| ปราสาทพระวิหาร ภูมิประเทศที่ไทยตั้งชื่อเป็นหลักฐาน (ภูมิบ้าน ภูมิเมือง) | 
|  | 
|   | 
|  | 
|  จุดปันน้ำที่สับสนของศาลโลก  ประตูทางขึ้น  ปราสาทพระวิหารส่วนใน  ทางขึ้นเขาเดิมๆ  ภาพตัดเขาพระวิหาร  ทีมทนายฝ่ายไทย  เหตุการณ์ชายแดนที่ยืดเยื้อจากกรณีศาลโลกได้ตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของ
ผู่อื่นแม้ว่าสถานที่ดังกล่าวจะตั้งอยู่บนเขาที่แบ่งเขตแดนระหว่างประเทศ 
ซึ่ง เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจต่อข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นที่รู้กันมาช้านานว่า 
การค้นพบปราสาทเขาพระวิหารบนเทือกเขาพนมดงรัก ที่บ้านภูมิซรอล ตำบลบึงมะลู 
อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นั้น 
มีทางขึ้นอยู่เชิงเขาด้านล่างทางทิศเหนือไปจนสุดยอดเขาซึ่งอยู่สูงจากระดับ
น้ำทะเล ๖๕๗ เมตร ที่มีชะง่อนหน้าผาลงไปสู่พื้นที่ที่เรียกกันว่าเขมรต่ำ 
อันเป็นเขตอำเภอจอมกระสานจังหวัดกำปงธมประเทศกัมพูชา  ปราสาทพระวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๕ - ๑๖ เพื่อเป็น 
ศาสนสถานของลัทธิไศวนิกายที่นับถือพระศิวะ (อิศวร) 
เป็นพระผู้เป็นเจ้าศักดิ์สิทธิ์ 'ซึ่งถูกทิ้งร้างประมาณ พ.ศ.๑๙๗๔ 
หลังจากที่พระเจ้าสามพระยาได้ยกทัพมาตีกรุงศรียโสธรปุระ (นครวัด นครธม) 
ของกัมพูชาได้ และในปี พ.ศ.๒๔๔๒ 
นั้นพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพประสิทธิ์ประสงค์ 
ผู้สำเร็จราชการหัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออกได้ไปพบปราสาทนี้ 
ในครั้งนั้นพระองค์ทรงตั้งชื่อว่า ปราสาทพรหมวิหาร แทนชื่อ ปราสาทศิขเรศวร 
และสลักข้อความไว้ที่ชะง่อนผาเป้ยตาดีว่า "๑๑๘ สรรพสิทธิ์" (๑๑๘ 
คือร.ศ.๑๑๘) 
อันเป็นหลักฐานที่เกิดก่อนการทำสัญญาปักปันเขตแดนไทยกับฝรั่งเศสในปี
พ.ศ.๒๔๔๗(ค.ศ.๑๙๐๔)  ในยุคการล่าอาณานิคมของฝรั่งเศสนั้นได้ทำให้ภูมิภาคส่วนนี้ถูกรุกรานไปด้วย
 กล่าวคือ ปี พ.ศ.๒๔๑๐ นั้นไทย (สยาม) 
จำต้องทำสนธิสัญญายอมยกกัมพูชาให้ฝรั่งเศสเป็นผู้อารักขายกเว้นเสียมราฐ 
พระตะบอง และศรีโสภณ ที่ยังเป็นของไทยจนเมื่อเกิดกรณีพิพาทสยาม - ฝรั่งเศส 
ในปี พ.ศ.๒๔๓๖ ฝรั่งเศสได้ส่งเรือปืนเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยา 
และบังคับให้ไทย (สยาม) ยกดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงให้ฝรั่งเศส 
ซึ่งเป็นการเสียลาวและกัมพูชาให้ฝรั่งเศสตั้งแต่ครั้งนั้น  จากกรณีฝรั่งเศสยึดจันทบุรีและยึดตราดจนเป็นเหตุให้ไทยต้องทำสนธิสัญญาในปี
 พ.ศ.๒๔๔๗ (ค.ศ.๑๙๐๔) 
ยกหลวงพระบางกับดินแดนภาคใต้ของเทือกเขาพนมดงรักให้ฝรั่งเศสเพื่อแลกกับ
จันทบุรี 
ซึ่งสนธิสัญญาฉบับนี้ได้กำหนดให้ใช้สันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตแดนสยาม - 
ฝรั่งเศสตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก  พ.ศ.๒๔๕๐ (ค.ศ.๑๙๐๗) ไทย (สยาม) ทำสนธิสัญญายกเสียมราฐ พระตะบอง 
และศรีโสภณให้ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับเมืองด่านซ้าย ตราด และเกาะทั้งหลาย 
ซึ่งอยู่ใต้แหลมสิงห์ไปจนถึงเกาะกูด คืนมาเป็นของไทย 
และกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศสปี พ.ศ.๒๔๘๓ ก่อนสงครามมหาเอเซียบบูรพานั้น 
ทำให้พ.ศ.๒๔๘๔ รัฐบาลไทยได้เข้ายึดดินแดนที่เคยเสียไปในรัชกาลที่ 
๕คืนมาตามสนธิสัญญาโตเกียว 
แต่เมื่อสงครามมหาเอเชียบูรพายุติลงและญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้สงคราม 
ก็ทำใหไทยต้องคืนดินแดนดังกล่าวให้ฝรั่งเศสอีก 
แต่ไทยก็ยังคงครอบครองปราสาทพระวิหารอยู่ 
ซึ่งฝรั่งเศสได้ประท้วงในเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง ใน พ.ศ.๒๔๙๒(ค.ศ.๑๙๔๙)  ครั้นเมื่อกัมพูชาได้เอกราชโดยสมบูรณ์ในปี พ.ศ.๒๔๙๖ (ค.ศ.๑๙๕๓) ต่อมาใน 
พ.ศ.๒๕๐๐ ประเทศไทยตกลงจะเจรจาปัญหาเขตแดนกับกัมพูชา 
ซึ่งกัมพูชาได้ตอบรับว่าพร้อมที่จะเจรจา แต่ก็ไม่มีการเจรจากันแต่อย่างใด 
ตั้งแต่นั้นมาได้เกิดการประท้วงเรียกร้อง-การเจรจา- หลายครั้งหลายหน 
ในที่สุดวันที่ ๓ กรกฏาคม พ.ศ.๒๕๐๕ 
รัฐบาลไทยได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่สามจำยอมปฏิบัติตามคำพิพากษาเนื่องจาก
ตระหนักถึงกรณีในกฎบัตรสหประชาชาติของประเทศไทยและได้ส่งหนังสือแจ้งนายอู
ถั่น รักษาการเลขาธิการสหประชาชาติ 
โดยตั้งข้อสงวนของไทยในคดีดังกล่าวให้ทราบต่อมาคณะรัฐมนตรีได้กำหนดขอบ
เขตบริเวณปราสาทพระวิหารโดยกำหนดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ารอบปราสาทล้อมรั้ว
ลวดหนามและทำป้ายบอกเขตบริเวณไทย-กัมพูชา | 
วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ปราสาทพระวิหาร ภูมิประเทศที่ไทยตั้งชื่อเป็นหลักฐาน (ภูมิบ้าน ภูมิเมือง)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค
บทความย้อนหลัง
- 
        ▼ 
      
2011
(568)
- 
        ▼ 
      
พฤษภาคม
(131)
- 
        ▼ 
      
08 พ.ค.
(9)
- ไก่ตัวเท่าควายของนายกษิตและกระทรวงต่างประเทศ
- mou43 จะทำไทยเสียดินแดน
- อาจารย์สมปองอธิบาย mou43
- ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล “ถ้าศาลโลกตัดสินไม่เป็นธรรม ไ...
- ปราสาทพระวิหาร ภูมิประเทศที่ไทยตั้งชื่อเป็นหลักฐาน...
- สาส์นด่วนถึงคนไทยทุกคน
- 33 ประเด็นถามตอบ ไทยกำลังเสียดินแดน
- มิตรอย่างฮุนเซน..ขอมีหมาหลังอานเป็นเพื่อนดีกว่า
- ‘ฮุนเซน’ได้หรือเสียอะไรจากการทำศึกชายแดนกับไทย โดย...
 
 
- 
        ▼ 
      
08 พ.ค.
(9)
 
- 
        ▼ 
      
พฤษภาคม
(131)
 
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น