่อไป ผู้สนใจสามารถติดตามได้ทาง http://www.facebook.com/verapat.pariyawong (กด like เพื่อรับข้อมูล update ใหม่)
- ข้อความแปลแบบสรุปจากเอกสารศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ Verbatim Record CR 2011/13 และ CR 2011/14 (30 พฤษภาคม 2554)
- บทวิเคราะห์คดีปราสาทพระวิหาร อ่านได้ที่ https://sites.google.com/site/verapat/temple/summary1962
- รูปภาพบรรยากาศศาลโลก ดูได้ที่ http://www.facebook.com/verapat.pariyawong (photos
- วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ "En particulier, nous montrerons à la Cour que le tableau du grand méchant loup qui guette le petit agneau que le Cambodge essaie de peindre est tout à fait faux. La Thaïlande a trop bien connu la situation de l’agneau pendant le XIXe siècle. C’est son souhait le plus sincère que personne, y compris le Cambodge, ne subisse le même sort au XXIe siècle." (M. Plasai, CR 2011/14, p. 21)
ขอขอบคุณพี่ วีรพัฒน์ ที่ส่งข้อมูลให้ด้วยครับ
This deѕign iѕ stеller! You сеrtаinly know hоw to keep а reaԁег amused.
ตอบลบВetωeen your wit and your videoѕ, I was almost moνed to staгt my own blοg (well, almost.
..HaHa!) Excellent jοb. I геally loved whаt you hаԁ to say, and
moгe than that, how уou рrеsented it.
Toο cool!
My blog poѕt :: credit counseling services