บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล “ถ้าศาลโลกตัดสินไม่เป็นธรรม ไทยก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม”




  ประเด็นร้อนที่สุดในขณะนี้คงหนีไม่พ้นกรณีที่รัฐบาลกัมพูชายื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก ใน 2 ประเด็น คือ (1) ขอให้ตีความคำพิพากษาเดิมในปี 2505 โดยอาศัยธรรมนูญศาลโลก ในมาตรา 60 และ (2) ขอให้ศาลโลกออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราว และให้ไทย ถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทปราสาทพระวิหารทันที โดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลโลกในครั้งนี้จะนำไปสู่การเสียดินแดนไทยจำนวนมหาศาล ทั้งในส่วนของพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบปราสาทพระวิหาร และพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอีกกว่า 2 ล้านไร่ เนื่องจากกัมพูชาอ้างอิงถึงการใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ซึ่งจะทำให้แผนที่กัมพูชาล้ำเข้ามาในเขตไทยมีผลบังคับใช้
      
       'ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์' จึงได้สัมภาษณ์พูดคุยกับ 'ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล” อดีตเอกอัครราชทูต ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายระหว่างประเทศ และทนายผู้ประสานงานคดีปราสาทพระวิหาร พ.ศ. 2502-2505 ซึ่งกัมพูชานำเรื่องขึ้นสู่ศาลโลกเมื่อ 49 ปีก่อน โดย ดร.สมปอง ได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ รวมทั้งชี้แนะแนวทางในการต่อสู้คดีที่จะทำให้ไทยไม่เสียดินแดน
      
       **อยากให้อาจารย์วิเคราะห์กรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชายื่นคำร้องต่อศาลโลกในครั้งนี้
      
       ตอนนี้กัมพูชาแค่ยื่นคำร้องเท่านั้น ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ 1 ขั้นต่อไปกัมพูชาจะต้องยื่นคำแถลงคำฟ้องเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเขาต้องการให้ศาลพิจารณาหรือตีความเรื่องอะไร จากนั้นศาลก็จะแจ้งให้ฝ่ายไทยทราบว่ากัมพูชาเสนอคำฟ้องว่าอย่างไร รวมทั้งให้เวลาฝ่ายไทยในการตอบคำให้การแก้ฟ้อง ซึ่งศาลต้องแจ้งด้วยว่าจะให้ตอบภายในกำหนดเวลาเท่าไร แล้วจึงถามต่อไปว่ากัมพูชาจะตอบคำแก้ของไทยหรือเปล่า ถ้าตอบจะตอบว่าว่าอย่างไร และไทยจะตอบคำแก้ของกัมพูชาอีกหรือเปล่า ถ้าตอบ ตอบว่าอย่างไร จากนั้นจึงจะนัดพิจารณาด้วยวาจา นอกจากนั้นศาลโลกก็ต้องดูด้วยว่าคดีนี้เป็นคดีเก่าหรือคดีใหม่
      
       **เห็นคุณกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า ศาลโลกให้ไทยและกัมพูชา เข้าชี้แจงด้วย
      
       วาจาต่อองค์ประกอบคณะผู้พิพากษาศาลโลก ในวันที่ 30-31 พ.ค.นี้ และคาดว่าการตัดสินของศาลโลกจะเกิดขึ้นต้นปีหน้า ท่านก็คงได้รับแจ้งมาอย่างนั้น ก็ต้องรอดูต่อไป
      
       **ในคำร้องที่ยื่นต่อศาลโลก กัมพูชาระบุว่า เส้นเขตแดนที่กำหนดไว้ในแผนที่ที่ศาลอ้างถึงในการตัดสินเมื่อปี 2505 เป็นแผนที่ที่ทำให้กัมพูชามีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนที่ประสาทพระวิหารตั้งอยู่ ซึ่งกัมพูชาอาจจะขยายเขตแนวไปถึงพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรที่อยู่รอบตัวปราสาทด้วย
      
       ทำไม่ได้ ศาลโลกจะพิจารณาพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรไม่ได้ มันคนละเรื่องกัน
      
       **การที่กัมพูชาได้ยื่นร้องต่อศาลโลกให้มีการออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ขอให้ไทยถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทปราสาทพระวิหารทันที สามารถทำได้ไหม
      
       ศาลโลกไม่มีอำนาจ ศาลโลกอาจจะสั่งได้แต่ว่าไม่มีใครเขาทำตาม
      
       **ท่านนายกฯอภิสิทธิ์ ระบุว่าจะใช้ทีมทนายจากฝรั่งเศสในการสู้คดีในศาลโลก
      
       นายกฯ เรียนกฎหมายมาหรือเปล่า จะใช้ทนายฝรั่งเศสได้ยังไงในเมื่อเขาเป็นคู่กรณีกับเรา เขาไม่รู้เลยหรือว่าไทยมีคดีกับใคร ไม่รู้เชียวหรือว่าใครฟ้อง ไม่รู้เลยหรือว่าใครเป็นโจทก์ใครเป็นจำเลย ไม่รู้เลยหรือฝรั่งเศสก็คอยแนะนำประเทศที่เคยเป็นเมืองขึ้นเขาอยู่ ฝรั่งเศสเขาเป็นฝ่ายโน่นนะ
      
       **ฝรั่งเศสเป็นฝ่ายเดียวกับกัมพูชา ?
      
       ฝรั่งเศสกับกัมพูชาประเทศเดียวกัน เราจ้างทนายฝรั่งเศสก็เหมือนกับเราจ้างทนายเขมร ถ้าจ้างทนายฝรั่งเศสก็เท่ากับขายชาติ จะให้เขารู้ความลับเรายังไม่ได้เลย จะไปจ้างเขาเป็นทนาย
      
       **ทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมองว่าหากเรื่องขึ้นสู่ศาลโลก น่าจะให้อาจารย์เป็นทนายฝ่ายไทยในการสู้คดีครั้งนี้
      
       ก็เป็นมุมมองของพันธมิตรฯ แล้วก็เป็นเรื่องของรัฐบาลว่าจะเลือกให้ใครเป็นทนายสู้คดี
      
       **ถ้าสมมุติว่ารัฐบาลเห็นว่าอาจารย์เหมาะสม อาจารย์พร้อมรับหน้าที่นี้ไหม
      
       อย่าเพิ่งถามผมเลย ให้เรื่องมันมาถึงก่อน
      
       **การที่ไทยสู้คดีพระวิหารในศาลโลกครั้งนี้ โอกาสที่จะชนะหรือแพ้มีมากกว่ากัน
      
       ไม่มีทางที่จะคาดเดาได้
      
       **อาจารย์มองว่าข้อต่อสู้ที่เป็นจุดแข็งของไทยอยู่ตรงไหน
      
       เป็นเรื่องที่เราพูดไม่ได้เป็นอันขาด เพราะจะเป็นการเผยไต๋ให้เขารู้ แต่เรื่องอะไรเราจะไปยอมเสียดินแดนไทยให้กัมพูชา เขาไม่ใช่มหาอำนาจ เขาไม่ใช่ฝรั่งเศสนี่ ทำไมเราไปประเคนให้เขาล่ะ
      
       **เรื่องนี้มีทางออกไหม
      
       ทุกเรื่องมีทางออก แต่รัฐบาลจะเห็นหรือไม่เท่านั้นเอง
      
       **ทางออกที่เราจะไม่เสียดินแดน เป็นไปได้ไหม
      
       เราจะไปเสียได้อย่างไร ยังไงคนไทยก็ไม่ยอม รัฐบาลเองก็ไม่มีสิทธิไม่มีอำนาจเหนือประชาชน รัฐบาลต้องเข้าใจว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเอกราช มีอธิปไตย เราจะไปยอมให้ประเทศอื่นมารังแกหรือยกดินแดนให้ประเทศนั้นประเทศนี้ได้อย่างไร รัฐบาลไม่มีอำนาจ แล้วรัฐบาลก็มีอายุในการบริหารงานซึ่งไม่ยาวนานนัก และพลังของมวลชนก็เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ถ้ารัฐบาลทำให้ไทยเสียดินแดน ตัวเขาตลอดจนพี่น้องลูกหลานก็ต้องเสียชื่อไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นรัฐบาลจะทำอะไรต้องศึกษาให้ดี ต้องดูข้อเท็จจริงให้ดีๆ ข้อกฎหมายก็ศึกษาเสียบ้าง
      
       อะไรที่เราไม่อยากให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ก็เก็บไว้เป็นความลับ ไม่ใช่ไปจ้างฝ่ายตรงข้ามมาเป็นทนาย อย่างนี้มีเท่าไรก็หมด ถ้าไม่รู้แม้กระทั่งว่าใครเป็นฝ่ายตรงข้ามเราก็หมดไปนานแล้ว คุณจำไม่ได้เลยหรือเมื่อ 50 กว่าปีก่อนเกิดอะไรขึ้น คุณจำไม่ได้เหรอ..มีคนติดตารางนะ ทั้งเจ้าหน้าที่สถานทูตและเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศติดตารางนะเพราะเขาขโมยข้อมูลจากโทรเลขซึ่งเป็นความลับในการสืบคดีไปให้ฝ่ายตรงข้ามแล้วถูกตำรวจสันติบาลจับได้ คนที่ติดตารางก็มีทั้งคนไทยและคนที่มีชื่อเป็นฝรั่งเศสด้วย อย่างกรณี MOU 43 (บันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ปี 2543) ผมก็เคยเตือนแล้วว่าจะนำไปสู่การเสียดินแดน แต่เขาดื้อ คือคนที่เกี่ยวข้อง 2-3 คนดื้อ เมื่อไรเขาจะเลิกทิฐิเสียที เขาน่าจะรักชาติมากกว่าพรรค มากกว่าพวกพ้อง ไม่อยากให้พรรคพวกเสียชื่อ แล้วไม่กลัวเสียชาติหรือ เราต้องสำนึกถึงชาติเกิดนะ นึกถึงบุญคุณของประเทศชาติ แต่บางคนเขาก็อาจจะไม่ได้เกิดในเมืองไทยก็ได้ ผมว่าอธิปไตยของชาติน่าจะสำคัญกว่าอะไรทั้งหมดนะ
      
       **ที่ผ่านมากัมพูชาพยายามเปิดเกมโจมตีประเทศไทยมาตลอด
      
       ใช่ เขาทำมานานแล้ว ทำมาตลอดเวลา เขาทำทุกรูปแบบ ทั้งการสู้รบทางทหารและการโจมตีแบบกองโจร ในส่วนของสงครามข่าวสารเขาก็ทำมาตลอด บางคนก็เป็นพวกลอบกัด มันไม่กล้าสู้ซึ่งซึ่งหน้าหรอก ตอนไปรังแกเวียดนามเขาก็กระทืบกลับมาทีหนึ่งแล้ว มันก็วิ่งหนี เอาจริงมันก็ไม่กล้าสู้ ปะทะกับไทยคราวนี้กัมพูชาก็เอาเขมรแดง เอาญวน ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลกัมพูชามาสู้รบเพราะต้องการให้ไทยฆ่าพวกนี้ตายให้หมด เขาจะได้สิ้นเสี้ยนหนาม เขามายืมมือเรา ทุเรศ รัฐบาลกัมพูชาทำเป็นเปิดเจรจาแต่ก็ยังให้ทหารโจมตีไทยอยู่ อย่างนี้เราจะไปเจรจากับเขาทำไม ผลักดันกัมพูชาออกไปนอกประเทศเราก่อนสิแล้วค่อยเจรจา ให้เขาลงไปอยู่ที่ตีนเขา ปล่อยให้เขาขึ้นมาได้ยังไง ทำไมละเลยกันขนาดนี้ ทหารก็ต้องสู้ ให้เขามายึดพื้นที่เราได้ยังไง แล้วการป้องกันตัวตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศเนี่ยถ้ากัมพูชารุกล้ำเข้ามาหรือแม้แต่ใช้กำลังแสดงท่าทีข่มขู่ ทหารไทยไม่จำเป็นต้องให้เขายิงก่อนนะ เรายิงสกัดได้ทันที ถ้าคุณรอให้เขายิงก่อนคุณก็แพ้สิ เวลารบกันเนี่ยใครเขารอให้ฝ่ายตรงข้ามยิงก่อนล่ะ ถ้าจะเปิดเจรจาเราก็ต้องไล่เขาไปก่อนแล้วค่อยเจรจา ไม่ใช่ให้เขามาขี่คอเราแล้วมาขอเจรจา
      
       **ดูเหมือนไทยปล่อยให้กัมพูชาโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว แต่เรานิ่งเฉย ไม่ผลักดันกัมพูชาที่รุกล้ำดินแดนไทยออกไป รวมถึง ไม่ได้ชี้แจงให้นานาชาติเข้าใจว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรด้วย
      
       แล้วรัฐบาลไม่กลัวมีความผิดฐานนิ่งเฉยหรือ ไม่กลัวถูกขึ้นศาลหรือ
      
       **ครั้งนี้คนไทยก็หวังว่าจะได้เห็นความยุติธรรมของศาลโลก
      
       ใช่ ศาลโลกต้องแก้ไขสิ่งที่เคยทำผิดไว้สิ ศาลโลกไม่คิดจะกลับตัวหรือ เป็นคนดีเสียมั่งสิ ไม่อย่างนั้นใครจะไปนับถือล่ะ ทำตัวให้มันดี เป็นถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ คุณเข้าข้างประเทศนั้นประเทศนี้มันก็แย่น่ะสิ ขายหน้าเขาตาย ทำอย่างนี้ทำได้ยังไง
      
       **ถ้าการตัดสินไม่ยุติธรรมก็เท่ากับศาลโลกกำลังประจานตัวเองต่อประชาคมโลก
      
       ใช่แล้ว อย่างคุณอภิสิทธิ์ทำผิดเขาก็ต้องรู้ตัวว่าเขาผิด เขาแก้ตัวได้ ไม่เป็นไร เราต้องให้อภัยเขา เขาไม่รู้เรื่องเลย สมมุตินะ ก็ต้องเห็นใจเขา สงสารเขา แต่เขาคงไม่ตั้งใจจงใจจะยกดินแดนไทยให้เขมร เพียงแต่เขาเป็นสุภาพบุรุษไปหน่อย
      
       **จริงๆ แล้วที่ผ่านมาบางประเทศก็ไม่ได้ยินยอมปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลก
      
       ใช่ อย่างกรณีที่ศาลโลกเคยสั่งว่าอเมริกาห้ามประหารชีวิตนักโทษคนหนึ่ง แต่อเมริกาก็ประหารชีวิตนักโทษคนนั้นทันทีเลย
      
       **แปลว่าถึงที่สุดแล้ว ถ้าเห็นว่าคำตัดสินของศาลโลกไม่เป็นธรรม ไทยไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลกก็ได้ใช่ไหม
      
       ใช่ ศาลโลกไม่มีอำนาจอะไรนี่ ประเทศไทยมีเอกสิทธิ์เหนือดินแดนของเรา ตอนที่ศาลโลกตัดสินกรณีปราสาทพระวิหารเมื่อปี 2505 ไทยก็ชี้แจงไปแล้วว่าเราไม่รับคำตัดสิน เพราะศาลตัดสินผิด กลับไปดูจดหมายของท่านถนัด คอมันตร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในสมัยนั้นได้เลย ท่านคัดค้านคำตัดสินของศาลโลก และขอสงวนสิทธิ์ในการทวงคืนประสาทพระวิหารจากกัมพูชา
      
       **กรณีปราสาทพระวิหารที่ผ่านมา ไทยบ้าจี้ทำตามศาลโลกเอง
      
       ไทยเป็นคนดีเอง ไม่มีใครเขาดีขนาดที่ไทยทำหรอก
      
       **เพราะฉะนั้นทางออกทางเดียวของรัฐบาลตอนนี้ก็คือถ้าเห็นว่าคำตัดสินของศาลโลกไม่เป็นธรรม ไทยก็ไม่ต้องยอมรับคำตัดสิน
      
       ใช่ แต่ทางออกไม่ได้มีทางเดียวนะ มีหลายทาง ในเมื่อที่ผ่านมารัฐบาลไทยเคยสงวนสิทธิ์เอาไว้แล้วว่าจะทวงคืนประสาทพระวิหาร นี่ก็เป็นโอกาสที่ไทยจะเรียกทวงคืนได้เลย จบ! เขาเปิดโอกาสให้เราแล้วนี่ ศาลรู้สึกว่าพิจารณาผิดไปใช่ไหมถึงได้พิจารณาใหม่ คือถ้าศาลจะพิจารณาใหม่เราก็ขอให้ยกเลิกคำพิพากษาเดิม ซึ่งหมายความว่าประสาทพระวิหารก็จะกลับมาเป็นของไทย ตอนนี้ก็ต้องรอดูไปก่อน
      
       **อาจารย์คิดว่าสิ่งที่รัฐบาลไทยควรทำที่สุดในตอนนี้คืออะไร
      
       สิ่งที่ควรทำที่สุดก็คือการรักษาอำนาจอธิปไตยของไทยไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก แต่ไม่ทำกัน คงต้องร้องเพลงต้นตระกูลไทยให้ฟัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง