ทฤษฏีสมคบคิดแห่งศตวรรษ / Conspiracy Theory of the century!
โดย...ดร.ไก่ Tanond /Kobnokkala Kob/ Tanawat Wongpromdej


เป้าหมาย - เปลี่ยแปลงเส้นเขตแดนบนบกและในทะเล
ยุทธศาสตร์ - ขายชาติ
ยุทธวิธี - MOU43 และแผนที่มาตราส่วน 1 : 200000
ผู้เล่น - ฝ่ายกัมพูชา(ฮุนเซน : ตัวละครเอก / ชาติมหาอำนาจ : วายร้ายหลังฉาก)
ผู้เล่น - ฝ่ายไทย (นายกรัฐมนตรีไทยนับแต่2542เป็นต้นมา : ตัวละครเอก
- รัฐมนตรีผู้เกี่ยวข้องในคณะรัฐบาลชุดดังกล่าวที่อยู่ในอำนาจ : พระรอง)

เช่นนี้แล้ว ผู้ที่รู้เรื่องดีที่สุดคนเดียวสำหรับเรื่องนี้ ก็คือ ฮุนเซน ผู้กำความลับทุกอย่างระหว่างคณะรัฐบาลทุกชุดที่เกี่ยวข้อง นับแต่2542เป็นต้นมา เขาผู้นี้จึงเป็นผู้ทำเกม กำหนดกฏเกณฑ์ จะฟังหรือไม่ฟังฝ่ายไทย ที่ร่วมสบคบคิดโดยเปลี่ยนมือกันสมยอม ยอมเป็นเบี้ยล่างฮุนเซนมาโดยตลอด
และนี่อาจจะเป็นคำตอบ ให้ประชาชนคนไทยได้เข้าใจว่าทำไม รัฐบาลไทยถึงต้องยอมเขมร ยอมฮุนเซนมัน อย่างที่เรางุงงงกัน!

ความหมาย ทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี คือ เรื่องเล่า บทความที่สร้างขึ้นมาจากความคิดของคน หรือกลุ่มคน โดยนำเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งอาจมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นอื่นๆเพื่อให้ประโยชน์/ให้โทษต่อบุคคลหรือ กลุ่มบุคคลหนึ่งใด หรืออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลักษณะของทฤษฎีสมคบคิดโดยทั่วไปมีข้อเท็จจริงประกอบอยู่เพียงเล็กน้อย หรือส่วนหนึ่ง เพียงเพื่อเสริมให้เกิดความน่าเชื่อถือว่ามีหลักฐานสนับสนุนที่ดูเหมือน เกี่ยวข้องกันเท่านั้น อาจมีเหตุผลสนับสนุนจากความเชื่อส่วนบุคคล ความเชื่อเกี่ยวกับทางศาสนา การเมือง หรือวัฒนธรรมที่แตกต่างไป เรื่องเหล่านี้นักวิชาการจะไม่ใช้อ้างอิง ผู้อ่านควรใช้วิจารณญานก่อนที่จะเชื่อเรื่องนั้นๆ ประเทศสหรัฐอเมริกามีหน่วยงานที่จะดูแล และกลั่นกรองเรื่องเหล่านี้โดยเฉพาะ http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=05cc91cead4bfa07&pli=1

เอาแค่การเริ่มต้นการสมคบคิด -
การกำเนิดเกิดขึ้นของ MOU43 ที่บังอาจกระทำขึ้น แม้บริเวณพื้นที่4.6ตารางก.ม.จะได้ถูกประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติไปแล้วในปีพ.ศ.2542 กรรมสิทธิ์บนพื้นที่ดังกล่าวจึงชัดเจน และชัดเจนมาอย่างต่อกว่า 100ปี ว่าเป็นของไทย เช่นนี้แล้วการกำหนดเส้นเขตแดนใหม่?? ตามแผนที่มาตราส่วน 1 : 200000 เข้าไปในเอกสาร MOU43 ที่กำเนิดเกิดขึ้นโดยรู้อยู่แล้วว่า พื้นที่บริเวณนั้น คือ เขตอุทยานแห่งชาติของไทย คือ ปฐมบทของทฤษฏีสมคบคิด เพื่อขายชาติ

ส่วนการปิดเกม ในสิ่งที่พวกตนได้เริ่มไว้นับแต่ปี43

เมื่อได้เข้ามามีอำนาจใหม่ ก็คือ 3 เรื่องหลักๆที่ได้เคยกล่าวไว้
1.คงไว้ซึ่ง MOU43 - ยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ที่เห็นเป็นรูปธรรม

2.extraterritoriality - เรื่องสิทธิเหนืออาณาเขต โดยใช้คดี 7 คนไทย ทำให้เกิดการใช้กฎหมายของเขมร ตัดสินคดีบนพื้นแผ่นดินไทย(ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย) เพื่ออ้างสิทธิ์บริเวณพื้นที่ดังกล่าว ว่าเป็นของเขมร ให้ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นที่ประจักษ์แก่ชาติมหาอำนาจที่สมคบคิดอยู่เบื่องหลัง

3.การแก้ไข รธน.มาตรา190 - หมกเม็ดแก้ไขการลงสัตยาบันในเรื่องของอาณาเขตออกไป(ไม่ต้องผ่านรัฐสภา) เพื่อให้คุณทางกฎหมาย คุ้มครองพวกตน ที่ได้เริ่มสมคบคิดกระทำผิด นับแต่2543เป็นต้นมา

เมื่อไทยไปศาลโลก รอบ2
ถ้าบทบาทของผู้นำในเรื่องนี้ ได้เป็นไปในทางตรงกันข้าม ผมคงไม่ห่วง
ทว่าในความเป็นจริง ตามที่ผมได้พยายามจะวาดให้เห็นภาพ จากสิ่งที่ได้
เกิดขึ้นมาแล้วด้านบนนี้ ผมอดไม่ได้ที่ต้องห่วงอย่างหนัก ว่าการไปศาล
โลกครั้งนี้ มันจะเป็นการปิดเกมเรื่องสมคบคิดนี้ ให้จบลงอย่างสนิท ก็คง
ทำได้แต่รอดูผล ว่าความมหัศจรรย์ หรือ ความหายนะอันใหญ่หลวง มันจะเกิด?

ความเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ของพระสยามเทวาธิราช ว่าจะต้องปกปักษ์รักษาประเทศชาติไว้ได้(เป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจของพลเมืองผู้รักชาติหวงแผ่นดิน แต่อาจไม่มีผลให้รักษาแผ่นดินไว้ได้?)กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา และทุกคนหนีไม้พ้นกฎแห่งกรรม นายกรัฐมนตรีคนนี้ก็ไม่มีทางหนีพ้น สักวันเขาอาจจะไม่มีแผ่นดินจะอยู่ เหมือนที่ศาสดาของเขาเคยทำนายทักษิณเอาไว้ก็ได้ เขาเองตระหนักดีว่าเขาทำผิดหรือถูก ถ้าไม่สำนึกกลับตัวกลับใจ ก็รอวันหายนะมาสู่ตนเองและตระกูลเถิด เพราะกรรมนี้ย่อมส่งผลรุนแรงแน่นอน

หมายเหตุ - เห็นบนเวทีมิได้กล่าวถึงข้อ2.extraterritoriality
จึงขอเสริมเติมว่า การที่เราจะเสียสิทธิเหนือดินแดนได้(ส่วนใหญ่จะกล่าวถึงอันนี้มากกว่า) มันต้องมีเหตุ ซึ่งเหตุที่รุนแรงที่สุดที่จะทำให้เสียสิทธิได้ ก็มาจาก การถูกใช้สิทธิเหนืออาณาเขตที่ว่านี้แหละครับ เพราะเป็นการถูกใช้อำนาจทางกฎหมายของผู้อื่น มาตัดสินเหนือพื้นที่ของเราเอง จึงเท่ากับเรายอมรับ สิทธิทางกฎหมาย ของผู้อื่นบนดินแดนของเรา (เหมือนสมัยรัชกาลที่4 ที่อังกฤษทำกับเรา)