บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

ข้อเท็จจริง หลักฐานและพยานยืนยันว่าคนไทยถูกทหารเขมรจับในแผ่นดินไทย (เชื่อว่าพยานอาจกำลังโดนอำนาจมืด บิดเบือนในขณะนี้)

 
ขณะนี้มีการพยายามเผยแพร่ข้อมูลเท็จว่า ๗ คนไทยรุกล้ำแดนเขมร เพื่อหวังประโยชน์เฉพาะหน้าให้ศาลเขมรตัดสินว่าผิด แล้วขออภัยโทษกษัตริย์เขมร (หวังง่ายๆว่าได้คนไทยกลับมาเร็วที่สุด แต่ความเสี่ยงคือนายวีระและพวก อาจโดนข้อหาหนัก แยกลงโทษขังลืมได้) ซึ่งมีข้อเสียคือ

(๑) ผิดข้อเท็จจริง เพราะคนไทยถูกจับบนแผ่นดินไทย ทำให้เขมรอ้างคำตัดสิน ได้อำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่เกิดเหตุ > JBC ยอมเขมรโดยอ้างคำตัดสินศาลเขมร > แผนที่ 1:200,000 ชอบธรรม > กินพื้นที่ชายแดนตลอดแนว > เปลี่ยนตำแหน่งหลักเขต 73 ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นเส้นไหล่ทวีป> ได้พื้นที่อ่าวไทยเพิ่ม บนพื้นฐาน MOU44 ที่เขมรมั่วเส้นอาณาเขตทางทะเล

(๒) ส่งผลต่อเนื่องเสียอธิปไตยเหนือพื้นที่เขาพระวิหาร (ถือว่าไทยยกเลิก การสงวนสิทธิ์กับ UN)

(๓) ภาคประชาชนเสียความชอบธรรม เพราะข้อเท็จดังกล่าวหลอกสังคมได้ โดยอ้างสันติภาพและการค้าเขมร > ภาคประชาชนถูกมองเป็นตัวถ่วงความเจริญในสายตาสังคมไทย > การคอรัปชั่นต่อเนื่อง ง่ายขึ้น

(๔) ไทยสุ่มเสี่ยงเสียดินแดนทางนิตินัย ๑.๘ ล้านไร่ทางบก เสียเขตแดนทางทะเลและแหล่งพลังงานอ่าวไทย ๑ใน ๓ เสียอธิปไตยเหนือพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร  และเสียปราสาทโบราณตามแนวชายแดน (เขมรและมหาอำนาจ ตั้งกาสิโน ศูนย์อบายมุขต่างๆ เอื้อประโยชน์เขมร)

(๕) เสื่อมพระเกียรติบูรพกษัตริย์ไทย (โดยเฉพาะ ในหลวงรัชกาลที่ ๙) และศักดิ์ศรีคนไทยทั้งประเทศ

ข้อเท็จจริง ตามข้อมูลพิกัด ตชด.และทหารกองกำลังบูรพา ข้อมูลชาวบ้านในพื้นที่ ข้อมูล น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตรมว.ต่างประเทศ ซึงยืนยันด้วยประสบการณ์ตรง สมัยดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยเลขาสมช.ที่ทำงานในพื้นที่นี้ ยืนยันว่าคนไทยถูกทหารเขมรจับในแผ่นดินไทยแน่นอน และยังมีความเห็นผู้เชี่ยวชาญกฏหมายระหว่างประเทศ ดร.สมปอง สุจริตกุล และนักการทูตตามข่าว 
  •  ข้อมูลพิกัดตชด.และกองกำลังบูรพา
“๑.พิกัดที่ TA519234 ของ กก.ตชด.12(ร.126)  (พล็อตบนแผนที่ L7018 ตชด.) เป็นพิกัดที่แสดงว่าคนไทยทั้ง ๗ คนยังอยู่ในประเทศไทย
  ๒.พิกัด TA518234 ของ กก.ตชด.12(ร.126) คุณวีระ สมความคิดได้ถูกจับในพิกัดนี้ เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๓ อันเป็นการถูกจับครั้งแรกก็ยังอยู่ในดินแดนประเทศไทย”

แถลงการณ์คนไทยทั้ง ๗ อยู่ในดินแดนประเทศไทย โดย Thepmontri Limpaphayom
http://www.facebook.com/note.php?note_id=179692985397755
แผนที่แสดงพิกัด
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=144775175579383&set=a.143450629045171.33174.143444275712473
แผนที่ L7018 เต็มรูป
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=1518441967820&set=a.1371582536426.2046528.1437631173

แผนที่ L7018 ขยาย
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=1518443367855&set=a.1371582536426.2046528.1437631173
  • ข้อมูลน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
“การตั้งค่ายผู้อพยพบ้านหนองจานเกิดในช่วงรอยต่อปี ๒๕๑๙-๒๕๒๐ ขณะเป็นผู้ช่วยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ดูแลผู้อพยพหนีภัยสงครามระหว่างรัฐบาลนายพล ลอน นอล กับเขมรแดงของ พล พต ลงพื้นที่พร้อมกับพันโทสนั่น ขจรกล่ำ (ยศในขณะนั้น) นายทหารอื่นและผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยฯ ได้จัดพื้นที่บ้านหนองจานซึ่งอยู่ลึกเข้ามาในเขตไทยระหว่างหลักเขตที่ ๔๖ และ ๔๗ เป็นที่พักพิงสำหรับผู้อพยพ โดยได้ขอใช้ที่ดินของชาวบ้าน(คนไทย)ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น...ต่อมาได้มีการจัดทำแนวลวดหนามเพื่อกันไม่ให้ชาวกัมพูชาล้ำเข้ามามากกว่าพื้นที่ที่จัดให้และไม่ให้เข้ามาปะปนกับคนไทย” น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
http://www.15thmove.net/article/clip-panich-nong-chan-khmer-4-nong-chan-refugee-camp/
http://www.15thmove.net/article/clip-panich-nong-chan-khmer-5-past-unhcr-agreement/
  • ข้อมูลชาวบ้านในพื้นที่
"เกี่ยวกับค่ายอพยพหนองจาน มีการออกมาระบุว่าเป็นของกัมพูชา ชาวบ้านคนหนึ่งได้กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีหลักเขตแดนอย่างสมบูรณ์ โดยหลักเขตที่ 48 ก็สมบูรณ์ดี ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งยืนยันได้ว่าเป็นดินแดนของไทย ไม่ใช่ของกัมพูชา อีกทั้งตนยังเคยไปทำมาหากินยังพื้นที่ดังกล่าว ดังนั้น ที่ออกมากล่าวหาว่าชาวบ้านบอกว่าคนไทยทั้ง 7 คนถูกจับในดินแดนของกัมพูชา ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะคนเหล่านั้น ถูกจับตอนอยู่ที่ถนนในเขตดินแดนของประเทศไทย ทั้งนี้ บริเวณที่เกิดเหตุยังไม่ถึงบ่อน้ำ UN เลยด้วยซ้ำไป

ชาวบ้านอีกคน กล่าวว่า การที่นายศิริโชค บอกว่าชาวบ้านเข้าใจผิดว่าดินแดนดังกล่าวเป็นของประเทศไทย ตนไม่เข้าใจว่าจะเข้าใจผิดได้อย่างไร ในเมื่ออาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวตั้งแต่เด็ก ตนอยากขอร้องผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่าพูดว่าเป็นแผ่นดินของกัมพูชาอีกเลย เพราะมันเป็นที่ดินของคนไทย ตนอยากถามว่ารักประเทศไทยกันบ้างหรือไม่ โดยสำหรับตนและชาวบ้านรักดินแดนประเทศไทยทุกตารางนิ้ว แต่วันนี้มาเรียกร้องสิทธิของเราไม่ได้ กลับถูกข่มขู่ไม่ให้พูด บางครั้งมีการมาข่มขู่หน้าบ้านว่าต้องการระเบิดสักลูกไหม รวมทั้งเรื่องคนไทยทั้ง 7 คนก็ห้ามพูดว่าถูกจับในเขตแดนไทย"
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000005706
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000003664
  • แผนที่ แสดงจุดที่คนไทยถูกจับ
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=184876711530444&set=a.142845025733613.20874.100000243505855
  • ภาพถ่ายดาวเทียม แสดงจุดที่คนไทยถูกจับ
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=173881759315249
http://www.15thmove.net/article/clip-panich-nong-chan-khmer-2-kasit-map/
  • ความเห็นดร.สมปอง สุจริตกุล อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญา และผู้เชี่ยวชาญกฏหมายระหว่างประเทศ
“การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นความโชคดีของคนไทยที่ได้ลืมตาเสียที และจะได้จี้ให้รัฐบาลไทยเข้าใจว่ากัมพูชาเป็นอย่างไร รัฐบาลอย่ามัวเพ้อฝันว่ากัมพูชาจะเหมือนกับประเทศพม่าหรือมาเลเซียที่พูดคุยกันรู้เรื่อง คนของเราประมาทที่ไม่เอาตำรวจตระเวนชายแดนของเราเข้าไปด้วย เราไม่คุ้มครองคนของเราเอง รัฐบาลมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มีหน้าที่ตามจรรยาบรรณ มีหน้าที่ตามกฎหมายระหว่างประเทศ มีหน้าที่ตามกฎหมายไทยที่จะต้องให้ความคุ้มครองคนในชาติของตนเอง แต่คนในรัฐบาลกลับไปพูดคล้ายๆ ว่าคนของเราบุกรุกเข้าไป คนที่โดนจับกุมเป็นถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีอภิสิทธิ์เหนือคนในชาติ ผมไม่เชื่อว่าจะมีรัฐบาลไทยสมัยไหนจะทำให้คนไทยเสื่อมเสียได้มากไปกว่านี้”
http://www.rsunews.net/News/Perspicuity.htm
  • ความเห็นนักการทูต ตามข่าว 
“ตั้งแต่ 7 คนไทยถูกจับกุม รัฐบาลทำผิดพลาดอย่างน้อย 3 เรื่อง ได้แก่
 1.ด่วนสรุปว่าที่ดินตรงจุดที่ 7 คนไทยถูกจับอยู่ในเขตแดนของกัมพูชา ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีความชัดเจน
 2.การดำเนินการทางการทูตผิดขั้นตอน โดยเฉพาะนายกฯอภิสิทธิ์ โทรศัพท์สายตรงถึงสมเด็จฮุนเซน ซึ่งน่าจะเป็นกระบวนการขั้นสุดท้าย แต่กลับดำเนินการเป็นลำดับแรก เมื่อถูกผู้นำกัมพูชาปฏิเสธ จึงเท่ากับว่าช่องทางการสื่อสารเพื่อช่วยเหลือ 7 คนไทยถูกปิดสนิท
3.นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เดินทางไปกัมพูชาเร็วเกินไป ทั้งๆ ที่ไม่มีความจำเป็น
"ผมไม่เห็นด้วยที่คุณกษิตเดินทางไปกัมพูชาหลังเกิดเรื่องทันที เพราะคุณอภิสิทธิ์ใช้ฮอตไลน์ไปแล้วยังไม่ได้ผล จึงไม่มีความจำเป็นต้องไป และการที่คุณอภิสิทธิ์ใช้ฮอตไลน์ ก็เป็นการข้ามขั้นตอน กระโดดไปขั้นตอนสุดท้ายเลย พอไม่ได้ผลแล้วจะย้อนไปขั้นที่ 1 จึงเป็นไปไม่ได้ และจะยิ่งไม่ได้ผลอะไรเลย"”
"หลายฝ่ายสงสัยกันมากว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของบุคคลในรัฐบาลสมคบกับผู้นำกัมพูชาเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจการค้าและลดปัญหาการเมืองภายในประเทศไทยเอง ถือเป็นวิธีการที่ไม่ตรงไปตรงมา แต่ใครก็ตามที่สงสัยเรื่องนี้คงไม่มีหลักฐาน เพียงแต่หากมีการสมคบคิดหรือเกี้ยเซี้ยกันระหว่างผู้มีอำนาจของทั้งสองประเทศจริง ย่อมเป็นอันตรายและเสี่ยงต่อการถูกแทรกแซงจากอำนาจภายนอก และฮุนเซนจะกลับมามีบทบาทกับการเมืองภายในของไทยอีกครั้งหนึ่ง
"มีอย่างที่ไหน ถูกจับไปวันเดียว วันรุ่งขึ้นคนในรัฐบาลรีบบอกเลยว่าจุดที่จับอยู่ในเขตเขมร มันไม่น่าเชื่อ พื้นที่ตรงนั้นเคยเป็นค่ายผู้อพยพสมัยที่เขมรยังมีสงครามกลางเมือง ฉะนั้น จึงเป็นไปไม่ได้จะเป็นดินแดนของเขมร และคนในรัฐบาลก็ไม่ควรสรุปเช่นนั้นด้วย" นักการทูต กล่าวทิ้งท้าย"
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/analysis/20110113/371619/news.html

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง